กอ.รมน.ผนึกกสทช. จัดชุดจนท.เคลื่อนที่รับลงทะเบียนซิมการ์ดถึงหมู่บ้านห่างไกล-ทุรกันดารจังหวัดชายแดนใต้ เพื่อยืนยันตัวตน

          พล.ต.ธนาธิป สว่างแสง โฆษก กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) เปิดเผยว่า ตามที่กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ได้มีการประกาศ เรื่อง มาตรการการจัดระเบียบการใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เมื่อวันที่ 26 เมษายนที่ผ่านมานั้น ได้รับความร่วมมือจากผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ทั้ง 5 เครือข่าย ผู้ใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ทั้งในและนอกพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ส่วนราชการ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น(อปท.) ตลอดจนอาสาสมัครรูปแบบต่างๆ ในการลงทะเบียนซิมการ์ดโทรศัพท์เคลื่อนที่ระบบยืนยันตัวตนเป็นอย่างดี แต่ยังมีประชาชนอีกจำนวนมากที่อยู่ในพื้นที่ห่างไกลในถิ่นทุรกันดาร ยังไม่ทราบถึงการประกาศขอความร่วมมือในการลงทะเบียนซิมการ์ดโทรศัพท์เคลื่อนที่ระบบยืนยันตัวตน จึงยังไม่ได้ไปลงทะเบียน

          พล.ต.ธนาธิป กล่าวว่า ทั้งนี้เพื่อเป็นการรักษาสิทธิประโยชน์และความปลอดภัยของผู้ใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ อีกทั้งเพื่อให้การติดต่อสื่อสารทางโทรศัพท์เคลื่อนที่ของประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นไปอย่างต่อเนื่องและปลอดภัย บรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชน กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ได้หารือกับ กสทช. และผู้ประกอบกิจการโทรศัพท์ เพิ่มช่องทางการรับรู้ด้วยรูปแบบจัดทำป้ายโฆษณา, ป้ายไวนิล ตามสถานที่สำคัญ เช่น สนามบินท่ารถบริษัทขนส่งจำกัด(บขส.), การรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.), บริษัทท่าอากาศยานไทยจำกัด(มหาชน) พร้อมจัดชุดเจ้าหน้าที่รับลงทะเบียนเคลื่อนที่ไปตามหมู่บ้านที่อยู่ในพื้นที่ห่างไกลทุรกันดาร และสถานที่ต่างๆ เพื่อการลงทะเบียน และเพิ่มยอดเจ้าหน้าที่รับลงทะเบียนในหมู่บ้าน เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชนในพื้นที่ เช่น บัณฑิตอาสา, อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน(อสม.)

สำหรับการตรวจสอบสถานะการลงทะเบียนระบบยืนยันตัวตน สามารถดำเนินการด้วยตนเองโดยกด *165*5*หมายเลขบัตรประชาชน 13 หลัก กดสี่เหลี่ยมแล้วกดโทรออก และผู้ใช้บริการโทรศัพท์ ที่อยู่นอกพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ สามารถลงทะเบียนยืนยันตัวตนได้ ณ ศูนย์บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ทั่วราชอาณาจักร ได้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป

ขอบคุณข้อมูล : News

พิธีรับ-ส่งหน้าที่ หัวหน้าศูนย์ประชาสัมพันธ์ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า

          วันนี้ (30 กันยายน 2562) เวลา 10.39 น. ที่ ห้องแถลงข่าว ศูนย์ประชาสัมพันธ์ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ค่ายสิรินธร ตำบลเขาตูม อำเภอยะรัง จังหวัดปัตตานี ศูนย์ประชาสัมพันธ์ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า จัดพิธีรับ – ส่งหน้าที่หัวหน้าศูนย์ประชาสัมพันธ์ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ระหว่าง พันเอก ธนาวีร์ สุวรรณรัตน์ และ พันเอก เกียรติศักดิ์  ณีวงษ์ โดยมีคณะนายทหาร, นายสิบ และลูกจ้างร่วมพิธี

