ผู้ว่าฯ อยุธยา นำข้าราชการและพสกนิกรทุกหมู่เหล่า ร่วมพิธีถวายราชสักการะ เพื่อแสดงความจงรักภักดีและน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณฯ เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ ในหลวงรัชกาลที่ 9

ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นำข้าราชการพลเรือน ศาล ทหาร ตำรวจ และพสกนิกรทุกหมู่เหล่า ร่วมพิธีทำบุญตักบาตรถวายพระราชกุศล วางพานพุ่มดอกไม้และถวายบังคม เพื่อแสดงความจงรักภักดีและน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณฯเนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 วันชาติ และวันพ่อแห่งชาติ 5 ธันวาคม 2565 และพิธีเปิดกิจกรรมวันดินโลก ปี 2565 (World Soil Day)

วันที่ 5 ธันวาคม 2565 ณ หอประชุมพระพิรุณระลึกโปรดเกล้าฯ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ ศูนย์พระนครศรีอยุธยา หันตรา นายนิวัฒน์ รุ่งสาคร ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พร้อมด้วย นางวัชราภรณ์ รุ่งสาคร นายกเหล่ากาชาดจังหวัดพระนครศรี อยุธยา เป็นประธานในพิธี นำหัวหน้าส่วนราชการพลเรือน ศาล ทหาร ตำรวจ คณะรองผู้ว่าราชการจังหวัด และประชาชนทุกหมู่เหล่า เข้าร่วมพิธีทำบุญตักบาตรถวายพระราชกุศล พิธีวางพานพุ่มถวายบังคม เพื่อแสดงออกถึงความจงรักภักดีและน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณฯ เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร วันชาติ และวันพ่อแห่งชาติ 5 ธันวาคม 2565 และเปิดกิจกรรมวันดินโลก ปี 2565 (World Soil Day)

โดยในเวลา 07.30 น. นายนิวัฒน์ รุ่งสาคร ผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นประธานฝ่ายฆราวาส และพระราชวัชราภรณ์ เจ้าคณะภาค 1-2-3 ธรรมยุต เจ้าอาวาสวัดชูจิตธรรมาราม เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ พร้อมคณะสงฆ์ทรงสมณศักดิ์ รวม 10 รูป ประกอบพิธีเจริญพระพุทธมนต์ ในโอกาสเดียวกันนี้ ได้ร่วมกันทำบุญตักบาตรข้าวสารอาหารแห้ง แด่ภิกษุสงฆ์ จำนวน 89 รูป เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลฯ

จากนั้นผู้ว่าราชการจังหวัดฯ ได้เป็นประธานประกอบพิธีถวายพานพุ่มดอกไม้สด และถวายบังคม ต่อเบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร พร้อมด้วยหน่วยราชการในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และพสกนิกรทุกหมู่เหล่า ร่วมถวายพานพุ่มโดยพร้อมเพรียงกัน

ต่อจากนั้นประธานฯ ได้เปิดกิจกรรมวันดินโลก ปี 2565 (World Soil Day) เพื่อระลึกถึงพระปรีชาสามารถพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในด้านการปกป้องและพัฒนาทรัพยากรดิน การส่งเสริมและสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับความสำคัญของทรัพยากรดิน ต่อการพัฒนาด้านการเกษตร โภชนาการ และความมั่นคงทางอาหาร ทั้งในระดับประเทศและระหว่างประเทศ

พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ผู้ทรงกอปรด้วยคุณูปการอันใหญ่หลวงต่อพสกนิกรและผืนแผ่นดินไทย ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจนานัปการที่ล้วนก่อให้เกิดความผาสุกแก่แผ่นดินไทยตลอดมา ดังนั้น ในวันที่ 5 ธันวาคม ซึ่งเป็นวันชาติ และวันพ่อแห่งชาติ จึงเป็นโอกาสอันดีที่ชาวจังหวัดพระนครศรีอยุธยาและปวงชนชาวไทยทุกหมู่เหล่า จะได้ร่วมกันแสดงออกถึงความจงรักภักดีและน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุด


