ข่าวใหม่อัพเดท » การวิเคราะห์สารสนเทศ ด้านการประชาสัมพันธ์ สนับสนุนการปฏิบัติการข่าวสาร ในการแก้ไขปัญหา จชต.

การวิเคราะห์สารสนเทศ ด้านการประชาสัมพันธ์ สนับสนุนการปฏิบัติการข่าวสาร ในการแก้ไขปัญหา จชต.

13 มกราคม 2020
0

บทสรุปผู้บริหาร

        จากการติดตามสถานการณ์ข่าวที่เกิดขึ้นจากการนำเสนอของสื่อมวลชนภายในประเทศในช่วงวันที่ ๔-๑๐ ม.ค. ๖๓ พบว่า มีข่าวเชิงบวก ๑๓๓ ข่าว จากที่มี ๗๒ ข่าวในสัปดาห์ที่แล้ว (๒๘ ธ.ค. ๖๓-๓ ม.ค. ๖๓) ในส่วนของข่าวเชิงลบที่เกี่ยวข้องกับ จชต. มีข่าวเชิงลบ ๕๗ ข่าวในสัปดาห์นี้ จากที่มี ๕๑ ข่าวในสัปดาห์ที่แล้ว (๒๘ ธ.ค. ๖๓-๓ ม.ค. ๖๓)
          ประเด็นเชิงลบ ได้แก่

  • อาชญากรรมในพื้นที่: คนร้ายขับกระบะยิงชาวบ้าน ‘บาเจาะ’ ดับ คาดสร้างสถานการณ์-ขัดแย้งธุรกิจ 
  • เหตุร้ายรายวัน: ควบปิคอัพยิงใส่ป้อมหน้าค่ายปิเหล็ง รับ ๑๖ ปีปล้นปืน
  • สิทธิมนุษยชน: ก่อน ‘วิ่งไล่ลุง’ นศ.PerMAS เผย ทหารเข้าถามข้อมูลกับแม่ เช็คเคยร่วมแฟลชม็อบ ‘ไม่ถอยไม่ทน’ หรือไม่
  • กระบวนการยุติธรรม: Man of the Year 2019 คณากร เพียรชนะ ‘คืนคำพิพากษาให้ผู้พิพากษาคืนความเป็นธรรมให้ประชาชน’
  • การเมือง: ๑) ‘ทวี’ ชี้ทางออกในการแก้ไฟใต้ ปัญหาอาจจะอยู่ที่ ‘ภาวะผู้นำ’, ๒) ๑๖ ปีไฟใต้…เมื่อกลไกสภาขึงขัง ระวังเป็น’จุดตาย’รัฐบาลลุงตู่, ๓) เอาแล้ว! กมธ.กฎหมาย สภาฯ เรียก ‘๔ ผบ.ทบ.’ แจง หลัง ‘บุรินทร์’ ซัดทอด ไล่จับ นักกิจกรรม, ๔) ฝ่ายค้านล็อคเป้าถล่มงบกลาง-กห. ซุกเบี้ยเลี้ยงดับไฟใต้ ๔ พันล้าน? และ ๘) เดลินิวส์: เด็กยุคใหม่สะท้อนความจริง

          ประเด็นข่าวเชิงบวก ได้แก่

  • การสร้างความเข้าใจ และความสมานฉันท์: ตัวแทนครู-นักเรียนชายแดนใต้ เข้าพบ’บิ๊กตู่’ทำเนียบรัฐบาลในโอกาสวันเด็ก-วันครู
  • เศรษฐกิจ และการสร้างรายได้: ๑) เบตงคึกคักนักท่องเที่ยวมาเลย์-สิงคโปร์, ๒) มหาวิทยาลัยราชภัฏยะลาสนับสนุน หลักสูตรภาษามลายูสู่ตลาดแรงงาน และ ๓) รายงาน: ‘ศอ.บต.’เร่งดันหลังเกษตรกรชายแดนใต้ ให้พ้นวิกฤตราคายางดิ่งเหว ‘๔ โลฯ ๑๐๐’
  • ทุจริตคอรัปชั่น: อธิบดีป่าไม้ตั้งสอบข้อเท็จจริง เลิกจ้าง จนท.พิทักษ์ป่ายะลา
  • การ รปภ.ชีวิต/ทรัพย์สิน:) ‘มทภ.๔’ หวังดับไฟใต้ได้ ใช้ความจริง-ลดเงื่อนไข, ๒) เปิดแผนประทุษกรรมปล้นปิค อัพยิงถล่ม ค่ายปิเหล็ง, ๓) ‘ตม.ปัตตานี’ ตรวจเข้มพื้นที่ รวบเมียนมาหลบหนีเข้าเมือง, ๔) มท.๒ ลุยตรวจเยี่ยม-ให้กำลังใจ อส.ชายแดนใต้, ๕) มภท.๔ สั่งลุยกวาดล้าง! แก๊งมอดไม้เหิม รุกป่า สงวนฯ ยะลาเสียหาย ๔๐ ไร่ และ ๖) เร่งไล่ล่า ‘๑๙ โรฮิงญา’ แหกศูนย์กักตัวตม.สงขลา ล่าสุดจับได้แล้ว ๑ คน
  • ยาเสพติด: ๑) ทัพภาค ๔ เดินหน้าแก้ปัญหายาเสพติดในสตูล, ๒) ‘บิ๊กป้อม’ ขึงขังยันยึด กม. ฟันฉับตำรวจโยงยาเสพติดต้องให้ออก, ๓) ออกจากคุกมา หมาดๆ! หนุ่มซุกยาบ้า ๒ พันเม็ด สารภาพหาเงิน ซื้อรถเก๋ง และ ๕) บุกทลายโกดังบุหรี่ไฟฟ้ารายใหญ่ ยึดของกลางมูลค่า ๕ ล้านบาท

         จากสถานการณ์ข่าวที่เกิดขึ้นจากการนําเสนอของสื่อมวลชน ส่งผลให้ระดับการรับรู้เชิงบวกที่มีต่อสถานการณ์ จชต. ในสัปดาห์นี้ เพิ่มขึ้น จาก ๐.๗๑ ในสัปดาห์ ที่แล้ว (๒๘ ธ.ค. ๖๓-๓ ม.ค. ๖๓) เป็น ๑.๓๖ ในสัปดาห์นี้

       ในส่วนของประเด็นสำคัญจากสื่อมวลชนต่างประเทศและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในช่วงวันที่ ๔–๑๐ ม.ค. ๖๓ ดังนี้

          การหลบหนีของผู้ต้องหาชาวโรฮิงญา ๑๙ คนจากสถานที่ควบคุมตัวตำรวจตรวจคนเข้าเมือง อ.สะเดา จ.ว.ส.ข. เมื่อวันที่ ๘ มกราคม เป็นประเด็นทื่สื่อมวลชนต่างประเทศสนใจ และ รายงานมากที่สุดในประเด็นเกี่ยวกับจังหวัดชายแดนภาคใต้  เนื่องด้วยประเด็นผู้อพยพชาวโรฮิงญาเป็นประเด็นสากลที่ถูกจับตา และ เป็นปัญหาระดับโลก ทั้งนิ้สื่อที่รายงานประเด็นนี้ประกอบด้วยสำนักข่าว Reuters, Straits Times สื่อสิงคโปร์ และ สื่อมาเลเซียหลายแห่ง

          Benarnews.org หยิบงานวิจัยของนักวิชาการในประเทศสิงคโปร์ ประจำวิทยาลัยนานาชาติศึกษา เอส ราชา รัตนัม แห่งมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีหนานหยาง เกี่ยวกับทิศทางการพูดคุยเพื่อสันติสุขใน จชต. มารายงาน โดยระบุ ว่า “แนวโน้มในประเด็นที่ยังคงมีปัญหาต่อเนื่อง ระหว่างรัฐบาลไทย และ ขบวนการแบ่งแยกดินแดน  บีอาร์เอ็น คงเป็นประเด็นที่กลุ่มบีอาร์เอ็นเรียกร้องให้มีประชาคมนานาชาติเข้าสังเกตการณ์ร่วมในการพูดคุยฯ กับรัฐบาลไทยด้วย” พร้อมกับชี้ว่า หากบีอาร์เอ็นไม่เข้าร่วมโต๊ะเจรจา ก็ยากที่จะเห็นความคืบหน้าของกระบวนการสร้างสันติสุข

       สื่อมาเลเซียรายงานว่า มัสยิดกรือเซะแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ที่ได้รับความนิยมในหมู่นักท่องเที่ยวมาเลเซียมากเป็นลำดับต้นๆ

