ข่าวใหม่อัพเดท » ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 7 มีคำพิพากษาลงโทษเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ป.ตบทรัพย์เจ้าของรถยนต์เถื่อน

ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 7 มีคำพิพากษาลงโทษเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ป.ตบทรัพย์เจ้าของรถยนต์เถื่อน

4 พฤศจิกายน 2020
0

ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 7 มีคำพิพากษาลงโทษเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ป.ตบทรัพย์เจ้าของรถยนต์เถื่อน
 
วันที่ 4 พ.ย.63 : คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภารรัฐ (ป.ป.ท.) เปิดเผยว่า คดีที่ ปปท.กล่าวหา พ.ต.ท.วิชัย (นามสมมุติ) ผู้ถูกกล่าวหาที่ 1, จ.ส.ต.สมเกียรติ (นามสมมุติ) ขณะเกิดเหตุดำรงตำแหน่ง ผบ.หมู่ กก.3 บก.ป.ฯ ผู้ถูกกล่าวหาที่ 2 และนายทูร (นามสมมุติ) ผู้ถูกกล่าวหาที่ 3 ว่ากระทำการทุจริตในภาครัฐ กล่าวคือ เมื่อวันที่ 2 ธ.ค.53 ผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 และผู้ถูกกล่าวหาที่ 2 ได้ตรวจยึดรถยนต์ของนาย ธ. เนื่องจากต้องสงสัยว่าเป็นรถยนต์ที่มีไว้หรือได้มาโดยผิดกฎหมายหรือลักลอบนำเข้ามาในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย

ต่อมา วันที่ 3 ธ.ค.53 ผู้ถูกกล่าวหาที่ 2 ได้เรียกรับเงินจำนวน 300,000 บาท จากนาย ช. บิดาของนาย ธ. โดยให้ฝากเงินเข้าไปยังบัญชีธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) สาขาบางบัวทอง ซึ่งเป็นบัญชีของผู้ถูกกล่าวหาที่ 3 เพื่อแลกกับการคืนรถยนต์ และจะไม่ดำเนินการตรวจสอบรถยนต์คันดังกล่าวตามกฎหมายต่อไป

คณะกรรมการ ป.ป.ท. พิจารณาแล้วในคราวการประชุมครั้งที่ 11/2557 เมื่อวันที่ 26 มี.ค.57 มีมติเป็นเอกฉันท์ชี้มูลความผิดว่า การกระทำของผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 149 มาตรา 157 และมาตรา 162 (1) และ (4) การกระทำของผู้ถูกกล่าวหาที่ 2 เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 149 มาตรา 157 และการกระทำของผู้ถูกกล่าวหาที่ 3 เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 149 มาตรา 157 ประกอบมาตรา 86 และได้ส่งสำนวนให้พนักงานอัยการดำเนินคดีอาญากับผู้ถูกกล่าวหาทั้งสาม

พนักงานอัยการ สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีปราบปรามการทุจริต 1 ภาค 7 ได้ยื่นฟ้องผู้ถูกกล่าวหาที่ 2 เป็นจำเลยต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 7 เพียงคนเดียว เนื่องจากอัยการสูงสุดมีคำสั่งเด็ดขาดไม่ฟ้องคดี ผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 ส่วนผู้ถูกกล่าวหาที่ 3 หลบหนียังไม่ได้ตัวมา

ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 7 ได้มีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 15 ก.ย.63 เป็นคดีหมายเลขดำที่ อท 2/2563 คดีหมายเลขแดงที่ อท 44/2563 ว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 149 (เดิม) จำคุก 4 ปี คำให้การและทางนำสืบของจำเลยเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้หนึ่งในสาม ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุก 3 ปี 4 เดือน

พนักงานอัยการพิจารณาแล้วเห็นว่า คำพิพากษาศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 7 ชอบแล้วมีคำสั่งไม่อุทธรณ์ ส่งสำนวนคดีอาญามาให้คณะกรรมการ ป.ป.ท. พิจารณา

คณะกรรมการ ป.ป.ท. พิจารณาเมื่อวันที่ 3 พ.ย.63 มีมติเห็นชอบไม่อุทธรณ์คำพิพากษาของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 7 ตามความเห็นของพนักงานอัยการ


 สุรเชษฐ ศิลานนท์ รายงาน

error: Content is protected !!