ข่าวใหม่อัพเดท » คืบหน้า!! ฆ่าสาวยัดกระเป๋าถ่วงน้ำโขง แกะรอยเสื้อผ้า แบรนด์เนมราคาแพง โยงคนมีฐานะ

คืบหน้า!! ฆ่าสาวยัดกระเป๋าถ่วงน้ำโขง แกะรอยเสื้อผ้า แบรนด์เนมราคาแพง โยงคนมีฐานะ

29 กันยายน 2022
0

นครพนม – คืบหน้า ฆ่าสาวยัดกระเป๋าถ่วงน้ำโขง แกะรอยเสื้อผ้าแบรนด์เนมราคาแพง โยงคนมีฐานะ หาที่มาฆาตกรรมโหด ตร.ไม่ฟันธงเป็นคนฝั่งเพื่อนบ้าน เร่งหาคนหายแจ้งความไว้

กรณีพบศพหญิงสาวนิรนาม ถูกคนร้ายฆาตกรรมยัดศพใส่กระเป๋าเดินทางโยนถ่วงลำน้ำโขง กระทั่งศพลอยอืดมาติดแพจอดเรือลาดตระเวน กองบังคับการหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง เขต นครพนม(บก.นรข.เขตนครพนม) บ้านโพธิ์ทอง ม. 10 ต.ธาตุพนม จ.นครพนม จากนั้น พ.ต.อ.ถวิล คำเกษ ผกก.สภ.ธาตุพนม ประสานงาน พ.ต.อ.หญิง จีรนันท์ ธนะสิงห์ ผู้กำกับการตำรวจพิสูจน์หลักฐาน กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม (ผกก.พฐ.บก. ภ.จว.ฯ) นำเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน ร่วมกับแพทย์เวรโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชธาตุพนม ทีมสมาคมกู้ภัยสว่างนาวาธาตุพนม และเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ตรวจสอบชันสูตรพลิกศพ

พบกระเป๋าเดินทางล้อลากสีดำขนาดใหญ่ ความกว้างประมาณ 90 เซนติเมตร ยาวประมาณ 60 เซนติเมตร ภายในพบศพผู้ตายเป็นหญิงสาวผมยาว ผิวพรรณดี อายุประมาณ 30-40 ปี ความสูงประมาณ 160 เซนติเมตร สวมเสื้อยืดแขนกุดสีฟ้า กางเกงยีนส์ขายาวสีน้ำเงิน เสื้อชั้นในสีดำ กางเกงในสีฟ้า ถูกคลุมด้วยถุงดำทั้งตัว สภาพใบหน้าคล้ายถูกทุบด้วยของแข็ง แขนซ้ายผิดรูป โดยฆาตกรนำศพยัดกระเป๋าในสภาพตัวงอก้มหน้าคุดคู้ ไม่มีเชือกมัดพันธนาการ นอกจากนี้ยังพบหินภูเขาขนาดใหญ่ ที่ใช้สำหรับสร้างเป็นแนวกั้นป้องกันตลิ่งพัง ขนาดความยาวประมาณ 30 เซนติเมตร กว้าง 30 เซนติเมตร ยัดถ่วงในกระเป๋า คาดว่าเพื่อให้ศพจมน้ำ นอกนั้นไม่พบเอกสารหลักฐานส่วนตัว รวมถึงไม่มีตำหนิบาดแผลตามร่างกายส่วนอื่น และไม่สามารถตรวจสอบรูปพรรณสัณฐานได้ เนื่องจากสภาพศพอยู่ในสภาพอืดเน่า คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 5 วัน โดยทางตำรวจได้ส่งศพไปชันสูตรที่สถาบันนิติเวช จ.วขอนแก่น เพื่อเก็บหลักฐานโดยละเอียดประกอบการดำเนินคดี พร้อมฝากประชาชนทราบเบาะแส แจ้งได้ที่โทรศัพท์ 093-3260795 เหตุเกิดเมื่อวันที่ 28 กันยายน 2565 เวลาประมาณ 11.30 น. ตามที่เสนอข่าวไปแล้ว

