ข่าวใหม่อัพเดท » ชุดปฏิบัติการพิเศษฝ่ายปกครองฯ ตรวจสอบสถานบันเทิงดังใจกลางเมือง เปิดเกินเวลาที่กำหนด พบยาเสพติดทิ้งเกลื่อนใต้โต๊ะนักดื่ม..

ชุดปฏิบัติการพิเศษฝ่ายปกครองฯ ตรวจสอบสถานบันเทิงดังใจกลางเมือง เปิดเกินเวลาที่กำหนด พบยาเสพติดทิ้งเกลื่อนใต้โต๊ะนักดื่ม..

29 เมษายน 2024
0

นครพนม – ชุดปฏิบัติการพิเศษฝ่ายปกครองฯ ตรวจสอบสถานบันเทิงดังใจกลางเมืองเปิดกิจการ เกินเวลาที่กำหนดพบยาเสพติดทิ้งเกลื่อนใต้โต๊ะนักดื่ม..

เมื่อ 29 เมษายน 2567 เวลา 02.15 น. ภายใต้การอำนวยการของ นายวันชัย จันทร์พร ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม /ผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันและปราบปรามยาเสพติด จังหวัดนครพนม นายชวนินท์ วงศ์สถิตจิรกาล รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม, นายวรวิทย์ พิมพนิตย์ ปลัดจังหวัดนครพนม, นายสมศักดิ์ บุญจันทร์ นายอำเภอเมืองนครพนม, นายสุรศักดิ์ กันสูงเนิน ป้องกันจังหวัดนครพนม สั่งการให้นายประชุมศิลป์ พิทักษ์ ปลัดอำเภอหัวหน้ากลุ่มงานบริหารงานปกครอง พร้อมปลัดอำเภอฯ และสมาชิก อส. ร่วมกันจับกุม ผู้ประกอบการ สถานบริการร้าน AEC นครพนม ตั้งอยู่ถ.นิตโย ต.ในเมือง อ.เมืองนครพนม จว.นครพนม โดยแจ้งข้อกล่าวหาว่า

  1. จำหน่ายเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์เกินกว่าเวลาที่กฎหมายกำหนด
  2. ยินยอมหรือปล่อยปละละเลยให้ผู้มีอายุต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์ ซึ่งมิได้ทำงานในสถานบริการนั้นเข้าไปในสถานบริการระหว่างเวลาทำการ
  3. จำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้แก่บุคคลที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์
  4. ยินยอมหรือปล่อยปละละเลยให้มีการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดในสถานบริการ
  5. ยินยอมหรือปล่อยปละละเลยให้ผู้ที่ไม่มีบัตรประจำตัวประชาชนเข้ามาใช้บริการ
    ของกลางที่ตรวจยึด ประกอบด้วย
  6. เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ประเภท เบียร์ ยี่ห้อช้าง ที่จำหน่ายให้ผู้มีอายุต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์
  7. ยาเสพติดให้โทษประเภท 2 (ยาอี) จำนวน 3 ถุง บรรจุด้วยถุงพลาสติกใสแบกดปิดขนาดเล็ก โดยของกลางทั้งหมด อยู่ภายในสถานบริการร้าน AEC นครพนม
    พฤติการณ์ในการจับกุม

ด้วยศูนย์ดำรงธรรมอำเภอเมืองนครพนม จังหวัดนครพนม ได้รับเรื่องร้องเรียน / ร้องทุกข์ ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนจากผู้ไม่ประสงค์ออกนาม ว่าร้าน AEC นครพนม มีการเปิดให้บริการเกินกว่าเวลาที่กฎหมายกำหนด กล่าวคือเปิดให้บริการจนถึงเวลา 03.00 น. ของทุกวัน และเปิดให้บริการถึงช่วงเวลาดังกล่าวอยู่เป็นประจำ สร้างความเดือดร้อนรำคาญให้กับผู้ที่พักอาศัยอยู่ในพื้นที่บริเวณใกล้เคียงเป็นอย่างมาก ด้วยเหตุนี้ ผู้ร้องเรียน / ร้องทุกข์ จึงขอความช่วยเหลือมายังเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เพื่อดำเนินการช่วยเหลือและแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนดังกล่าว จากกรณีที่ได้รับเรื่องร้องเรียน / ร้องทุกข์