สุขุม แก้วกุดั่น อยุธยา

เพชรบูรณ์ จัดโครงการเครือข่ายหมู่บ้าน/ชุมชนร่วมใจต้านภัยยาเสพติดจังหวัดเพชรบูรณ์ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566

เพชรบูรณ์ – จัดโครงการเครือข่ายหมู่บ้าน/ชุมชนร่วมใจต้านภัยยาเสพติดจังหวัดเพชรบูรณ์ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566

ที่กองร้อยอาสารักษาดินแดนจังหวัดเพชรบูรณ์ ที่ 1 นายชนก มากพันธุ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ เป็นประธานพิธีเปิดการฝึกอบรม “โครงการเครือข่ายหมู่บ้าน/ชุมชนร่วมใจ ต้านภัยยาเสพติด จังหวัดเพชรบูรณ์ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566” โดยมีนายชัยสิทธิ์ ชัยสัมฤทธิ์ผล ปลัดจังหวัดเพชรบูรณ์ กล่าวรายงาน พร้อมด้วย หัวหน้าส่วนราชการ และผู้เข้ารับการฝึกอบรมจาก 11 อำเภอ จำนวน 100 คน เข้าร่วม

นายชัยสิทธิ์ ชัยสัมฤทธิ์ผล ปลัดจังหวัดเพชรบูรณ์ กล่าวว่า ที่ทำการปกครองจังหวัดเพชรบูรณ์ ได้จัดทำโครงการเครือข่ายหมู่บ้าน/ชุมชนร่วมใจต้านภัยยาเสพติด จังหวัดเพชรบูรณ์ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 จำนวน 1 รุ่น โดยใช้เวลาการฝึกอบรมจำนวน 2 คืน 3 วัน ระหว่างวันที่ 6-8 ธันวาคม 2565 มีผู้เข้ารับการฝึกอบรมจาก 11 อำเภอ จำนวน 100 คน โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อสำรวจกลุ่มเป้าหมาย เยาวชน ที่มีแนวโน้มหรือมีโอกาสที่จะเข้าไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติดหรือสร้างปัญหาในพื้นที่หมู่บ้าน/ชุมชนในอนาคต เพื่อใช้เป็นกลุ่มเป้าหมายในการเฝ้าระวัง เพื่อคัดเลือกประชาชนวัยเสี่ยง ห้วงอายุ 13-29 ปี ที่อำเภอเห็นว่าเป็นผู้ที่จะสามารถนำมาพัฒนาให้เป็นผู้นำ หรือเป็นแนวร่วมทำกิจกรรมต่างๆ เพื่อป้องกันปัญหายาเสพติดในพื้นที่ได้ตามเป้าหมายที่กำหนด เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันและหากิจกรรมการมีส่วนร่วมให้แก่ประชาชนวัยเสี่ยง ห้วงอายุ 13-29 ปี ที่ไม่ได้อยู่ในระบบการศึกษาภาคปกติ หรือกลุ่มว่างงาน หรือเป็นผู้มีจิตอาสาช่วยเหลืองานสาธารณประโยชน์ ได้มีส่วนร่วมในการป้องกันแก้ไขปัญหายาเสพติดในพื้นที่ เพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับครอบครัวและชุมชน ได้ตระหนักรู้ถึงปัญหายาเสพติด เพื่อลดและป้องกันผู้เกี่ยวข้องกับยาเสพติดรายใหม่ โดยการมีส่วนร่วมทำกิจกรรมกลุ่มในชุมชนอย่างต่อเนื่อง และเพื่อเพิ่มศักยภาพและประสิทธิภาพการทำงานของอำเภอ ในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด โดยการนำประชาชนที่ผ่านการ ฝึกอบรมหลักสูตร มาช่วยเหลืองานของทางราชการ หรือการรวมกลุ่มจัดกิจกรรมรูปแบบต่างๆ ร่วมกัน เช่น ดนตรี กีฬา หรืองานบริการสาธารณประโยชน์ในพื้นที่