           ในการนี้ พันเอก เกียรติศักดิ์  ณีวงษ์ หัวหน้าศูนย์ประชาสัมพันธ์ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า(คนใหม่) ได้กล่าวถึงการปฏิบัติงานต่อจากนี้ไปว่า จะสานต่อนโยบายของหัวหน้า   ศูนย์ประชาสัมพันธ์ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้าคนเก่าอย่างเต็มความสารมารถ จะมุ่งเน้นปฏิบัติหน้าที่ และปกครองผู้ใต้บังคับบัญชาด้วยความเป็นธรรม เพื่อพัฒนาศักยภาพของ ศูนย์ประชาสัมพันธ์ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า  ให้เป็นหน่วยงานที่ได้รับการยอมรับจากทุกภาคส่วน และสามารถปฏิบัติภารกิจได้อย่างสมบูรณ์ สมกับเป็นหน่วยงานหลัก ในการเสริมสร้างความเข้าใจให้เกิดสันติสุขในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ต่อไป

ขอบคุณข้อมูล : ศูนย์ประชาสัมพันธ์ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค ๔ ส่วนหน้า

สำนักข่าวความมั่นคง

กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า รายงานผลการปฏิบัติงานเดินหน้าแก้ปัญหายาเสพติดในห้วง (1 พฤศจิกายน 2561 – 26 กันยายน 2562)

          เมื่อวันที่ (26 กันยายน 2562) กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า สรุปผลการปฏิบัติงานการแก้ไขปัญหายาเสพติดในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ของศูนย์ปฏิบัติการร่วมอำเภอ 37 อำเภอ (ศปร.อ. 37 อำเภอ) ตั้งแต่ 1 พฤศจิกายน 2561 – 26 กันยายน2562  ดังนี้

1. การบังคับใช้กฎหมาย สามารถดำเนินการบังคับใช้กฎหมาย ดังนี้ ผู้ค้ารายใหญ่ 176 ราย, ผู้ค้ารายย่อย 3,857 ราย  รวมผู้เสพ 19,081 ราย

2. ตรวจยึดของกลางยาบ้า 2,196,886 เม็ด, กัญชา 25,484 กิโลกรัม, ใบกระท่อม 18,403 กิโลกรัม, น้ำกระท่อม 14,870 ลิตร, ยาไอซ์ 41.308  กรัม, ยาแก้ไอ 23,928 ขวด แบ่งบรรจุ จำนวน 24,467 ซีซี., เฮโรอีน 38.958 กิโลกรัม, ยาอี 100 เม็ด รวมผู้ต้องหาทั้งหมด 7,922 ราย

3. การดำเนินการต่อผู้เสพยาเสพติด ที่สมัครใจรายงานตัวเข้าสู่กระบวนการคัดกรอง เพื่อเข้ารับการบำบัดยาเสพติด ตามนโยบาย แม่ทัพภาคที่ 4/ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 จำนวน 15,084 ราย, กระบวนการบำบัดฟื้นฟู 13,855 ราย, ติดตามบำบัดฟื้นฟู 8,036 ราย และ ส่งเสริมอาชีพ 266 ราย

          กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ขอความร่วมมือ พี่น้องประชาชน หากพบเบาะแสยาเสพติดในพื้นที่ ทั้งการซื้อ จำหน่าย หรือการเสพ ขอให้แจ้งมา ที่ ตู้ปณ. 41 ปณจ. เมืองยะลา จ.ยะลา ระบุเบาะแสให้ชัดเจนไม่ต้องลงชื่อแต่อย่างใด จดหมายทุกฉบับถึงมือแม่ทัพภาคที่ 4 เพื่อแก้ปัญหาให้ตรงจุด ทันท่วงที  ยาเสพติด ภัยร้ายทำลายชีวิต ร่วมกันส่งคืนคนดีสู่อ้อมกอดของครอบครัว

ขอบคุณข้อมูล : ศูนย์ประชาสัมพันธ์ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค ๔ ส่วนหน้า

สำนักข่าวความมั่นคง

รองเลขาธิการ กอ.รมน.ภาค 4 สน. นำกำลังพล และประชาชนในพื้นที่เข้าร่วมกิจกรรมไหว้พระสวดมนต์

          เมื่อวันที่ 28 กันยายน 2562 เวลา 19.00 น. พ.อ.รักชาติ รัตนาศักดิ์ รองเลขาธิการ กอ.รมน.ภาค 4 สน. เป็นประธานในพิธีบำเพ็ญบุญไหว้พระสวดมนต์ โดยนิมนต์  พระราชปัญญามุนี วัดเวฬุวัน เจ้าคณะจังหวัดยะลา แสดงธรรมเทศนา ณ ลานปฏิบัติธรรมเขาพระศรีฯ ค่ายสิรินธร ต.เขาตูม อ.ยะรัง จ.ปัตตานี

          กิจกรรมดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อเตรียมความพร้อม และสร้างความเข้าใจพุทธศาสนิกชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ ตลอดจนเป็นการขับเคลื่อนผู้นำเครือข่ายพี่น้องไทยพุทธ  ในพื้นที่ ให้เกิดผลในทางปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งจะส่งผลดี และเกื้อกูลต่อการแก้ปัญหาให้สามารถดำรงชีวิตได้อย่างเป็นสุข

ขอบคุณข้อมูล : ศูนย์ประชาสัมพันธ์ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค ๔ ส่วนหน้า

สำนักข่าวความมั่นคง

หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 44 ร่วมบุญ ส่งตายาย “สารทเดือนสิบ” สืบสานประเพณี ชิงเปรต-แห่หมรับ

           เมื่อวันที่ 28 กันยายน 2562 เวลา 09.00 น. ที่ ศาลาการเปรียญวัดปทุมวารี หมู่ที่ 1 ตำบลเตราะบอน อำเภอสายบุรี จังหวัดปัตตานี  พ.อ.ภูมิพัฒน์  บุญเรืองขาว ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 44 ได้เดินทางไปเป็นประธานฯ พร้อมด้วย คุณนิสากร บุญเรืองขาว ประธานชมรมเเม่บ้านทหารบก สาขาหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 44 ในโอกาสทำบุญร่วมกับประชาชนในพื้นที่ ตำบลเตราะบอน อำเภอสายบุรี จังหวัดปัตตานี

          เนื่องใน “ประเพณีสารทเดือนสิบ ของพี่น้องประชาชนชาวไทยพุทธในพื้นที่ภาคใต้” เพื่อเป็นการอุทิศส่วนบุญ ส่วนกุศล ให้กับบรรพชน (ตา-ยาย) ที่ล่วงลับไปแล้ว โดยมี กำนัน, ผู้ใหญ่บ้าน, กำลังพลจากหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 44 และประชาชนไทยพุทธในพื้นที่ ตำบลเตราะบอน อำเภอสายบุรี จังหวัดปัตตานีเข้าร่วมในประเพณีดังกล่าว

          สำหรับประเพณีสารทเดือนสิบ เป็นงานบุญของชาวภาคใต้ โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้แก่ดวงวิญญาณของบรรพชนและญาติที่ล่วงลับไปแล้ว โดยจะแบ่งเป็น 2 ช่วง โดยช่วงแรก คือ วันแรม 1 ค่ำ เดือน 10 เรียกว่าเป็นวันบุญแรก หรือวันรับตายาย ซึ่งปีนี้ตรงกับวันที่ 14 กันยายน 2562 และในบุญหลัง หรือ วันส่งตายาย ซึ่งเป็นวันแรม 15 ค่ำ เดือน 10 จะตรงกับวันที่ 28 กันยายน 2562

ขอบคุณข้อมูล : ศูนย์ประชาสัมพันธ์ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค ๔ ส่วนหน้า

สำนักข่าวความมั่นคง

ผู้ว่าฯนราธิวาส มอบเกียรติบัตรแก่ผู้ที่ผ่านการบำบัดรักษาและฟื้นฟูสมรรถภาพผู้เสพยาเสพติดในพื้นที่

ผู้ว่าฯนราธิวาสมอบเกียรติบัตรแก่ผู้ที่ผ่านการบำบัดรักษาและฟื้นฟูสมรรถภาพผู้เสพยาเสพติดในพื้นที่ พร้อมให้กำลังใจและเน้นย้ำให้ทุกคนปฏิบัติตนเป็นคนใหม่ ขณะที่สังคมพร้อมยอมรับและให้โอกาส            

          วันนี้ 28 ก.ย.62 นายเอกรัฐ หลีเส็น ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส เป็นประธานในพิธีปิดโครงการพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้ผ่านการบำบัดรักษาและฟื้นฟูสมรรถภาพผู้เสพยาเสพติดในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส และมอบเกียรติบัตรแก่ผู้ที่ผ่านการฝึกอบรมฯ ณ ห้องประชุมสถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 25 นราธิวาส    โดยมีนายชัยเจริญ มูสิกิ้ม หัวหน้าฝ่ายอำนวยการศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดจังหวัดนราธิวาส นายเลอพงษ์ แตงเนียม ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 25 นราธิวาส   พ.ท.สุบิน ชะรอยรัมย์หัวหน้าฝ่ายกิจการพลเรือน หน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส     ผู้แทนผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส ตลอดจนผู้ผ่านการบำบัดรักษาและฟื้นฟูสมรรถภาพผู้เสพยาเสพติดในพื้นที่จังหวัดนราธิวาสร่วมในพิธีปิดฯจำนวน 61 คน