     จากสถานการณ์ข่าวทั้งใน และต่างประเทศ และภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีข้อเสนอแนะในการประชาสัมพันธ์ ดังนี้

       ๖.๑ ประชาสัมพันธ์ผลการปฏิบัติงานป้องกัน และ ปราบปรามการค้ามนุษย์ในพื้นที่รับผิดชอบของ กอ.รมน.ภาค ๔ สน. ในรอบปี ๒๕๖๒ ทั้งนี้ควรมีการดำเนินการจัดทำเอกสารข้อมูลตัวเลขสถิติการจับกุม และ ช่วยเหลือเหยื่อการค้ามนุษย์ ในรอบปี ๒๕๖๒ เผยแพร่แก่สื่อมวลชน และ ช่องทางเผยแพร่ข่าวสารทางสื่อสังคมออนไลน์ ในห้วงเวลาที่สื่อมวลชนกำลังให้ความสนใจกับข่าวผู้ต้องขังชาวโรฮิงญา ๑๙ คนหลบหนีออกจากที่ควบคุมตัวผู้ต้องหาของสำนักงานตำรวจตรวจคนเข้าเมือง อ.สะเดา จ.ว.ส.ข. เมื่อวันที่ ๘ มกราคม ดังนั้นห้วงสัปดาห์นี้จึงเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมในการประชาสัมพันธ์ผลการปฏิบัติงานป้องกัน และ ปราบปรามการค้ามนุษย์ในพื้นที่รับผิดชอบของ กอ.รมน.ภาค ๔ สน. เนื่องจากเป็นช่วงเวลาที่สื่อมวลชนทั้งไทย และ ต่างประเทศ สนใจติดตามข่าวผู้หลบหนีเข้าเมืองชาวโรฮิงญาไหลบหนีออกจากที่ควบคุมตัวที่ ตม.อ.สะเดา จึงเป็นช่วงเวลาที่ข้อมูลเกี่ยวกับการป้องกัน และ ปราบปรามการค้ามนุษย์ในพื้นที่ชายแดนไทย-มาเลเซีย จะได้รับความสนใจ และ เผยแพร่อย่างกว้างขวาง (highly media exposure)

       ๖.๒ ประชาสัมพันธ์ข้อมูลเชิงบวกสะท้อนประวัติศาสตร์ความเป็นสังคมพหุวัฒนธรรมในพื้นที่ปัตตานี และ จังหวัดชายแดนภาคใต้ สืบเนื่องจากรายงานข่าวของ New Straits Times สื่อมาเลเซีย เมื่อวันที่ ๘ มกราคม ระบุว่า มัสยิดกรือเซะเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมเป็นลำดับต้นๆ ในหมู่นักท่องเที่ยวมาเลเซีย ซึ่งนิยมเดินทางมาละหมาด และ ฟังเรื่องราวประวัติศาสตร์ และร่ องรอยความรุนแรงจากเหตุการณ์เมื่อปี ๒๕๔๗ จากการบอกเล่าของเจ้าหน้าที่มัสยิด และ โต๊ะอิหม่ามประจำมัสยิดกรือเซะ ซึ่งเป็นการรับฟังข้อมูลด้านที่เป็นประวัติศาสตร์บาดแผล ชาวมุสลิมถูกเจ้าหน้าที่ทหารไทยสังหารที่มัสยิดกรือเซะ ดังนั้นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับงานเผยแพร่ศิลปะวัฒนธรรม คือกระทรวงวัฒนธรรม และ กรมศิลปากร หรือ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการจัดการพิพิธภัณฑ์สมัยใหม่ ควรดำเนินการจัดพื้นที่แสดงนิทรรศการ ที่มีเนื้อหาด้านบวกสะท้อนความเป็นสังคมพหุวัฒนธรรมในดินแดนแห่งนี้มาตั้งแต่อดีต โดยนอกจากภาษาไทยแล้วจำเป็นอย่างยิ่งที่นิทรรศการต้องมีคำอธิบายเป็นภาษามลายู เพื่อให้นักท่องเที่ยวมาเลเซียที่เดินทางมาเยือนมัสยิดกรือเซะได้รับข้อมูลเชิงบวก ด้วย

๒. ผลการวิเคราะห์สารสนเทศด้านการประชาสัมพันธ์ ประจำวันที่ ๔–๑๐ ม.ค. ๖๓

     ๒.๑ เปรียบเทียบแนวโน้มความถี่ การนำเสนอประเด็นข่าวเชิงบวก และประเด็นข่าวเชิงลบ

ในช่วงวันที่ ๔-๑๐ ม.ค. ๖๓ มีข่าวเชิงบวก (เส้นทึบสีเขียว) ๑๓๓ ข่าว จากที่มี ๗๒ ข่าวในสัปดาห์ที่แล้ว (๒๘ ธ.ค. ๖๓-๓ ม.ค. ๖๓) สำหรับในมิติของแนวโน้มความถี่ (เส้นปะสีน้ำเงิน) มีแนวโน้มฯ เพิ่มขึ้น ในส่วนของข่าวเชิงลบที่เกี่ยวข้องกับ จชต. (เส้นทึบสีแดง) มีข่าวเชิงลบ ๕๗ ข่าวในสัปดาห์นี้ จากที่มี ๕๑ ข่าวในสัปดาห์ที่แล้ว (๒๘ ธ.ค. ๖๓-๓ ม.ค. ๖๓) สำหรับในมิติของแนวโน้มความถี่ (เส้นปะสีแดง) มีแนวโน้มฯ ค่อนข้างคงที่

๒.๒ ค่าสัดส่วนระหว่างข่าวเชิงบวก และข่าวเชิงลบ

เมื่อนำจำนวนข่าวเชิงบวก และจำนวนข่าวเชิงลบ ในแต่ละวันมาคำนวณหาค่าสัดส่วน ระหว่างข่าวเชิงบวกกับข่าวเชิงลบ พบว่าในแต่ละวันจะมีค่าสัดส่วนฯ ดังนี้

วัน/เดือน/ปี จำนวนข่าวเชิงบวก (1) จำนวนข่าวเชิงลบ (2) ค่าสัดส่วน (3)=(1)/(2)
2019-12-28 7 8 0.88
2019-12-29 10 8 1.25
2019-12-30 9 7 1.29
2019-12-31 11 7 1.57
2020-01-01 10 2 5
2020-01-02 6 9 0.67
2020-01-03 19 10 1.9
  10.29 7.29 1.41
2020-01-04 13 4 3.25
2020-01-05 10 8 1.25
2020-01-06 17 9 1.89
2020-01-07 37 4 9.25
2020-01-08 19 4 4.75
2020-01-09 20 13 1.54
2020-01-10 17 15 1.13
  19 8.14 2.33

๓. แนวโน้มในประเด็นที่เพ่งเล็ง ในช่วงวันที่ ๔ – ๑๐ ม.ค. ๖๓

     ๓.๑ ประเด็นการพูดคุยเพื่อสันติสุข

ไม่มีข่าวเชิงบวก และข่าวเชิงลบในประเด็นการพูดคุยฯ ทั้งในช่วงวันที่ ๔-๑๐ ม.ค. ๖๓ และในสัปดาห์ที่แล้ว (๒๘ ธ.ค. ๖๓-๓ ม.ค. ๖๓)

     ๓.๒ ประเด็นเหตุร้ายรายวัน

ในช่วงวันที่ ๔-๑๐ ม.ค. ๖๓ มีข่าวในประเด็นเหตุร้ายรายวัน ๑ ข่าว จากที่มี ๓ ข่าว ในสัปดาห์ที่แล้ว (๒๘ ธ.ค. ๖๓-๓ ม.ค. ๖๓) ในมิติของแนวโน้มความถี่ มีแนวโน้มฯ ต่ำค่อนข้างคงที่ ภาพข่าวในประเด็นเหตุร้ายรายวัน ได้แก่ ควบปิคอัพยิงใส่ป้อมหน้าค่ายปิเหล็ง รับ ๑๖ ปีปล้นปืน