ต่อมาเมื่อวันที่ 28 เมษายน 2567 นายสมศักดิ์ บุญจันทร์ นายอำเภอเมืองนครพนม ได้รายงานปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนให้ นายวันชัย จันทร์พร ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม ทราบ จึงสั่งการให้ ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง ตามที่ได้รับเรื่องร้องเรียน / ร้องทุกข์ หากพบการกระทำความผิดจริง ให้จับกุมดำเนินคดีตามอำนาจหน้าที่

เวลาประมาณ 09.00 น. ของวันที่ 28 เมษายน 2567 นายสมศักดิ์ บุญจันทร์ นายอำเภอเมืองนครพนม ได้สั่งการให้ ฝ่ายปกครองอำเภอเมืองนครพนมบูรณาการร่วมกับฝ่ายปกครองจังหวัดนครพนมและเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองนครพนม ร่วมกันวางแผนเข้าทำการตรวจสอบข้อเท็จจริงและจับกุมผู้กระทำความผิด จากการร่วมกันวางแผน เจ้าหน้าที่ได้แบ่งกำลังกันในการปฏิบัติหน้าที่ โดยแบ่งกำลังในการคุมโซนต่างๆในพื้นที่ สถานบริการ ร้าน AEC นครพนม เพื่อรวบรวมหลักฐานต่างๆที่ผิดกฎหมายในสถานบริการ และ จัดชุดเจ้าหน้าที่อำพราง จำนวน 6 นาย (ขอสงวนชื่อนามสกุล) เพื่อดำเนินการล่อซื้อเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์หลังเวลาปิดให้บริการตามเวลาที่กฎหมายกำหนด

จากนั้นในห้วงเวลา 02.00 น. เจ้าหน้าที่อำพรางพบว่าสถานบริการร้าน AEC นครพนม ยังไม่ปิดให้บริการ ยังมีการจัดให้มีการแสดง จึงได้ทำการล่อซื้อเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ โดยเจ้าหน้าที่อำพรางได้สั่งซื้อเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ ในราคา 240 บาท โดยโอนชำระผ่านบัญชีธนาคารเข้าสถานบริการ ในเวลา 02.07 น. ของวันที่ 29 เมษายน 2567 (เอกสารหลักฐานสลิปการโอนเงิน เอกสารประกอบหมายเลข 1) เจ้าหน้าที่เห็นว่าการกระทำดังกล่าวเป็นความผิด จึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม เข้าดำเนินการตรวจสอบ เวลาประมาณ 02.10 น. เจ้าหน้าที่เดินทางมาถึงร้าน AEC นครพนม ถ.นิตโย ต.ในเมือง อ.เมืองนครพนม จว.นครพนม (จุดเกิดเหตุ) เจ้าหน้าที่ได้แบ่งกำลังในการคุมโซนและแบ่งกำลังปฏิบัติหน้าที่ตามที่ได้ร่วมกันวางแผน จากนั้น เจ้าหน้าที่พบผู้ดูแลหรือผู้จัดการร้าน เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวเป็นเจ้าพนักงานฝ่ายปกครอง เพื่อขอทำการตรวจสอบข้อเท็จจริง และ ตรวจค้นสิ่งผิดกฎหมายภายในสถานบริการร้าน AEC นครพนม

จากการตรวจสอบข้อเท็จจริง เจ้าหน้าที่ได้แสดงสลิปการโอนเงินชำระค่าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ต่อหน้าผู้ดูแลหรือผู้จัดการร้าน โดยยอมรับกับเจ้าหน้าที่ว่า สลิปการโอนเงินดังกล่าว เป็นสลิปการโอนเงินค่าเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์จริง ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่เกินกว่ากฎหมายกำหนด เจ้าหน้าที่เห็นว่าการกระทำดังกล่าวเป็นความผิด จึงแจ้งข้อกล่าวหากระทำผิดในฐาน “จำหน่ายเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์เกินกว่าเวลาที่กฎหมายกำหนด”