          นายเอกรัฐ หลีเส็น ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส กล่าวว่า การดำเนินโครงการบำบัดฟื้นฟูสมรรถภาพผู้เสพยาเสพติดในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส จะมุ่งเน้นการแก้ไขปัญหายาเสพติด ที่ยึดมุมมองเชิงคุณภาพ และการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ซึ่งถือเป็นการบำบัดรักษายาเสพติดในระบบสมัครใจ ภายใต้แนวคิด “ผู้เสพคือผู้ป่วย” โดยมุ่งเน้นการแก้ไขปัญหายาเสพติด และการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ทัศนคติ ของผู้เสพยาเสพติด ตลอดจนการเปิดโอกาสให้ผู้เสพยาเสพติดเข้าถึงการบริการ การยอมรับและให้โอกาส เน้นให้เกิดความตระหนักรู้ตนเอง สามารถจัดการอารมณ์ความรู้สึกของตนเองได้อย่างเหมาะสม มีความเข้าใจผู้อื่น โดยการส่งเสริมแรงจูงใจในการเลิกยาเสพติด และใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับผู้อื่นในสังคมได้อย่างปกติสุขโดยไม่พึ่งยาเสพติด

          ซึ่งศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดจังหวัดนราธิวาส โดยสถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 25 นราธิวาส ให้การสนับสนุนในครั้งนี้ มีผู้เข้ารับการฝึกการอมรมฯ จำนวน 61 คน แยกตามสาขาอาชีพ ดังนี้ ช่างตัดผม จำนวน 12 คน ช่างทำเฟอร์นิเจอร์ จำนวน 14 คน ช่างเชื่อมโลหะ จำนวน 6 คน และช่างซ่อมเครื่องยนต์ขนาดเล็ก จำนวน 29 คน  โดยหลังจากนี้ผู้ผ่านการบำบัดจะได้กลับไปอยู่กับครอบครัว และประกอบอาชีพหาเลี้ยงครอบครัวอย่างสุจริต ปฏิบัติตนเป็นคนดี เพื่อให้เกิดการยอมรับและอยู่ร่วมกันในสังคมอย่างภาคภูมิใจ 

#นราธิวาส #การบำบัดรักษาและฟื้นฟูสมรรถภาพผู้เสพยา #ILOVETHAILAND 

ขอบคุณข้อมูล : ผู้สื่อข่าว – ผลดา ชูสิงห์ /ผู้เรียบเรียง – ศนัฎฐ์ชล สุ่มสมบูรณ์

แหล่งที่มา : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนราธิวาส

สำนักข่าวความมั่นคง

เทศบาลเมืองปัตตานี ร่วมกับชมรมชาวไทยเชื้อสายจีนจังหวัดปัตตานี จัดงานประเพณีถือศีลกินเจ ประจำปี 2562

เทศบาลเมืองปัตตานี ร่วมกับชมรมชาวไทยเชื้อสายจีนจังหวัดปัตตานี จัดงานประเพณีถือศีลกินเจ ประจำปี 2562 ระหว่างวันที่ 28 กันยายน ถึง 7 ตุลาคม 2562

          วันนี้ (28 ก.ย. 62) เวลา 17.30 น. ที่บริเวณศาลเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยวปัตตานี มีพิธีเปิดงานประเพณีถือศีลกินเจ ประจำปี 2562 โดยมีนายพรหมพิริยะ กิจนุสนธ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี เป็นประธานเปิดงาน มี นายพิทักษ์ ก่อเกียรติพิทักษ์ นายกเทศมนตรีเมืองปัตตานี ประธานการจัดงานกล่าวรายงาน และมีพี่น้องประชาชนชาวปัตตานี แต่งกายชุดขาวมาร่วมถือศีลกินเจกันเป็นจำนวนมาก และตลอดเทศกาลกินเจมูลนิธิเทพปูชนีย สถานจัดเลี้ยงอาหารเจทั้งสามมื้อ อีกด้วย