     ๓.๓ ประเด็นการเมือง

ในช่วงวันที่ ๔-๑๐ ม.ค. ๖๓ มีข่าวเชิงบวกในประเด็นการเมืองเกี่ยวกับ จชต. ๗ ข่าว จากที่มี ๒ ข่าวในสัปดาห์ที่แล้ว (๒๘ ธ.ค. ๖๓-๓ ม.ค. ๖๓) ในมิติของแนวโน้มความถี่ มีแนวโน้มฯ ต่ำค่อนข้างคงที่ ในส่วนข่าวเชิงลบฯ มีข่าวเชิงลบ ๓๘ ข่าว ในสัปดาห์นี้ จากที่มี ๘ ข่าวในสัปดาห์ที่แล้ว (๒๘ ธ.ค. ๖๓-๓ ม.ค. ๖๓) ในมิติของแนวโน้มความถี่ มีแนวโน้มฯ เพิ่มขึ้น ภาพข่าวเชิงบวก ได้แก่ ‘บิ๊กตู่’ ประชุม ครม.สัญจรนราธิวาส 20-21 ม.ค.นี้  ภาพข่าวเชิงลบ ได้แก่ ๑) ‘ทวี’ ชี้ทางออกในการแก้ไฟใต้ ปัญหาอาจจะอยู่ที่ ‘ภาวะผู้นำ’, ๒) 16 ปีไฟใต้…เมื่อกลไกสภาขึงขัง ระวังเป็น’จุดตาย’รัฐบาลลุงตู่, ๓) เอาแล้ว! กมธ.กฎหมาย สภาฯ เรียก ‘4 ผบ.ทบ.’ แจง หลัง ‘บุรินทร์’ ซัดทอด ไล่จับ นักกิจกรรม, ๔) คอลัมน์ อ๊อด เทอร์โบ ดับเครื่องชน: 16 ปีไฟใต้หมดไป 3 แสนกว่าล้าน, ๕) 16 ปีไฟใต้…เด็กกำพร้า 7 พัน เหตุรุนแรงทะลุ 1 หมื่นครั้ง กับข้อกังขาซุกงบ!, ๖) ฝ่ายค้านล็อคเป้าถล่มงบกลาง-กห. ซุกเบี้ยเลี้ยงดับไฟใต้ 4 พันล้าน?, ๗) วิ่งไล่ลุง : กมธ.กฎหมายฯ เรียก 4 นายพล คสช. แจงปมละเมิดสิทธิ นักกิจกรรมการเมือง พร้อมเปิดให้คน “วิ่งไล่ลุง” ร้องเรียนหากถูกสกัด และ ๘) เดลินิวส์: เด็กยุคใหม่สะท้อนความจริง

     ๓.๔ ประเด็นการรักษาความปลอดภัยในชีวิต/ทรัพย์สิน

ในช่วงวันที่ ๔-๑๐ ม.ค. ๖๓ มีข่าวเชิงบวกในประเด็น รปภ.ในชีวิต/ทรัพย์สิน ๑๙ ข่าว จากที่มี ๑๒ ข่าวในสัปดาห์ที่แล้ว (๒๘ ธ.ค. ๖๓-๓ ม.ค. ๖๓)  ในมิติของแนวโน้มความถี่ มีแนวโน้มฯ ค่อนข้างคงที่  ในส่วนข่าวเชิงลบฯ มีข่าวเชิงลบ ๕ ข่าว ในสัปดาห์นี้ จากที่มี ๑๔ ข่าวในสัปดาห์ที่แล้ว (๒๘ ธ.ค. ๖๓-๓ ม.ค. ๖๓) ในมิติของแนวโน้มความถี่ มีแนวโน้มฯ ลดลง ภาพข่าวเชิงบวก ได้แก่ ๑) ‘มทภ.4’ หวังดับไฟใต้ได้ ใช้ความจริง-ลดเงื่อนไข, ๒) เปิดแผนประทุษกรรมปล้นปิค อัพยิงถล่ม ค่ายปิเหล็ง, ๓) ‘ตม.ปัตตานี’ ตรวจเข้มพื้นที่ รวบเมียนมาหลบหนีเข้าเมือง, ๔) มท.2 ลุยตรวจเยี่ยม-ให้กำลังใจ อส.ชายแดนใต้, ๕) มภท.4 สั่งลุยกวาดล้าง! แก๊งมอดไม้เหิม รุกป่า สงวนฯ ยะลาเสียหาย 40 ไร่, ๖) เร่งไล่ล่า ’19โรฮิงญา’ แหกศูนย์กักตัวตม.สงขลา ล่าสุดจับได้แล้ว 1 คน และ ๗) ทวงคืนผืนป่านราธิวาส! รุกตัดไม้เขตป่าไม้ ถาวรต้นแม่น้ำสายบุรีกว่า 30 ไร่ ภาพข่าวเชิงลบ ได้แก่ ๑) มาเลฯ จับเพิ่ม 1 โรฮิงญา! หนีศูนย์กักตัวสงขลา อีก 17 รายยังไร้ร่องรอย, ๒) จี้ กอ.รมน. แจงคดี ‘อับดุลเลาะ’ และ ๓) ปี 2563 ถ้า กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้ายังไม่ปรับแผน ‘ไฟใต้’ ก็ยังจะโชนแสงต่อไปอีกยาวนาน

     ๓.๕ ประเด็นเศรษฐกิจและการสร้างรายได้

ในช่วงวันที่ ๔-๑๐ ม.ค. ๖๓ มีข่าวเชิงบวก ในประเด็นเศรษฐกิจฯ ๒๖ ข่าว จากที่มี ๑๘ ข่าวในสัปดาห์ที่แล้ว (๒๘ ธ.ค. ๖๓-๓ ม.ค. ๖๓) ในมิติของแนวโน้มความถี่ มีแนวโน้มฯ เพิ่มขึ้น ในส่วนของข่าวเชิงลบในประเด็นเศรษฐกิจฯ มีข่าวเชิงลบ ๓ ข่าวในสัปดาห์นี้ จากที่มี ๑ ข่าวในสัปดาห์ที่แล้ว (๒๘ ธ.ค. ๖๓-๓ ม.ค. ๖๓) ในมิติของแนวโน้มความถี่ มีแนวโน้มฯ ต่ำค่อนข้างคงที่ ภาพข่าวเชิงบวก ได้แก่ ๑) เบตงคึกคักนักท่องเที่ยวมาเลย์-สิงคโปร์, ๒) มหาวิทยาลัยราชภัฏยะลาสนับสนุน หลักสูตรภาษามลายูสู่ตลาดแรงงาน, ๓) ชาวบ้านปลูกแตงโมขายสร้างรายได้, ๔) รายงานพิเศษ: กลุ่มเกษตรกรบ้านทรายขาว แปรรูป ‘ส้มแขก’ ตอบโจทย์ลูกค้า, ๕) นักธุรกิจปัตตานีชี้วางแผนรับปัญหา, ๖) ‘ม.นราธิวาส’ พัฒนามะพร้าว จว.ใต้, ๗) งานจักสาน’วานีตา’คราฟท์ไทยเจาะเทรนด์โลก กับไอเท็มแต่งบ้าน – แฟชัน 4 สไตล์, ๘) สสท.ลุยตั้งสันนิบาตสหกรณ์จว., ๙) ผลการดำเนินงานโครงการประกันรายได้เกษตรกรชาวสวนยาง ระยะที่ 1 และ ๑๐) รายงาน: ‘ศอ.บต.’เร่งดันหลังเกษตรกรชายแดนใต้ ให้พ้นวิกฤตราคายางดิ่งเหว ‘4โลฯ100’ ภาพข่าวเชิงลบ ได้แก่ รายงาน: ‘ยาง4โลฯ100′ ไม่ดรามา ลืมซะ! สัญญา 65บ./กก.’ทำได้จริง ทำทันที’

     ๓.๖ ประเด็นยาเสพติด

ในช่วงวันที่ ๔-๑๐ ม.ค. ๖๓ มีข่าวเชิงบวก ในประเด็นยาเสพติด ๘ ข่าวในสัปดาห์นี้ จากที่มี ๑๑ ข่าวในสัปดาห์ที่แล้ว (๒๘ ธ.ค. ๖๓-๓ ม.ค. ๖๓ในมิติของแนวโน้มความถี่ มีแนวโน้มฯ เพิ่มขี้นเล็กน้อย ในส่วนของข่าวเชิงลบในประเด็นยาเสพติด มีข่าวเชิงลบ ๔ ข่าวในสัปดาห์นี้ จากที่ไม่มีข่าวในสัปดาห์ที่แล้ว (๒๘ ธ.ค. ๖๓-๓ ม.ค. ๖๓) ในมิติของแนวโน้มความถี่ มีแนวโน้มฯ ต่ำค่อนข้างคงที่ ภาพข่าวเชิงบวก ได้แก่ ๑) ทัพภาค 4 เดินหน้าแก้ปัญหายาเสพติดในสตูล, ๒) ผู้การสงขลาตั้ง กก.2 ชุดสอบ ตร. ยักยอกของกลางยาไอซ์, ๓) ‘บิ๊กป้อม’ ขึงขังยันยึด กม. ฟันฉับตำรวจโยงยาเสพติดต้องให้ออก, ๔) ออกจากคุกมาหมาดๆ! หนุ่มซุกยาบ้า 2 พันเม็ด สารภาพหาเงิน ซื้อรถเก๋ง และ ๕) บุกทลายโกดังบุหรี่ไฟฟ้ารายใหญ่ ยึดของกลางมูลค่า 5 ล้านบาท ภาพข่าวเชิงลบ ได้แก่ จี้สอบ ตร.จับ’ไอซ์’อมของกลางมโหฬารกว่า 600 ล.