โดยการฝึกอบรมครั้งนี้ ได้รับการสนับสนุนวิทยากร จากสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ภาค 6 ศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดจังหวัดเพชรบูรณ์ สถานีตำรวจภูธรเมืองเพชรบูรณ์ สำนักงานสาธารณสุขอำเภอเมืองเพชรบูรณ์ และชุดครูฝึก สมาชิกกองอาสารักษาดินแดน กองร้อยอาสารักษาดินแดนจังหวัดเพชรบูรณ์ ที่ 1 และงบประมาณการฝึกอบรมจากกรมการปกครอง


มนสิชา คล้ายแก้ว/สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเพชรบูรณ์

ทหารแจกผ้าห่มกันหนาวให้ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยติดเตียงและผู้พิการ

จังหวัดลพบุรี – ค่ายวชิราลงกรณ์ จัดกำลังพล Army Delivery เดินเท้าแจกจ่ายผ้าห่มกันหนาว เพื่อช่วยผ่อนคลายความหนาวให้แก่ ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยติดเตียง และผู้พิการ ในพื้นที่ชุมชนรอบค่ายฯ ตามนโยบายกองทัพบก

กองพันรบพิเศษที่ 2 กรมรบพิเศษที่ 1 จัดกำลังพล Army Delivery ชุดปฏิบัติงานด้านกิจการพลเรือน ขุนศึก 524 ในนามศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกรมรบพิเศษที่ 1 ค่ายวชิราลงกรณ์ พลร่มป่าหวาย จังหวัดลพบุรี ร่วมกับ ผู้นำชุมชนในพื้นที่ หมู่ที่ 2 และ อสม. ต.ป่าตาล พร้อมด้วยภาคเอกชน จาก บริษัท TOYOTA นารายณ์แกรนด์ ออกปฏิบัติการเดินเท้า ลงพื้นที่เข้าพบปะเยี่ยมเยือนให้กำลังใจประชาชน ในพื้นที่ชุมชนรอบค่ายฯ พร้อมกับดำเนินการมอบผ้าห่มกันหนาวคุณภาพดี ซึ่งได้รับมอบจาก “กองทัพบก” พร้อมด้วยข้าวสารบรรจุถุง ถุงละ 5 กิโลกรัม ไปมอบให้กับ ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยติดเตียง ผู้พิการ และประชาชนกลุ่มผู้เปราะบาง ในพื้นที่บ้านห้วยเปี่ยม หมู่ที่ 2 ตำบลป่าตาล อำเภอเมือง จังหวัดลพบุรี รวมกว่า 10 หลังคาเรือน เพื่อช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ประชาชน ที่ได้รับผลกระทบจากสภาพอากาศที่หนาวเย็น อุณหภูมิลดลง โดยเฉพาะในช่วงเวลากลางคืน ตลอดจนเพื่อเป็นการสร้างสัมพันธภาพที่ดีระหว่างชุมชน หน่วยงานทหาร และภาคเอกชนในพื้นที่ เพื่อแสดงออกถึงความห่วงใยของกองทัพบก ที่มีต่อประชาชน

โดยได้รับการตอบรับจาก ประชาชน เป็นอย่างดี และมีความซาบซึ้งใจที่ เจ้าหน้าที่ทหาร ได้เข้ามอบผ้าห่ม และให้กำลังใจและคอยให้การช่วยเหลือประชาชนในทุกโอกาส ซึ่งทุกขั้นตอนในการปฏิบัติ กำลังพลของหน่วยยังคงยึดหลักตามมาตรการเฝ้าระวังป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส covid-19 ตามที่กองทัพบกห่วงใยอย่างเคร่งครัด


กฤษณ์ สนใจ ลพบุรี 0890899090

เข่าทรุดไฟไหม้บ้านอดีตผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านวอด 

ลพบุรี – เข่าทรุดไฟไหม้บ้านอดีตผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านวอด