          สำหรับกิจกรรมภายในงานประกอบด้วย การไหว้พระในศาลเจ้า การหามเกี้ยว พิธีไหว้เทวดาฟ้าดิน พิธียกเสาเทพเจ้าฯ เชิญตะเกียงขึ้นเสาเทวดา พร้อมร่วมรับประทานอาหารเจมื้อแรก ที่เทศบาลเมืองปัตตานี เป็นเจ้าภาพจัดเลี้ยง

#เทศบาลเมืองปัตตานี #ชมรมชาวไทยเชื้อสายจีนจังหวัดปัตตานี #งานประเพณีถือศีลกินเจ  #ILOVETHAILAND

ข้อมูลผู้สื่อข่าว : บดินทร์ เบญจสมัยผู้เรียบเรียง : วสันต์พรรษ จำเริญนุสิต

แหล่งที่มา : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดปัตตานี

สำนักข่าวความมั่นคง

สำนักงาน สกสค.จังหวัดยะลา ร่วมกับฉก.ยะลา และกอ.รมน.ส่วนหน้า จัดฝึกอบรมการใช้อาวุธปืนพกเพื่อป้องกันตนเองในสถานการณ์ฉุกเฉิน ปี 2562


         เมื่อเร็ว ๆ นี้ เวลา 09.30 น. สำนักงาน สกสค.จังหวัดยะลา ร่วมกับฉก.ยะลา และกอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า จัดฝึกอบรมการใช้อาวุธปืนพก เพื่อป้องกันตนเองในสถานการณ์ฉุกเฉิน ปี 2562 ให้กับผู้บริหารสถานศึกษา ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ในพื้นที่อำเภอเบตงและอำเภอธารโตทุกหน่วยงานทางการศึกษา สังกัดสพฐ. สังกัดอาชีวศึกษา สังกัดเทศบาลเมืองเบตงและ สังกัดสช. โดยมีนายสมพงษ์ ปานเกล้า ผอ.สกสค.ประจำจังหวัดยะลา เป็นประธานเปิดงานฯ ทั้งนี้มี นายโกมุท รุยอ่อน ผอ.สพป.ยะลา เขต 3 นำเจ้าหน้าที่บุคลากรร่วมกิจกรรมดังกล่าว ณ สนามยิงปืนเทศบาลเมืองเบตง อำเภอเบตง จังหวัดยะลา

          นายสมพงษ์ ปานเกล้า ผอ.สกสค.ยะลา กล่าวว่า เนื่องจากปัญหาเหตุการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยเฉพาะจังหวัดยะลา ส่งผลกระทบด้านสวัสดิภาพในการประกอบวิชาชีพและดำรงใช้ชีวิตประจำวันของครูและบุคลากรทางการศึกษาเป็นอย่างมากที่ผ่านมา สำนักงาน สกสค.ยะลา ตระหนักต่อปัญหาและเร่งแสวงหามาตราการความร่วมมือเพื่อแก้ไขและป้องกันไม่ให้เกิดความสูขเสียกันอย่างจริงจังและต่อเนื่อง จึงได้ร่วมกับฉก.ยะลา และกอ.รมน.ส่วนหน้ากำหนดจัดกิจกรรมฝึกอบรมการใช้อาวุธปืนพกเพื่อป้องกันตนเองในสถานการณ์ฉุกเฉิน ปีงบประมาณ 2562 ภายใต้โครงการเครือข่ายแผนยุทธศาสตร์การรักษาความปลอดภัยครูและบุคลากรทางการศึกษา จังหวัดยะลาขึ้น ที่สนามยิงปืนเทศบาลเมืองเบตงโดยมีกลุ่มเป้าหมาย ผู้บริหารการศึกษา ผู้บริหารสถานศึกษา หัวหน้าหน่วยงานด้านการรักษาความปลอดภัย ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาเข้าร่วมกิจกรรมจำนวน 30 คน

           เพื่อส่งเสริมเครือข่ายความร่วมมือในการป้องกันตนเองในสถานการณ์ฉุกเฉิน และเพื่อให้ครูและบุคลากรทางการศึกษาได้รับการบริการคุ้มครูองด้านสวัสดิภาพ สามารถประกอบวิชาชีพทางการศึกษาได้เต็มศักยภาพ ส่งผลต่อคุณภาพผู้เรียน มีขวัญ กำลังใจ ตลอดทั้งครอบครัวอยู่ดีมีความสุข ด้านนายโกมุท รุยอ่อน ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษายะลา เขต 3 กล่าวว่า ในส่วนของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษายะลา เขต 3 ได้ส่งผูู้้บริหารสถานศึกษา ข้าราชการครู และบุคลากรทางการศึกษาที่มีอาวุธปืนเข้าร่วมจำนวน 17 คน เพื่อให้ครูเตรียมความพร้อมอยู่เสมอ ในการป้องกันตนเองระหว่างปฏิบัติหน้าที่ในสถานศึกษา และเป็นแกนนำขยายผลให้กับผู้ที่ยังไม่เคยผ่านการอบรมหลักสูตรดังกล่าวต่อไป