     ๓.๗ ประเด็นสิทธิมนุษยชน

            ในช่วงวันที่ ๔–๑๐ ม.ค. ๖๓ มีข่าวเชิงลบ ในประเด็นสิทธิมนุษยชน ได้แก่ ก่อน ‘วิ่งไล่ลุง’ นศ.PerMAS เผย ทหารเข้าถามข้อมูลกับแม่ เช็คเคยร่วมแฟลชม็อบ ‘ไม่ถอยไม่ทน’ หรือไม่

     ๓.๘ ประเด็นการบํารุงขวัญกําลังพล

           ในช่วงวันที่ ๔–๑๐ ม.ค. ๖๓ ไม่มีข่าวเชิงลบ ในประเด็นการบํารุงขวัญกําลังพล

     ๓.๙ ประเด็นเทคโนโลยีในการแก้ไขปัญหา จชต.

           ในช่วงวันที่ ๔–๑๐ ม.ค. ๖๓ ไม่มีข่าวเชิงลบ ในประเด็นเทคโนโลยีในการแก้ไขปัญหา จชต.

     ๓.๑๐ ประเด็นการบังคับใช้กฎหมาย

           ในช่วงวันที่ ๔–๑๐ ม.ค. ๖๓ ไม่มีข่าวเชิงลบ ในประเด็นการบังคับใช้กฎหมาย

๔. ประเด็นที่ส่งผลกระทบต่อการรับรู้ และแนวโน้มระดับผลกระทบต่อการรับรู้เชิงบวก

     ๔.๑ ประเด็นที่ส่งผลกระทบต่อการรับรู้

*หมายเหตุ ประเด็นเชิงลบค่าเป็นลบ

ประเด็นข่าวเชิงลบ

๑. อาชญากรรมในพื้นที่ ๑) คนร้ายขับกระบะยิงชาวบ้าน’บาเจาะ’ดับ คาดสร้างสถานการณ์-ขัดแย้งธุรกิจ  และ  ๒) ประกบยิงดับพ่อค้าที่บาเจาะ
๒. เหตุร้ายรายวัน ควบปิคอัพยิงใส่ป้อมหน้าค่ายปิเหล็ง รับ 16 ปีปล้นปืน
๓. กระบวนการยุติธรรม Man of the Year 2019 คณากร เพียรชนะ ‘คืนคำพิพากษาให้ผู้พิพากษาคืนความเป็นธรรมให้ประชาชน’
๔. สิทธิมนุษยชน ก่อน ‘วิ่งไล่ลุง’ นศ.PerMAS เผย ทหารเข้าถามข้อมูลกับแม่ เช็คเคยร่วมแฟลชม็อบ ‘ไม่ถอยไม่ทน’ หรือไม่
๕. การเมือง ๑) ส.ส.ฟ้อง จนท.รัฐไม่เข้าข่ายแทรกแซงหน้าที่ บรรทัดฐานจากศาล รธน., ๒) ‘ทวี’ ชี้ทางออกในการแก้ไฟใต้ ปัญหาอาจจะอยู่ที่ ‘ภาวะผู้นำ’, ๓) 16ปีไฟใต้…เมื่อกลไกสภาขึงขัง ระวังเป็น’จุดตาย’รัฐบาลลุงตู่, ๔) เอาแล้ว! กมธ.กฎหมาย สภาฯ เรียก ‘4 ผบ.ทบ.’ แจง หลัง ‘บุรินทร์’ ซัดทอด ไล่จับนักกิจกรรม, ๕) คอลัมน์ อ๊อด เทอร์โบ ดับเครื่องชน: 16 ปีไฟใต้หมดไป 3 แสนกว่าล้าน, ๖) บทความพิเศษ : การแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้, ๗) ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ประมวลสถานการณ์คุกคามสิทธิฯ’วิ่งไล่ลุง’, ๘) ‘ช่อ’ข้องใจ!สวมเสื้อวิ่งไล่ลุงเข้าสภาไม่ได้ เล็งง้างปาก’กอ.รมน.’, ๙) พท.จัด2ทีมซักฟอกถล่ม2ปมใหญ่, ๑๐) พท.แบ่ง2ทีม-ลุยซักฟอก2ปมใหญ่!, ๑๑) 16 ปีไฟใต้…เด็กกำพร้า 7 พัน เหตุรุนแรงทะลุ 1 หมื่นครั้ง กับข้อกังขาซุกงบ!, ๑๒) 16 ปีไฟใต้…ระวังเป็น”จุดตาย”รัฐบาลลุงตู่, ๑๓) รูป วิ่ง ไล่ ลุง นวัตกรรม การเมือง ออกไป ออกไป, ๑๔) รูป วิ่ง ไล่ ลุง นวัตกรรม การเมือง ออกไป ออกไป, ๑๕) ฝ่ายค้านล็อคเป้าถล่มงบกลาง-กห. ซุกเบี้ยเลี้ยงดับไฟใต้ 4 พันล้าน?, ๑๖) อาการ ผงาดขึ้น จากกิจกรรม ‘วิ่ง ไล่ ลุง’ เผชิญหน้า ท้าทาย, ๑๗) ‘วิ่งไล่ลุง’พรึ่บ34จว.วิษณุโต้ได้งบลับเดือนละล้าน, ๑๘) สภาผ่านงบกลาโหม หลังฝ่ายค้านรุมถล่มเรือดำน้ำ-ไฟใต้, ๑๙) วิ่งไล่ลุง : กมธ.กฎหมายฯ เรียก 4 นายพล คสช. แจงปมละเมิดสิทธินักกิจกรรมการเมือง พร้อมเปิดให้คน “วิ่งไล่ลุง” ร้องเรียนหากถูกสกัด, ๒๐) 16ปีไฟใต้..เมื่อกลไกสภาขึงขัง ระวังเป็น’จุดตาย’รัฐบาล, ๒๑) สัญญาณ ขาลง ประยุทธ์ พลังประชารัฐ มกราคม 2563, ๒๒) การยุทธ์ การเมือง การเมือง ใน’สมรภูมิ’ใหญ่ ปริมาณ คุณภาพ, ๒๓) กรณี วิ่งไล่ลุง พื้นที่ การเมือง ‘ใหม่’ ในโฉม สุขภาพ, ๒๔) เรียก’นายกฯ-3บิ๊กคสช.’ แจงคำสั่งจับนักกิจกรรม, ๒๕) คอลัมน์ สบายๆสไตล์ไมตรี: วิ่งไล่ลุงกับวิ่งเชียร์ลุง, ๒๖) จดหมายถึงเดลินิวส์, ๒๗) คอลัมน์: ในประเทศ: ก้าวคนละก้าว, ๒๘) เดลินิวส์: เด็กยุคใหม่สะท้อนความจริง, ๒๙) เดลินิวส์: เด็กยุคใหม่สะท้อนความจริง  และ  ๓๐) คอลัมน์ จดหมายถึงเดลินิวส์

