ข่าวใหม่อัพเดท » โวย คดีไม่คืบ !! สาวใหญ่บุกรั้วปทุมวันร้องขอความเป็นธรรม จตช.กรณีไม่ได้รับความเป็นธรรมจากตำรวจ สน.ลาดกระบัง

โวย คดีไม่คืบ !! สาวใหญ่บุกรั้วปทุมวันร้องขอความเป็นธรรม จตช.กรณีไม่ได้รับความเป็นธรรมจากตำรวจ สน.ลาดกระบัง

5 เมษายน 2022
0

โวย คดีไม่คืบสาวใหญ่บุกรั๊วปทุมวันร้องขอความเป็นธรรม จตช.กรณีไม่ได้รับความเป็นธรรมจากตำรวจ สน.ลาดกระบัง

วันที่ 5 เม.ย.65 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ น.ส.ทัศนีย์ ลิ้มเจริญธัญญะผล ผู้เสียหายพร้อมด้วย นายชณุนาท ณัฐภัทรกุล ทนายความ เข้ายื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมถึง พล.ต.อ. วิสนุ ปราสาททองโอสถ จเรตำรวจแห่งชาติ (จตช.)เพื่อขอความเป็นธรรม กรณีได้รับความเดือดร้อนและไม่ได้รับรวามเป็นธรรมจากการดำเนินคดีของพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจนครบาลลาดกระบัง โดยมี พ.ต.ท.พงษ์ปกรณ์ พิพัฒนสมบพร สำนักงานจเรตำรวจแห่งชาติเป็นผู้รับเรื่อง

น.ส.ทัศนีย์ กล่าวว่า สืบเนื่องจากกรณีที่ตนตกเป็นจำเลย คดีร่วมกันเบียดบังเอาเงินจำนวน 41 ล้านบาท ของประธานมูลนิธิศูนย์ส่งเสริมพระพุทธศาสนาแห่งประเทศไทย เมื่อปี 2559 ซึ่งก่อนหน้านี้ได้มายื่นหนังสือร้องเรียนขอความเป็นความธรรม กับ พล.ต.อ.วิสนุ ปราสาททองโอสถ จเรตำรวจแห่งชาติ (จตช.) ไปแล้วครั้งหนึ่งเมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2564 ที่ผ่านมาและเมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2565 ตนได้รับหนังสือจาก สถานีตำรวจนครบาลลาดกระบัง ให้มาพบพนักงานสอบสวน เพื่อให้ถ้อยคำต่อพนักงานสอบสวนตามที่ยื่นหนังสือร้องเรียนไว้ที่ จตช.

ต่อมาเมื่อวันที่ 24 มี.ค.65 ตน พร้อมทนายความ เดินทางไปยังสถานีตำรวจนครบาลลาดกระ บัง ตามที่พนักงานสอบสวนได้นัดหมายไว้ เพื่อให้ถ้อยคำ ปรากฎว่า พนักงานสอบสวน ไม่ได้สอบสวนในประเด็นตามที่ ตนได้ร้องไว้กับ จตช.อย่างละเอียด และก็ไม่ได้รวบรวมหรือเรียกพยานหลักฐานอะไรมาเพิ่มเติม เพื่อแสวงหาความจริงในประเด็นต่างๆ ตามที่ได้ร้องเรียนไว้ และพนักงานสอบสวน ไม่ยินยอมให้บุคคลที่ ตนไว้วางใจ รวมทั้งทนายความ เข้าร่วมฟังการให้ถ้อยคำต่อพนักงานสอบสวน และในระหว่างการให้ถ้อยคำ พนักงานสอบสวนก็ไม่ได้รับฟังข้อเท็จจริง และพยานหลักฐาน ที่ตนนำมามอบให้เพื่อประกอบการให้ถ้อยคำ นอกจากนี้พนักงานสอบสวนบังคับให้ตน ยอมรับข้อเท็จจริงในสำนวนคดีเดิม พร้อมแจ้งว่า “เรื่องเอกสารไม่เป็นไร เพราะคงสอบไม่ละเอียดมาก”

น.ส.ทัศนีย์ กล่าวอีกว่า รู้สึกว่าเกิดการช่วยเหลือกันในหน่วยงานเดียวกัน เนื่องจากสถานีตำรวจนครบาลลาดกระบัง เป็นหน่วยงานที่ถูกร้องเรียน และพฤติการณ์ของพนักงานสอบ สวน ที่ไม่ได้รับฟังข้อเท็จจริงและไม่ยอมรับเอกสารที่ตนนำมามอบให้ รวมถึงคำพูดของพนักงานสอบสวน ทำให้เคลือบแคลงใจสงสัยว่ามีการช่วยเหลือกัน ระหว่างตำรวจในหน่วยงานเดียวกันเอง อันทำให้มีพิรุธน่าสงสัยเป็นอย่างยิ่ง ทำให้ไม่ได้รับความเป็นธรรมอย่างยิ่ง จึงต้องมายื่นหนังสือขอความเป็นธรรมกับ จตช. อีกครั้งเพื่อเรียกร้องขอความเป็นธรรมในกรณีดังกล่าว

พ.ต.ท.พงษ์ปกรณ์ กล่าวว่า กรณีดังกล่าวผู้ร้อง เคยร้องขอความเป็นธรรม ต่อสำนักงานจเรตำรวจแห่งชาติ เมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2565 ไปแล้วครั้งหนึ่ง หลังจากนั้น ทางจเรตำรวจแห่งชาติ ได้ มอบหมายให้จเรตำรวอง 10 ดำเนินการ ตรวจสอบข้อเท็จจริง และวันนี้ทางผู้ร้อง ได้มาร้องทุกข์ขอความเป็นธรรม จากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ครั้งที่ 2 หลังจากนี้ จะดำเนินการส่งเรื่อง ให้ผู้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง ดำเนินการตรวจสอบ ส่วนกรณีที่ผู้ร้อง แจ้งว่า มันจะติดตามความชอบธรรมคู่กรณีให้ทนายความเข้าร่วมฟังการสอบปากคำร่วมนั้น อยู่ระหว่างดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง หลังจากนี้ ก็จะส่งหนังสือ ไปยัง จเรตำรวจคลอง 10 และกองบังคับการตำรวจนครบาล 4 ดำเนินการตรวจสอบอีกครั้ง เพื่อความสบายใจของผู้ร้องว่าต้องการ แบบไหนอย่างไร เพื่อดำเนินการต่อไป ด้วยความยุติธรรม สามารถตอบโจทย์และสังคมได้อย่างโปร่งใส ดังกล่าว


error: Content is protected !!