ขอบคุณข้อมูล : ทอล์คนิวส์ ออนไลน์

ศอ.ปส.จชต. แถลงข่าวการพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้ผ่านการบำบัดรักษาและฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติดในพื้นที่ จชต.

          วันนี้ 28 กันยายน 2562 เวลา 11.00 น. ที่ห้องพิมพ์มาดา โรงแรมปาร์ควิวรีสอร์ทปัตตานี อำเภอเมืองปัตตานี จังหวัดปัตตานี  พลโท จตุพร  กลัมพสุต รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า เป็นประธานงานแถลงข่าวการพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้ผ่านการบำบัดรักษาและฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติดในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ และมอบรางวัลแก่ผู้ปฏิบัติงานดีเด่น โดยมี นายสำอาง ศิริรัตน์ ผู้ช่วยเลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติดภาค 9  ผู้อำนวยการกองส่งเสริมและสนับสนุนงานพัฒนาเพื่อความมั่นคง ศอ.บต. หัวหน้าส่วนราชการ จิตอาสาหมู่บ้าน บัณฑิตอาสาฯ ศอ.บต. และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม

          การแถลงสรุปผลการดำเนินงานในการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหายาเสพติดในพื้นที่ในครั้งนี้  เป็นการสร้างขวัญกำลังใจให้กับคณะทำงานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนผู้ผ่านหลักสูตรการฝึกอบรมวิชาชีพให้จังหวัดคัดเลือกบุคคลผู้ปฏิบัติงานดีเด่น ในการพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้ผ่านการบำบัดรักษาและฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติดในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ประจำปี 2562 ประกอบด้วยด้านการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ด้านการบำบัดรักษา ด้านการบริหารจัดการ แกนนำในระดับชุมชนที่แก้ไขปัญหายาเสพติด บุคคลผู้ปฏิบัติงานดีเด่น หน่วยงานที่ขับเคลื่อนงานแก้ไขปัญหาเสพติด และผู้ผ่านการฝึกอบรมวิชาชีพดีเด่นรวมจำนวน 61 คน เพื่อสร้างพลังแก่บุคลากร หน่วยงาน ตลอดจนเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนเดินหน้าขับเคลื่อนแก้ไขพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคต่อไป

          พลโท จตุพร  กลัมพสุต รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า กล่าวว่า กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า โดยศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดจังหวัดชายแดนภาคใต้ มีนโยบายเร่งด่วนในการแก้ไขปัญหายาเสพติดในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ทั้งระบบ เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตคืนคนดีสู่สังคมอย่างยังยืน สำหรับการขับเคลื่อนการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ แบ่งออกเป็น 4 ด้าน ประกอบด้วย ด้านการป้องกัน ด้านการปราบปราม ด้านการบำบัดรักษา และด้านการบริหารจัดการ โดยมีหน่วยงานที่รับผิดชอบ ตั้งแต่การป้องกัน การปราบปราม และการบำบัดรักษา แต่ยังขาดหน่วยงานหลักที่จะเข้ามาดูแลผู้ผ่านการบำบัดรักษายาเสพติด