ประเด็นเชิงบวก

๑. การช่วยเหลือประชาชน ๑) ‘บิ๊กตู่’นั่งผู้บัญชาการ ตั้งศูนย์แก้วิกฤติภัยแล้ง, ๒) ‘บิ๊กตู่’นั่งผู้บัญชาการ แก้ปัญหาวิกฤติน้ำ-ภัยแล้ง, ๓) คอลัมน์ ฅนปนข่าว: ลุยเจาะบ่อบาดาล  และ  ๔) ‘กปน.’ขอเจาะบ่อบาดาลใน4พื้นที่ใช้น้ำผลิตประปา,
๒. วัฒนธรรม และวิถีชีวิต ๑) จัดใหญ่งานวันเด็กปี2563คึกคัก, ๒) ‘เลียงโต๊ะจีน’กับการควบคุมชาวจีน ในกรุงเทพฯ สมัยรัชกาลที่ 5, ๓) วันเด็ก, ๔) ถูกทุกข้อ, ๕) เยาวชนเข้าค่ายพหุวัฒนธรรม, ๖) เยาวชนเข้าค่ายพหุวัฒนธรรม  และ  ๗) คอลัมน์ เรื่องเก่าเล่าสนุก: ครั้งแรกใน ๑๖๐ ปีที่กรุงเทพฯ ถูกโจมตี! ถล่มด้วยระเบิดทางอากาศ!!,
๓. กีฬา ๑) เจาะกติกาชิงบัลลังก์สมาคมบอลไทย, ๒) เดอะซันเกมส์, ๓) จับตา’อุตสาหกรรมกีฬา’ปี63, ๔) ฮอตนิวส์: ‘คิง เพาเวอร์’ แจกฟุตบอลกว่าแสนลูกวันเด็กปี 63, ๕) กุนซือสงขลาเชื่อทีมดีพอลุ้นแชมป์โซนใต้, ๖) ปืนใหญ่ใช้อุ่น3นัดวัดฝีเท้า, ๗) ‘บิ๊กก้อง’ลุยงานกีฬาปี63 ดันทัพไทยคว้าชัยโอลิมปิกเกมส์  และ  ๘) คิง เพาเวอร์ ส่งความสุข กระจายความสนุกทั่วไทย!!! แจกลูกฟุตบอลกว่าแสนลูก รับวันเด็กแห่งชาติปี 63,
๔. การยกระดับคุณภาพชีวิต ๑) รอบรั้วทั่วท้องถิ่นไทย, ๒) รอบรั้วทั่วท้องถิ่นไทย, ๓) กับแกล้มการเมือง: วันเด็ก, ๔) ชีพจรทั่วไทย, ๕) ‘ปิดทอง’9ปีดันศก.ชุมชน2.6พันล., ๖) คอลัมน์ ชีพจรทั่วไทย, ๗) ทางคนทางข่าว: เยี่ยมผู้เลี้ยงโคเนื้อตากใบ, ๘) นักท่องเที่ยวชมไทยเลิกใช้’ถุงพลาสติก’, ๙) นักท่องเที่ยวชมไทยเลิกใช้’ถุงพลาสติก’, ๑๐) ศอ.บต.-วิสาหกิจสุขภาพชุมชน สร้างอาชีพสตรีจว.ชายแดนใต้, ๑๑) ‘พ่อเมืองนราธิวาส’ สร้างความสุขปีใหม่ ชูผู้สูงอายุเป็น ‘ปูชนียบุคคล’, ๑๒) ข่าวภูมิภาค : 6 มกราคม 2563, ๑๓) รักษ์เกษตร : ระบบเกษตรผสมผสานเป็นอย่างไร, ๑๔) ลมหนาว’หิมาลัย’ปกคลุม ‘เหนือ’อุณหภูมิลด1-2องศาฯ, ๑๕) สคร.12 สงขลา เฝ้าระวังโรคปอดอักเสบจากเชื้อไวรัส เตรียมพร้อมป้องกันโรคทุกช่องทางเข้า-ออกประเทศ, ๑๖) สคร.12 สงขลา เฝ้าระวัง ‘โรคปอดอักเสบ’ ป้องกันทุกช่องทางเข้า-ออก, ๑๗) DTACมาแล้วรายที่สอง รับเอกสารประมูล5G, ๑๘) TRUEลั่นร่วมประมูล5Gแน่นอน แย้มสนใจเข้าชิงคลื่น2600MHz, ๑๙) ทีโอที-CATรับเอกสารประมูล5G ‘ADVANC’ เป็นรายที่ 5 เล็งมา 14 ม.ค.นี้  และ  ๒๐) ศอ.บต.-วิสาหกิจสุขภาพชุมชน สร้างอาชีพสตรีจว.ชายแดนใต้,
๕. การสร้างความเข้าใจ และความสมานฉันท์ ๑) คอลัมน์: สรุปข่าวในประเทศ: ส.ค.ส.เด็กๆ ถึงลุงตู่-ขออย่าวีน โอดบ้านไม่มีเงิน ‘ยาง’ ราคาตก, ๒) บางเที่ยวดีบางทีร้าย: แทนไท การเดินทางไม่มีคำนิยาม, ๓) คอลัมน์ บุ๊กสโตร, ๔) คอลัมน์ ไหลตามโลก, ๕) คอลัมน์ บุ๊กสโตร, ๖) ‘บิ๊กตู่’อ้อน3จว.ใต้-ยันรัฐบาลดูแลทุกคน, ๗) ‘บิ๊กตู่’ขอบคุณ!ทุกคนแสดงความเสียใจหลัง’บิดา’เสียชีวิต, ๘) เด็กไทยส่งส.ค.ส.ปีใหม่อวยพร’ลุงตู่’ ขออย่าวีน-ใจร้อน, ๙) ตัวแทนครู-นักเรียนชายแดนใต้ เข้าพบ’บิ๊กตู่’ทำเนียบรัฐบาลในโอกาสวันเด็ก-วันครู, ๑๐) เด็กไทยส่ง ส.ค.ส.อวยพรนายกฯ บอกรักนะลุงตู่ ขออย่าวีน-ใจร้อน, ๑๑) เด็กทั่วไทยส่ง ‘สคส.’ อวยพร ‘ลุงตู่’ ขอให้ต่อสู้กับสิ่งเลวร้าย บอกนายกฯ อย่าใจร้อน  และ  ๑๒) ‘ประยุทธ์’ขอบคุณทุกคนแสดงความเสียใจหลังบิดาเสียชีวิตวอนทุกฝ่ายประหยัดใช้น้ำ,
๖. การศึกษา ๑) ดีเดย์ใช้หลักสูตรพื้นฐานใหม่ปี65, ๒) ใช้จริงหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐานปี65, ๓) สพฐ. ดีเดย์ใช้หลักสูตรขั้นพื้นฐานใหม่ปี 65, ๔) กสศ. เดินหน้าช่วยเด็กอนุบาลยากจนพิเศษ 1.5 แสนคนทั่วประเทศ, ๕) นำร่องใช้หลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐานใหม่ 6จังหวัดก่อนใช้จริงทั้งปท.ปี65, ๖) กสศ. ขอบคุณ กมธ. คืนงบ 1.9 พันล้าน ช่วยเด็กเสี่ยงหลุดนอกระบบ 9 แสนคน, ๗) ร่างพระราชบัญญัติการอาชีวศึกษา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ….  และ  ๘) ‘ณัฏฐพล’ จี้ใช้หลักสูตรใหม่ปี 65-เน้นฐานสมรรถนะ,
๗. เศรษฐกิจ และการสร้างรายได้ ๑) เบตงคึกคักนักท่องเที่ยวมาเลย์-สิงคโปร์, ๒) เบตงคึกคักนักท่องเที่ยวมาเลย์-สิงคโปร์, ๓) ไทยสมายล์’Upcycling’, ๔) มหาวิทยาลัยราชภัฏยะลาสนับสนุน หลักสูตรภาษามลายูสู่ตลาดแรงงาน, ๕) ชาวบ้านปลูกแตงโมขายสร้างรายได้, ๖) ชาวบ้านปลูกแตงโมขายสร้างรายได้, ๗) ‘คมนาคม’เร่งเบิกจ่ายงบปี63 กระตุ้นลงทุนหนุนเศรษฐกิจ, ๘) ศิลปะวัฒนธรรม: จักสานไทย เทรนด์ระดับโลก, ๙) ไทยสมายล์เปิดตัวสินค้าโครงการ Upcycling the Sky สานต่อแนวคิด ‘ไทยสมายล์ รักษ์โลก’ ร่วมเติมรอยยิ้มสู่ความยั่งยืน, ๑๐) รายงานพิเศษ: กลุ่มเกษตรกรบ้านทรายขาว แปรรูป ‘ส้มแขก’ ตอบโจทย์ลูกค้า, ๑๑) นักธุรกิจปัตตานีชี้วางแผนรับปัญหา, ๑๒) รายงานพิเศษ: กลุ่มเกษตรกรบ้านทรายขาว แปรรูป ‘ส้มแขก’ ตอบโจทย์ลูกค้า, ๑๓) ‘ม.นราธิวาส’ พัฒนามะพร้าวจว.ใต้, ๑๔) ‘ม.นราธิวาส’ พัฒนามะพร้าวจว.ใต้, ๑๕) ข่าวสดทั่วไทย: สงขลา-จับหนีภาษี, ๑๖) พัฒนามะพร้าว, ๑๗) ภาพข่าว: พัฒนามะพร้าว, ๑๘) งานจักสาน’วานีตา’คราฟท์ไทยเจาะเทรนด์โลก กับไอเท็มแต่งบ้าน – แฟชัน 4 สไตล์, ๑๙) สสท.ลุยตั้งสันนิบาตสหกรณ์จว., ๒๐) TPCH ตั้งเป้าปีนี้ รายได้โตต่อเนื่องจากปี62 เหตุโรงไฟฟ้าชีวมวลและโรงไฟฟ้าขยะ 59 เมกฯ COD หนุน, ๒๑) ผลการดำเนินงานโครงการประกันรายได้เกษตรกรชาวสวนยาง ระยะที่ 1, ๒๒) รมว.แรงงาน นำคณะ เข้าพบนายกฯ ประชาสัมพันธ์ภารกิจบัณฑิตแรงงานสู่ความมั่นคงชายแดนใต้, ๒๓) ส่งเสริมปลาเลี้ยงง่ายใช้’ตลาดนำการผลิต”มีศักดิ์ ภักดีคง’ชูทิศทางประมงไทยปี 63  และ  ๒๔) รายงาน: ‘ศอ.บต.’เร่งดันหลังเกษตรกรชายแดนใต้ ให้พ้นวิกฤตราคายางดิ่งเหว’4โลฯ100’,
๘. ทุจริตคอร์รัปชั่น ๑) อธิบดีป่าไม้ตั้งสอบข้อเท็จจริง เลิกจ้างจนท.พิทักษ์ป่ายะลา, ๒) ทส.สั่งตั้งกก.สอบเรียกเงินเข้าทำงาน, ๓) ข่าวสั้น: สอบเจ้าหน้าที่ป่าไม้เรียกเงินแลกเข้าทำงาน, ๔) อธิบดีป่าไม้ สั่งสอบปมอดีตลูกจ้างโวยถูกปลด ขี้ขัดแย้งในหน่วยงาน, ๕) ชาวบ้านร่วมสอบทุจริตรัฐมากขึ้น, ๖) ปลัดทส.ตั้งกก.สอบปมลูกจ้างป่าไม้ร้องเลิกจ้างไม่เป็นธรรม เปิดช่องรีดเงินแลกรับเข้าทำงาน, ๗) ‘จตุพร’เผยอธิบดีป่าไม้ตั้งกก.สอบจนท.เรียกเงินแลกเข้างาน  และ  ๘) อธิบดีป่าไม้ยันให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย,
๙. การรักษาความปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สิน ๑) คอลัมน์ เก็บตกข่าวฮาประสาทหาร, ๒) ตรวจเยี่ยม, ๓) เดลินิวส์ก่อนขึ้นแท่น: มอดไม้บุกรุกป่าในยะลา, ๔) ล่า19โรฮีนจา แหกห้องขังตม., ๕) ทำแผน, ๖) ‘มทภ.4’หวังดับไฟใต้ได้ ใช้ความจริง-ลดเงื่อนไข, ๗) เปิดแผนประทุษกรรมปล้นปิคอัพยิงถล่มค่ายปิเหล็ง, ๘) บุกค้นรังโจรใต้ บนเทือกเขาในยะลา พบอุปกรณ์เสบียงอื้อ, ๙) ‘ตม.ปัตตานี’ตรวจเข้มพื้นที่ รวบเมียนมาหลบหนีเข้าเมือง, ๑๐) มท.2ลุยตรวจเยี่ยม-ให้กำลังใจอส.ชายแดนใต้, ๑๑) ‘ตม.ยะลา’รวบคาวัด สาวเมียนมาหนีเข้าเมือง, ๑๒) มภท.4สั่งลุยกวาดล้าง! แก๊งมอดไม้เหิม รุกป่าสงวนฯยะลาเสียหาย40ไร่, ๑๓) ‘ตม.ปัตตานี-จัดหางาน’รวบสาวใหญ่ฟิลิปปินส์ ขอเข้าไทยเพื่อมาเที่ยว ลอบทำงานเป็นครู, ๑๔) ข่าวภูมิภาค : 8 มกราคม 2563, ๑๕) เร่งไล่ล่า’19โรฮิงญา’แหกศูนย์กักตัวตม.สงขลา ล่าสุดจับได้แล้ว1คน, ๑๖) ล่าโรฮีนจาหนีศูนย์กักตัวสงขลา เสี่ยงตายโรยตัวตึก3ชั้น, ๑๗) ทวงคืนผืนป่านราธิวาส! รุกตัดไม้เขตป่าไม้ถาวรต้นแม่น้ำสายบุรีกว่า30ไร่, ๑๘) รู้จัก แอดมินคารมดี ‘เพจตำรวจภูธรเมืองสงขลา’ ตอบคอมเมนต์ฮา ใส่ใจประชาชน  และ  ๑๙) มทภ.4 สั่งไล่ล่าแก๊งมอดไม้รุกป่าสงวนยะลารวม40ไร่,
๑๐. ยาเสพติด ๑) เดลินิวส์ก่อนขึ้นแท่น: จับหนุ่มค้ายาบ้าซื้อรถเก๋ง, ๒) ทัพภาค4เดินหน้าแก้ปัญหายาเสพติดในสตูล, ๓) ผู้การสงขลาตั้งกก.2 ชุดสอบตร.ยักยอกของกลางยาไอซ์, ๔) ‘บิ๊กป้อม’ขึงขังยันยึดกม. ฟันฉับตำรวจโยงยาเสพติดต้องให้ออก, ๕) ออกจากคุกมาหมาดๆ! หนุ่มซุกยาบ้า2พันเม็ด สารภาพหาเงินซื้อรถเก๋ง, ๖) บุกทลายโกดังบุหรี่ไฟฟ้ารายใหญ่ ยึดของกลางมูลค่า5ล้านบาท  และ  ๗) ตำรวจทลายแหล่งขายบุหรี่ไฟฟ้ารายใหญ่ ยึดของกลางมูลค่า5ล้านบาท,