ล่าสุด พ.ต.อ.ถวิล คำเกษ ผกก.สภ.ธาตุพนม เปิดเผยถึงความคืบหน้าทางคดี ว่า เบื้องต้นอยู่ระหว่างการเก็บรวบรวมหลักฐาน รูปพรรณสัณฐานของผู้เสียชีวิต พร้อมประสานไปยังพื้นที่ต่างๆ ให้ตรวจสอบหาเบาะแส หรือข้อมูลแจ้งคนหาย ส่วนหลักฐานสำคัญที่พอจะเชื่อมไปหาเบาะแสที่มา คือ เสื้อผ้าเครื่องแต่งกายของผู้ตาย หลังพบว่าส่วนใหญ่เป็นเสื้อผ้าแบรนด์เนม ที่มีราคาพอสมควร คาดว่าไม่ใช่ชาวบ้านทั่วไป แต่อาจเป็นคนที่มีฐานะหรือรักการแต่งกายที่สวยงาม โดยผู้ตายสวมเสื้อยืดแขนกุด ยี่ห้อ JASPAL สีเทา ไซร์ S กางเกงยีนส์ยี่ห้อ Lee cooper สีดำ ไซร์ S ราคา 4500 บาท ชุดชั้นในยี่ห้อ sabina สีเทา ราคา 850 บาท กางเกงในยี่ห้อปราดีนี่ ราคา 600 บาท ภายในกระเป๋ายังพบเสื้อแจ๊คเก็ตสีขาว ยี่ห้อ Fila ไซร์ S แว่นสายตายี่ห้อ Gucci ราคา 6,500 บาท และหมอนพิงหลัง ที่จะเป็นหลักฐานสำคัญในการสืบหาเบาะแสที่มาของการฆาตกรรม อยู่ระหว่างเจ้าหน้าที่ทีมสืบสวน ลงพื้นที่แกะรอย พร้อมประสานโรงพักทุกแห่ง ร่วมส่งข้อมูลการแจ้งความคนหาย เชื่อผู้ตายน่าจะเป็นคนต่างพื้นที่ หรืออาจจะเป็นคนฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน แต่ยังไม่สรุปเป็นเพียงข้อสันนิษฐานเท่านั้น

ด้าน นายประวิณ วราธนกิจ อายุ 39 ปี นายกสมาคมกู้ภัยสว่างนาวาธาตุพนม เปิดเผยว่า เบื้องต้นจากการตรวจสอบร่วมกับเจ้าหน้าที่ทราบว่า เมื่อวันที่ 27 กันยายนที่ผ่านมา มีผู้พบเห็นกระเป๋ายัดศพดังกล่าวลอยมาตามลำน้ำโขงในพื้นที่ อ.ธาตุพนม จ.นครพนม แต่ไม่มีใครสนใจต่างคิดว่าเป็นกระเป๋าที่พังเสียหาย กระทั่งกระเป๋าใบดังกล่าวลอยมาติดแพไม้ไผ่ที่มีไว้กั้นไม่ให้สิ่งของที่ลอยมากับน้ำไปติดเรือลาดตระเวนของ นรข.เขตนครพนม โดยโชยกลิ่นเหม็นเน่าแตะจมูกเจ้าหน้าที่ทหารเรือที่ประจำการอยู่บนเรือ จึงประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงตรวจสอบ ภายในกระเป๋าพบว่าศพถูกยัดใส่กระเป๋าแบบนั่งก้มหน้าคุดคู้ สวมด้วยถุงพลาสติกสีดำ

นายประวิณ วราธนกิจ กล่าวต่อว่า จากประสบการณ์ทำงานชันสูตรศพ เชื่อว่าเป็นการฆาตกรรมและยัดกระเป๋าเดินทางหลังเสียชีวิต เพราะไม่มีเชือกมัดมือมัดเท้า มีเพียงหินภูเขายัดถ่วงน้ำหนักหวังให้จมน้ำ คาดว่าก่อนจะลอยอืดจะต้องเสียชีวิตถูกโยนถ่วงน้ำประมาณ 4-5 วัน ก่อนที่จะลอยอืดขึ้นมา และจากประสบการณ์ค้นหาศพคนจมน้ำเสียชีวิต กรณีศพที่ไหลมากับน้ำนั้น มีระยะทางไกลหลายร้อยเมตรจนถึงเป็นกิโลเมตร ก็ขึ้นอยู่กับกระแสน้ำที่ไหล อาจเป็นคนต่างถิ่น หรืออาจโยนศพมาจากฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน นอกจากนี้ดูจากเสื้อผ้าการแต่งกาย มั่นใจว่าจะเป็นคนที่ชอบความสวยงาม ผู้ตายมีรูปร่างเล็กผิวขาว และมีฐานะพอที่จะซื้อเสื้อผ้าแบรนด์เนมสวมใส่ ส่วนร่องรอยบาดแผลการถูกทำร้ายมีเพียงใบหน้าที่เชื่อว่าจะถูกทุบทำร้ายด้วยของแข็งจนเสียชีวิต เนื่องจากสภาพศพใบหน้าเปื่อยยุ่ย จึงไม่สามารถตรวจสอบรูปพรรณสัณฐานได้ ข่าวคืบหน้าจะนำมาเสนอต่อไป


ภาพ/ข่าว. เทพข่าวร้อน #สำนักข่าวความมั่นคง จ.นครพนม

error: Content is protected !!