          ซึ่งในวันนี้ทางศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ จะเป็นหน่วยในการเติมเต็ม โดยศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ บูรณาการร่วมกับ ศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดจังหวัดชายแดนภาคใต้ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ขับเคลื่อนงานด้านการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ทั้งนี้ในระดับพื้นที่หมู่บ้านตำบลให้โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล ผู้นำท้องที่ ผู้นำท้องถิ่น ผู้นำศาสนาและทีม Take care Team เป็นหน่วยงานหลักในการดูแลบุคลกล่าว สำหรับการฝึกอบรมวิชาชีพให้จังหวัดเป็นหน่วยงานหลักในการขับเคลื่อนการดำเนินงาน โดยประสานกับสถาบันพัฒนาฝีมือแรงงานจังหวัดในการจัดทำแผน และรายการเครื่องมือวัสดุอุปกรณ์ปัจจัยการผลิตเบื้องต้นที่จำเป็นในการประกอบอาชีพ เพื่อมอบให้กับผู้ผ่านการฝึกอบรมวิชาชีพตามหลักสูตรและหลักเกณฑ์ที่กำหนด ในเบื้องต้นจะฝึกอบรมวิชาชีพ 6 สาขาวิชา ประกอบด้วย ช่างซ่อมเครื่องยนต์ขนาดเล็กช่าง เชื่อมโลหะ ช่างปูกระเบื้อง ช่างแต่งผมสุภาพบุรุษ ช่างเดินสายไฟฟ้าภายในอาคาร และช่างปูนปั้นไม้เทียม โดยให้ใช้หลักสูตร 15 วัน 60 ชั่วโมง

ขอบคุณข้อมูล : ศูนย์ประชาสัมพันธ์ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค ๔ ส่วนหน้า

สำนักข่าวความมั่นคง

องคมนตรี พบปะนักเรียนทุนพระราชทาน โครงการกองทุนการศึกษา ในพื้นที่จังหวัดยะลา

          เมื่อวันที่ 27 กันยายน 2562 เวลา 13.00 น. ที่อาคารเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา มหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา อำเภอเมือง จังหวัดยะลา พลเอก เฉลิมชัย  สิทธิสาท องคมนตรี และคณะ ลงพื้นที่พบปะนักเรียน ทุนพระราชทาน โครงการกองทุนการศึกษา โดยมีเลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้, อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา, คณะครู, อาจารย์ และนักเรียนทุนพระราชทาน ร่วมให้การต้อนรับ

          พลเอก เฉลิมชัย  สิทธิสาท องคมนตรี กล่าวว่า หลายคนอยากมีโอกาสเป็นนักเรียนพระราชทานแต่ไม่มีโอกาส เราได้เป็นนักเรียนทุนพระราชทานตามโครงการกองทุนการศึกษา ถือว่าโชคดีมาก และต้องการให้พวกเราเดินไปข้างหน้า ตามความถนัดของตนเอง เป็นคนที่รู้จริง มีประสิทธิภาพ พร้อมทั้งฝากครู อาจารย์ คอยดูแล ให้คำแนะนำ และเป็นที่ปรึกษา ให้กับนักเรียนทุนพระราชทาน

          โครงการ กองทุนการศึกษา เป็นโครงการตามพระราชประสงค์ของ พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราชบรมนาถบพิตร ให้จัดตั้งโครงการ “กองทุนการศึกษา” มุ่งหวังสร้างคนดีคืนแผ่นดิน เมื่อเดือน กุมภาพันธ์ 2555 โดยพระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราชบรมนาถบพิตร พระองค์ได้มีพระราชกระแสรับสั่ง ให้ประธานองคมนตรีนำพระราชทานเงินส่วนพระองค์จำนวนหนึ่งไปใช้ประโยชน์ด้านการพัฒนาการศึกษา โดยให้ทำแบบภาคเอกชน ที่เน้นความ เรียบง่าย รวดเร็ว คล่องแคล่ว แต่ต้องประหยัด พอเพียง ซื่อสัตย์สุจริต และมุ่งเน้นการปลูกฝังคุณธรรมให้เยาวชนเป็นคนดีก่อน แล้วความเก่งจะตามมา นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ ที่มีต่อปวงชนชาวไทยอย่างหาที่สุดไม่ได้

          ทั้งนี้นักเรียนที่ได้รับ ทุนพระราชทาน โครงการกองทุนการศึกษา ประกอบด้วย  เด็กหญิงบรรธิตา ไชยสิทธ์ นักเรียนชั้นมัธมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนคณะราษฏรบำรุงจังหวัดยะลา  นางสาวอาดียา แวนะไล นางสาวลัยลา สะมะแอ นักศึกษาชั้นปีที่ 1 คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา โดยทั้ง 3 คน ได้รับทุนพระราชทาน โครงการกองทุนการศึกษาตั้งแต่ศึกษาในระดับชั้นประถมศึกษา จนถึงระดับอุดมศึกษา

ขอบคุณข้อมูล : ศูนย์ประชาสัมพันธ์ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค ๔ ส่วนหน้า

สำนักข่าวความมั่นคง