     ๔.๒ ระดับผลกระทบต่อการรับรู้เชิงบวก (Positive Awareness Level: AI) ต่อสถานการณ์ จชต.

  จากสถานการณ์ข่าวที่เกิดขึ้นจากการนําเสนอของสื่อมวลชน ส่งผลให้ระดับการรับรู้เชิงบวกที่มีต่อสถานการณ์ จชต. ในสัปดาห์นี้ เพิ่มขึ้น จาก ๐.๗๑ ในสัปดาห์ที่แล้ว (๒๘ ธ.ค. ๖๓-๓ ม.ค. ๖๓) เป็น ๑.๓๖ ในสัปดาห์นี้ ในมิติของแนวโน้มการรับรู้เชิงบวก มีแนวโน้มฯ เพิ่มขึ้น

๕. ประเด็นสําคัญจากสื่อมวลชนต่างประเทศ และภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในช่วงวันที่ ๔ – ๑๐ ม.ค. ๖๓

          การหลบหนีของผู้ต้องหาชาวโรฮิงญา ๑๙ คนจากสถานที่ควบคุมตัวตำรวจตรวจคนเข้าเมือง อ.สะเดา จ.ว.ส.ข. เมื่อวันที่ ๘ มกราคม เป็นประเด็นทื่สื่อมวลชนต่างประเทศสนใจ และ รายงานมากที่สุดในประเด็นเกี่ยวกับจังหวัดชายแดนภาคใต้  เนื่องด้วยประเด็นผู้อพยพชาวโรฮิงญาเป็นประเด็นสากลที่ถูกจับตา และ เป็นปัญหาระดับโลก ทั้งนิ้สื่อที่รายงานประเด็นนี้ประกอบด้วยสำนักข่าว Reuters, Straits Times สื่อสิงคโปร์ และ สื่อมาเลเซียหลายแห่ง

          Benarnews.org หยิบงานวิจัยของนักวิชาการในประเทศสิงคโปร์ ประจำวิทยาลัยนานาชาติศึกษา เอส ราชา รัตนัม แห่งมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีหนานหยาง เกี่ยวกับทิศทางการพูดคุยเพื่อสันติสุขใน จชต. มารายงาน โดยระบุ ว่า “แนวโน้มในประเด็นที่ยังคงมีปัญหาต่อเนื่อง ระหว่างรัฐบาลไทย และ ขบวนการแบ่งแยกดินแดน  บีอาร์เอ็น คงเป็นประเด็นที่กลุ่มบีอาร์เอ็นเรียกร้องให้มีประชาคมนานาชาติเข้าสังเกตการณ์ร่วมในการพูดคุยฯ กับรัฐบาลไทยด้วย” พร้อมกับชี้ว่า หากบีอาร์เอ็นไม่เข้าร่วมโต๊ะเจรจา ก็ยากที่จะเห็นความคืบหน้าของกระบวนการสร้างสันติสุข

       สื่อมาเลเซียรายงานว่า มัสยิดกรือเซะแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ที่ได้รับความนิยมในหมู่นักท่องเที่ยวมาเลเซียมากเป็นลำดับต้นๆ