หลังจากทำการจับกุม เจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการตรวจบัตรประจำตัวประชาชนของผู้มาใช้บริการ ผลปรากฏพบบุคคล ที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์เข้ามาใช้บริการ ซึ่งบุคคลดังกล่าวมีอายุ 18 ปี เจ้าหน้าที่จึงได้สอบถามว่าตนมีวัตถุประสงค์ใดที่เข้ามาในสถานบริการร้าน AEC นครพนม แห่งนี้ ได้ความว่า ตนเข้ามาเพื่อใช้บริการ และ ตนได้สั่งเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ ประเภทเบียร์ ยี่ห้อช้าง จำนวน 2 ขวด (เอกสารหลักฐานบันทึกคำให้การ ปค.14 เอกสารหมายเลข 2) เจ้าหน้าที่จึงได้ให้ตนไปที่โต๊ะที่ตนนั่ง ผลปรากฏพบเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ประเภทเบียร์ ยี่ห้อช้าง จำนวน 1 ขวด พร้อมแก้วน้ำ จำนวน 4 ใบ และ ถังใส่น้ำแข็ง จำนวน 1 ถัง (ของกลางหมายเลข 1) วางอยู่บนโต๊ะ

จากกรณีดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการตรวจสอบใบอนุญาต พบใบอนุญาตให้ตั้งสถานบริการเลขที่ 1/2567 และ พบใบอนุญาตขายสุราประเภท ที่ 2 อนุญาตให้ นายพิศนัยน์ คำป้อง โดยระบุในใบอนุญาตชัดเจนว่า ห้ามจำหน่ายสุรา – ยาสูบแก่เด็กอายุต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์ เจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมให้ผู้ถูกจับทราบว่า “ยินยอมหรือปล่อยปละละเลยให้ผู้มีอายุต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์ซึ่งมิได้ทำงานในสถานบริการนั้นเข้าไปในสถานบริการระหว่างเวลาทำการ” และ “จำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้แก่บุคคลที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์”

เวลาประมาณ 02.45 น. เจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการตรวจปัสสาวะหาสารเสพติดของผู้มาใช้บริการ ผลปรากฏพบ สารเคตามีนในร่างกายของผู้มาใช้บริการ จำนวน 2 ราย (เอกสารหลักฐานบันทึกคำให้การ ปค.14 เอกสารหมายเลข 5 – 6) เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการตรวจสอบพื้นที่ภายในสถานบริการ ร้าน AEC นครพนม ผลปรากฏพบยาเสพติดให้โทษประเภท 2 (ยาเค) จำนวน 3 ถุง บรรจุอยู่ในถุงพลาสติกใสแบบกดปิด โดยถุงที่ 1 พบอยู่บริเวณหน้าเวที ห่างจากหน้าเวทีประมาณ 6 เมตร ถุงที่ 2 พบอยู่บริเวณหน้าเวทีเช่นเดียวกันกับจุดที่ 1 ห่างจากหน้าเวทีประมาณ 5.4 เมตร และ ถุงที่ 3 พบอยู่บริเวณห้องน้ำชาย (ของกลางหมายเลข 2)

จากการตรวจสอบไม่พบบุคคลใดมาแสดงตัวเป็นเจ้าของ เนื่องจากในระหว่างที่เจ้าหน้าที่ได้เข้าดำเนินการตรวจสอบผู้เข้ามาใช้บริการเกิดความตกใจและโยนสิ่งผิดกฎหมายทิ้งลงในพื้นที่บริเวณดังกล่าว เจ้าหน้าที่เห็นว่าการกระทำดังกล่าวเป็นความผิด จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมให้กับผู้ประกอบการ ตนกระทำผิด ในฐาน “ยินยอมหรือปล่อยปละละเลยให้มีการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดในสถานบริการ” และทำการจับกุม พร้อมกับแจ้งสิทธิ์ให้ผู้ถูกจับจะได้รับทราบอีกครั้งหนึ่ง จากนั้น นำตัวผู้ถูกจับพร้อมของกลางทั้งหมด มาที่กองร้อย อส.อ.เมืองนครพนม ที่ 3 เพื่อทำบันทึกการจับกุม และนำตัวผู้ถูกจับพร้อมของกลางทั้งหมด ส่ง พงส.สภ.เมืองนครพนม เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป


ฟร้องข่าวสด นครพนม
เพลิงพระกาฬ
เทพข่าวร้อน
สำนักข่าวความมั่นคง รายงาน

error: Content is protected !!