๕.๑ The Star สื่อมาเลเซียรายงานว่า ผู้ต้องขังชาวโรฮิงญา ๑๙ คนหลบหนีออกจากที่ควบคุมตัวสำนักงานตำรวจตรวจคนเข้าเมืองอ.สะเดา จ.สงขลา เมื่อเวลาประมาณ ๔  โมงเช้าวันที่ ๘ มกราคม โดยใช้เสื้อผ้าผูกเป็นเชือกโรยตัวจากชั้นสาม เมื่อทราบเหตุตำรวจ ทหารและเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองได้สนธิกำลังติดตามตัวรวมทั้งใช้สุนัขตำรวจดมกลิ่นติดตามตัวผู้ต้องขังตามพื้นที่ชายแดนไทย-มาเลเซีย ซึ่งตำรวจเชื่อว่าเป็นจุดหมายปลายทางชาวโรฮิงญา

ทั้งนี้ตำรวจสามารถติดตามจับกุมตัวได้หนึ่งคนที่ได้รับบาดเจ็บที่เท้าระหว่างการหลบหนี

ก่อนหน้านี้เมื่อ ๒ ปีก่อนก็เกิดเหตุการณ์ผู้ต้องขังชาวโรฮิงญาหลบหนีออกจากที่ควบคุมตัวของตำรวจตรวจคนเข้าเมืองอ.สะเดา มาแล้วครั้งหนึ่ง

(A group of 19 male Rohingya escaped from the Songkhla Immigration detention centre at 8am on Wednesday (Jan 8), said Police Colonel Phongphan Saengsanga, director of Sadao Police Station.

The escapees were said to have used a cloth rope to descend from the third floor of the building after dismantling an iron-grilled window at around 4am.

Police, military and administration officials were mobilised and have since recaptured one of escapees with a broken leg, while others were likely to have fled across the Thai-Malaysian border.

Police sniffer dogs have been deployed in the border area within a 5km radius from the detention centre.

The Rohingya are victims of trafficking and were to be returned to their country of origin.

A similar incident happened two years ago. – The Nation/Asia News Network)

ที่มาข้อมูล ; https://www.thestar.com.my/news/regional/2020/01/08/19-rohingya-escape-from-detention-centre-in-thailand

๕.๑.๑ สำนักข้าว Reuters รายงานว่าที่ควบคุมตัวของสำนักงานตำรวจคนเข้าเมืองอ.สะเดา มีผู้ต้องขังความผิดเข้าเมืองผิดกฏหมาย ๔๐ คน ทั้งหมดเป็นชาวโรฮิงญา ซึ่งอยู่ระหว่างถูกควบคุมตัวเพื่อรอเนรเทศกลับภูมิลำเนาในประเทศเมียนมาร์ รวมทั้ง ๑๙ คนที่หลบหนีออกจากห้องขังเมื่อวันที่ ๘ มกราคม ซึ่งมีรายงานว่า ตำรวจติดตามจับกุมตัวได้แล้ว ๒ คน

พ.ต.อ.ไพรัช พุกเจริญ รองผู้บังคับการตำรวจตรวจคนเข้าเมืองภาคใต้ เปิดเผยว่าได้มีการประสานขอความช่วยเหลือจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติมาเลเซียให้ช่วยติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหาชาวโรฮิงญาอีก ๑๗ คนซึ่งเชื่อว่าหลบหนีข้ามพรมแดนเข้าประเทศมาเลเซียแล้ว

สำหรับชาวโรฮิงญาที่ถูกจับกุมตัวในพื้นที่ชายแดนไทย-มาเลเซีย ล้วนแต่มีจุดมุ่งหมายต้องการลักลอบเข้าประเทศมาเลเซีย

รอยเตอร์รายงานว่า ประเทศไทยเป็นเส้นทางที่ขบวนการค้ามนุษย์ลักลอบนำเข้ามาเหยื่อจากประเทศกัมพูชา เมียนมาร์และลาว เข้ามาทำงานหรือพักรอเพื่อเดินทางต่อไปยังประเทศอื่น ซึ่งองค์กรสิทธิมนุษยชนในสหรัฐอเมริกาตำหนิรัฐบาลไทยว่า ไม่มีมาตรการช่วยเหลือดูแลเหยื่อค้ามนุษย์ ที่ดีเป็นที่น่าพอใจ

(They were part of some 40 Rohingya Muslims, identified as victims of human traffickers, who were intercepted by Thai authorities on their way to Malaysia and had been detained at the centre to await repatriation to Myanmar, police said. Two were found later, police said.

“We’ve coordinated with Malaysian authorities to help find the remaining 17 who might have escaped into the border areas,” Pairat Pookcharoen, deputy commander of an immigration police unit in the south, told Reuters today.

Thailand has long been a destination and transit country for men, women and children smuggled and trafficked from poorer, neighbouring countries, including Cambodia, Laos and Myanmar. The United States and rights groups have criticised Thai authorities for not doing enough to protect victims of trafficking.)

ที่มาข้อมูล ; https://www.nst.com.my/world/world/2020/01/555076/thailand-asks-malaysia-help-find-rohingya-who-escaped-detention-centre

https://www.straitstimes.com/asia/se-asia/thailand-asks-malaysia-to-help-find-rohingya-who-escaped-detention-centre

๕.๑.๒ benarnews.org เวปไซต์ข่าวภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเอเชียใต้ ที่ได้รับการสนับสนุนเงินทุนดำเนินงานจากรัฐบาลสหรัฐ รายงานเมื่อวันที่ ๙ มกราคม อ้างคำให้สัมภาษณ์นายตำรวจระดับสูงของมาเลเซีย ระบุว่า ไม่ได้รับการติดต่อขอความช่วยเหลือจากตำรวจไทยให้ช่วยติดตามจับกุมชาวโรฮิงญา ๑๗ คน

“เรายังไม่ได้รับคำสั่งหรือการขอความช่วยเหลือ เกี่ยวกับการหลบหนีของชาวโรฮิงญาจากฝ่ายไทย” อับดุล ลาติฟ อับดุล ราห์มาน ผู้บัญชาการหน่วยความมั่นคงชายแดน ประจำรัฐเคดะห์ ประเทศมาเลเซีย กล่าวแก่เบนาร์นิวส์

ที่มาข้อมูล ; https://www.benarnews.org/thai/news/TH-rohingya-border-01092020141321.html

๕.๒ benarnews.org รายงานความเห็นทางวิชาการของนักวิชาการสิงคโปร์ เกี่ยวกับกระบวนการพูดคุยเพื่อสันติสุขในจังหวัดชายแดนภาคใต้ว่า ยากที่จะคาดเดาทิศทางพร้อมกับย้ำว่า หากต้องการขับเคลื่อนกระบวนการพูดคุยให้มีความก้าวหน้าจำเป็นต้องมีตัวแทนของขบวนการบีอาร์เอ็นร่วมกระบวนการพูดคุย

นักวิเคราะห์ในประเทศสิงคโปร์ ประจำวิทยาลัยนานาชาติศึกษา เอส ราชา รัตนัม แห่งมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีหนานหยาง ระบุตามรายงานที่เผยแพร่ล่าสุด ว่า “แนวโน้มในประเด็นที่ยังคงมีปัญหาต่อเนื่อง ระหว่างรัฐบาลไทยและขบวนการแบ่งแยกดินแดน บีอาร์เอ็น คงเป็นประเด็นที่กลุ่มบีอาร์เอ็นเรียกร้องให้มีประชาคมนานาชาติเข้าสังเกตการณ์ร่วมในการพูดคุยฯ กับรัฐบาลไทยด้วย”

“แต่หากปราศจากกลุ่มบีอาร์เอ็นร่วมในกระบวนการพูดคุยฯ องค์กรมาราปาตานี (คณะผู้แทน ของกลุ่มแบ่งแยกดินแดนหลายกลุ่ม ในจังหวัดชายแดนภาคใต้) ก็จะยังต้องทนกับสถานภาพที่ขาดความชอบธรรมในการเป็นตัวแทนฝ่ายขบวนการฯ ในการพูดคุยเพื่อสันติสุขอยู่นั่นเอง” นักวิเคราะห์กล่าว

ขบวนการแนวร่วมปฏิวัติแห่งชาติมลายูปัตตานี (หรือ บีอาร์เอ็น) เป็นกลุ่มแบ่งแยกดินแดนที่ใหญ่และมีอำนาจที่สุดในสามจังหวัดชายแดนใต้ของไทย

“อนึ่งแนวทางที่ผ่านมาแสดงให้เห็นแล้วว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่ได้มีความตั้งใจที่จะให้ส่วนร่วมในพื้นที่ทางการเมือง หรือให้มีการพิจารณารูปแบบของการปกครองตนเองในระดับภูมิภาคใด ๆ เขายังคงใช้วิธีระงับความรุนแรง ในขณะที่จะยังรักษาสถานะทุกอย่างดังเดิม” รายงานระบุ

รายงานฉบับนี้ ระบุด้วยว่า การพูดคุยอย่างเป็นทางการที่มีมาเลเซียเป็นตัวกลางนั้น ไม่ได้มีขึ้นมานานหลายเดือนแล้ว และการพูดคุยที่ผ่าน ๆ มา ก็ขาดความคืบหน้าที่สำคัญ และยังมีการกล่าวหาว่า บรรดาผู้นำหัวรุนแรงของกลุ่มบีอาร์เอ็น ซึ่งเป็นผู้บงการกองกำลังติดอาวุธในพื้นที่ ไม่เข้าร่วมในการเจรจาและไม่ให้การสนับสนุนความพยายามพูดคุยเพื่อสันติสุขด้วย

ที่มาข้อมูล ; https://www.benarnews.org/thai/news/TH-deepsouth-insurgency-01082020172657.html

๕.๓ New Straits Times สื่อมาเลเซียรายงานว่า มัสยิดกรือเซะที่จังหวัดปัตตานี เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ที่นักท่องเที่ยวมาเลเซียนิยมมากเป็นลำดับต้นๆ

Che Yusniah Che Soh นักท่องเที่ยวมาเลเซียบอกว่า เธอและเพื่อนชาวมาเลเซียเดินทางไปที่กรือเซะเพิ่อละหมาด และหลังจากนั้นเจ้าหน้าที่มัสยิดก็จะนำเธอและเพื่อนชาวมาเลเซีย ชมมัสยิดที่เต็มไปด้วยร่องรอยลูกกระสุนปืน พร้อมกับเล่าเรื่องราวเหตุการณ์ความรุนแรงที่มัสยิดแห่งนี้ให้พวกเธอที่มาจากเมืองโกตาบารู ฟัง

ทางด้านเจ้าหน้าที่มัสยิดกรือเซะ บอกผู้สื่อข่าวมาเลเซียว่า นักท่องเที่ยวมาเลเซียที่นิยมเดินทางมาเที่ยวที่กรือเซะส่วนใหญ่เดินทางมาจากรัฐเคดาห์ กลันตัน และตรังกานู พร้อมกับบอกว่า ทั้งตัวเขาเองและโต๊ะอิหม่ามประจำมัสยิดกรือเซะ ไม่รู้เบื่อหรือเหน็ดเหนื่อยกับการที่บอกเล่าเรื่องราวของมัสยิดกรือเซะให้นักท่องเที่ยวฟังซ้ำแล้วซ้ำเล่า

(Visitors normally choose to stop at the mosque, which was designated as a historical site by the Department of Fine Arts of Thailand in 1935, whenever they visit the province, either during school or public holidays.

One of them, Che Yusniah Che Soh said she and her friends stopped at the mosque to perform Asar prayers.

“After finishing our prayers, a man believed to be an imam assistant approached us and started to tell the story (on the 2004 attack). He showed us the damages caused by the attack around the mosque,” said the 39-year-old from Kota Baru.

The mother of three said Malaysian visitors appeared to be “at awe” by the damages sustained by the mosque, especially the bullet holes on the wall.

“Many just could not believe that some parts of the mosque are still strong despite being repeatedly hit by bullets,” said Che Yusniah.

According to the mosque’s assistant imam Ahmad Daud, 54, Malaysians especially those from the east coast states such as Kelantan and Terengganu, travelled just to witness for themselves the damage from the attack. – NSTP/SHARIFAH MAHSINAH ABDULLAH

According to the mosque’s assistant imam Ahmad Daud, 54, Malaysians especially those from the east coast states such as Kelantan and Terengganu, travelled just to witness for themselves the damage from the attack.

“For me and the imam, we will never tire of sharing the story with the visitors.

“We want everyone to know about the April 28, 2004 incident,” he said.

It was reported that a total 2.96 million Malaysians travelled to Thailand in the first nine months of last year, contributing 75.63 billion baht (RM10.5 billion) in tourism receipts.

Based on the latest statistics from Thailand’s Ministry of Tourism and Sports (MoTS), Malaysian tourists arrival grew by 5.56 per cent from 2.80 million in the same period of the previous year.

Apart from the mosque, other tourist destinations preferred by Malaysians included the Samila Beach, Hat Yai Floating Market and the famous shopping haven, Asean Trade Bazaar.)

ที่มาข้อมูล ; https://www.nst.com.my/news/nation/2020/01/554566/bullet-holes-pattanis-kresek-mosque-attracting-malaysian-tourists

๖. ข้อเสนอแนะในการประชาสัมพันธ์ สนับสนุนการปฏิบัติการข่าวสาร ในช่วงเวลาต่อไป

    ๖.๑ ประชาสัมพันธ์ผลการปฏิบัติงานป้องกัน และ ปราบปรามการค้ามนุษย์ในพื้นที่รับผิดชอบของ กอ.รมน.ภาค ๔ สน. ในรอบปี ๒๕๖๒ ทั้งนี้ควรมีการดำเนินการจัดทำเอกสารข้อมูลตัวเลขสถิติการจับกุม และ ช่วยเหลือเหยื่อการค้ามนุษย์ ในรอบปี ๒๕๖๒ เผยแพร่แก่สื่อมวลชน และ ช่องทางเผยแพร่ข่าวสารทางสื่อสังคมออนไลน์ ในห้วงเวลาที่สื่อมวลชนกำลังให้ความสนใจกับข่าวผู้ต้องขังชาวโรฮิงญา ๑๙ คนหลบหนีออกจากที่ควบคุมตัวผู้ต้องหาของสำนักงานตำรวจตรวจคนเข้าเมือง อ.สะเดา จ.ว.ส.ข. เมื่อวันที่ ๘ มกราคม ดังนั้นห้วงสัปดาห์นี้จึงเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมในการประชาสัมพันธ์ผลการปฏิบัติงานป้องกัน และ ปราบปรามการค้ามนุษย์ในพื้นที่รับผิดชอบของ กอ.รมน.ภาค ๔ สน. เนื่องจากเป็นช่วงเวลาที่สื่อมวลชนทั้งไทย และ ต่างประเทศ สนใจติดตามข่าวผู้หลบหนีเข้าเมืองชาวโรฮิงญาไหลบหนีออกจากที่ควบคุมตัวที่ ตม.อ.สะเดา จึงเป็นช่วงเวลาที่ข้อมูลเกี่ยวกับการป้องกัน และ ปราบปรามการค้ามนุษย์ในพื้นที่ชายแดนไทย-มาเลเซีย จะได้รับความสนใจ และ เผยแพร่อย่างกว้างขวาง (highly media exposure)

   ๖.๒ ประชาสัมพันธ์ข้อมูลเชิงบวกสะท้อนประวัติศาสตร์ความเป็นสังคมพหุวัฒนธรรมในพื้นที่ปัตตานี และ จังหวัดชายแดนภาคใต้ สืบเนื่องจากรายงานข่าวของ New Straits Times สื่อมาเลเซีย เมื่อวันที่ ๘ มกราคม ระบุว่า มัสยิดกรือเซะเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมเป็นลำดับต้นๆ ในหมู่นักท่องเที่ยวมาเลเซีย ซึ่งนิยมเดินทางมาละหมาด และ ฟังเรื่องราวประวัติศาสตร์ และร่ องรอยความรุนแรงจากเหตุการณ์เมื่อปี ๒๕๔๗ จากการบอกเล่าของเจ้าหน้าที่มัสยิด และ โต๊ะอิหม่ามประจำมัสยิดกรือเซะ ซึ่งเป็นการรับฟังข้อมูลด้านที่เป็นประวัติศาสตร์บาดแผล ชาวมุสลิมถูกเจ้าหน้าที่ทหารไทยสังหารที่มัสยิดกรือเซะ ดังนั้นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับงานเผยแพร่ศิลปะวัฒนธรรม คือกระทรวงวัฒนธรรม และ กรมศิลปากร หรือ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการจัดการพิพิธภัณฑ์สมัยใหม่ ควรดำเนินการจัดพื้นที่แสดงนิทรรศการ ที่มีเนื้อหาด้านบวกสะท้อนความเป็นสังคมพหุวัฒนธรรมในดินแดนแห่งนี้มาตั้งแต่อดีต โดยนอกจากภาษาไทยแล้วจำเป็นอย่างยิ่งที่นิทรรศการต้องมีคำอธิบายเป็นภาษามลายู เพื่อให้นักท่องเที่ยวมาเลเซียที่เดินทางมาเยือนมัสยิดกรือเซะได้รับข้อมูลเชิงบวก ด้วย

error: Content is protected !!