วันที่ 6 ธ.ค.2565 ร.ต.อ.สมศักดิ์ ทองกร รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมือง ลพบุรี ได้รับแจ้งว่ามีเหตุเพลิงไหม้บ้านเรือนประชาชน บริเวณถนนนิโคตรตัดกับถนนหกบาท ตำบลทะเลชุบศร อ.เมือง ลพบุรี จึงไประสานขอรถน้ำดับเพลิงจาก อบต.ทะเลชุบศร เทศบาลตำบลถนนใหญ่ และพื้นที่ใกล้เคียงรุดเดินทางไปยังจุดเกิดเหตุในที่เกิดเห ตุที่เกิดเหตุเป็นบ้านไม้ยกสูง เลขที่ 43/1 ม.2 ต.ทะเลชุบศร อ.เมืองลพบุรี จ.ลพบุรี ของนาย จักรพันธ์ รื่นภิรมย์ อายุ 48 ปี เจ้าของบ้าน อดีตผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 2 ต.ทะเลชุบศร เพลิงได้โหมลุกไหม้อย่างรุนแรงเนื่องจากเป็นบ้านไม้เก่า ซึ่งเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี และมีลมกรรโชกมาเป็นระยะ เจ้าหน้าที่ดับเพลิงได้เร่งทำการฉีดน้ำสกัดเพลิงให้อยู่ในวงจำกัด ไม่ให้ลุกลามไปติดบ้านข้างเคียง แต่ก็ทำให้ไฟได้ลุกไหม้วอดหมดทั้งหลัง

จากการสอบสวนนายจักรพันธ์ เจ้าของบ้านเล่าว่า ที่บ้านหลังดังกล่าวตนเองพักอาศัยอยู่กับเพื่อน 2 คน ขณะเกิดเหตุเพลิงไหม้ ตนเองไม่อยู่บ้าน ออกไปทำงานด้านนอกกับเพื่อน ซึ่งผู้เห็นเหตุการณ์ซึ่งเป็นเพื่อนบ้าน บอกว่าได้เห็นกลุ่มควันพวยพุ่งออกมาจากภายในตัวบ้านจึงวิ่งมาดูพบเป็นเพลิงไหม้รุนแรงแล้ว ไม่สามารถดับได้ จึงได้รีบแจ้งตำรวจให้เรียกรถดับเพลิงมาช่วยดับดังกล่าว

หลังเพลิงสงบนาย พิษณุ ประภาธนานันท์ นายอำเภอเมืองลพบุรี นายวันชัย ศรีชมภู หัวหน้าปลัดฝ่ายความมั่นคง อำเภอเมืองลพบุรี ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบในที่เกิดเหตุ และสอบสวนผู้เห็นเหตุการณ์ ด้วยตนเอง ซึ่งในเหตุการณ์ครั้งนี้ ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต บ้านที่เกิดเหตุได้รับความเสียหายหมดทั้งหลัง ยังไม่ทราบสาเหตุของการเกิดเหตุเพลิงไหม้ในครั้งนี้ ซึ่งต้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานลงพื้นที่หาประเด็นสาเหตุของการเกิดเหตุเพลิงไหม้ในครั้งนี้อีกครั้ง เบื้องต้นประเมิน มูลค่าความเสียหายประมาณ 500,000 บาท


กฤษณ์ สนใจ ลพบุรี 0890899090

ชายเมาคลั่ง ! ยิงลูกดอกเหล็กยิงปลาเฉียดหน้าอกตำรวจ สภ.โพนทอง ขณะเข้าจับกุม เกือบเป็นมะลาง

ร้อยเอ็ด – ชายเมาคลั่งยิงลูกดอกเหล็กยิงปลาเฉียดหน้าอกตำรวจ สภ.โพนทอง (ร.ต.อ.เอกพล เปลรินทร์) ขณะเข้าจับกุม เกือบเป็นมะลาง

เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 6 ธ.ค.2565 ร.ต.อ.เอกพล เปลรินทร์ รองสารวัตรป้องกันปราบปราม สภ.โพนทอง จังหวัดร้อยเอ็ด ได้รับแจ้งว่ามีเหตุชายคลุ้มคลั่งมีอาวุธปืน กำลังทำร้ายทรัพย์ สินของเพื่อนบ้าน ที่บ้านโนนเพชร ต.สระนกแก้ว อ.โพนทอง จ.ร้อยเอ็ด จึงจัดกำลังตำรวจชุดบูรณาการ พร้อมโล่ป้องกัน และอาสาสมัครกู้ภัยเจ้าปู่กุดเป่ง ออกตรวจสอบที่บ้านเลขที่ 146 ม.6 บ .โนนเพชร ต.สระนกแก้ว อ.โพนทอง จ.ร้อยเอ็ด บริเวณบ้านพบท่อนไม้ และรั้วบ้านพังเสียหาย จากการทำลายเพราะอาการเมาคุ้มคลั่ง ทราบชื่อผู้ก่อเหตุคือนายอุดม จักสาร อายุ 48 ปี ซึ่งอยู่ในอาการคุ้มคลั่ง โดยผู้ก่อเหตุมีอาวุธปืนไทยประดิษฐ์ ขนาด 9 มม. ปืนผาหน้าไม้ และมีดพร้า หลบซ่อนตัวอยู่ในบ้านเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้จัดกำลังพร้อมอุปกรณ์ป้องกันเข้าปิดล้อมบ้านที่เกิดเหตุ และได้ทำการเกลี้ยกล่อมให้วางอาวุธ ใช้เวลากว่า 30 นาที แต่ไม่เป็นผล แถมยังตะโกนออกมาบอกกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า จะไม่ยอมมอบตัวให้เข้ามาจับตายได้เลย

หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงได้ทำการงัดประตูบ้านเนื่องจากมีการล็อคจากด้านใน ขณะเจ้าหน้าที่ตำรวจงัดประตู ชายคลั่งได้ยิงหน้าไม้ด้วยลูกดอกเหล็กสวนออกมาใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจ 1 นัด ลูกดอกเหล็กได้เฉียดหน้าอกเจ้าหน้าที่ตำรวจไปแค่คืบพุ่งปักถุงย้ามผ้าที่ห้อยต้นเสาเรือน จนทะลุไฟฉายที่อยู่ในถุงผ้า คนร้ายพยายามยิงต่อสู้ แต่อาวุธปืนของผู้ก่อเหตุยิงไม่ออก เจ้าหน้าที่จึงทำการยิงเพื่อสกัดตัวผู้ก่อเหตุ เข้าที่บริเวณขา ก่อนบุกเข้าชาร์จตัวทันที หลังจากนั้นจึงนำตัวส่งโรงพยาบาลโพนทองเพื่อทำการรักษา ก่อนคุมตัวดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไปหลังเข้าชาร์ทตัวสำเร็จ เข้าตรวจสอบภายในบ้าน พบอาวุธปืนไทยประดิษฐ์ ขนาด 9 มม. พร้อมลูกกระสุน 1 นัด ส่วนอีก 1 นัด ติดอยู่ในลำกล้องของปืน และมีดพร้าโต้จำนวน 1 ด้าม พร้อมกับปืนผา ที่ใช้สำหรับยิงปลาซึ่งลูกดอกทำจากลูกเหล็ก

สอบถามนายสุรพล อมรสิน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ซึ่งมีบ้านอยู่ติดกับผู้ก่อเหตุ เล่าให้ฟังว่า นายอุดมผู้ก่อเหตุมีพฤติกรรมยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดมาหลายปีแล้ว ก่อนหน้านี้เคยก่อเหตุลักษณะแบบนี้มาหลายครั้ง แต่ไม่รุนแรงถึงขนาดนี้ แต่เมื่อคืนวานนายอุดมเกิดคลุ้มคลั่งอย่างหนักได้มาทุบกำแพงและพังหลังคาบ้านของตน และขว้างปาสิ่งของ ทั้งไม้และก้อนหินขึ้นมาบนหลังคาบ้านตนจนได้รับความเสียหาย และยังมีการข่มขู่เพื่อนบ้านว่า หากมีใครแจ้งตำรวจจะฆ่าให้ตายเมื่อช่วงเช้ามืดวันนี้ 03.00 น. นายอุดมได้คลุ้มคลั่งอย่างหนัก ตนและครอบครัวก็ยังไม่กล้าออกมาดู จนรอให้สว่างจึงประสานทางเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ออกมาช่วยนำตัวไป เพราะว่าถ้าเกิดปล่อยไว้อาจจะเกิดอันตรายแก่ครอบครัวของตนและเพื่อนบ้าตนอยากฝากถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจ ให้นำตัวไปบำบัดเพื่อรักษาให้หาย เพราะถ้าปล่อยให้อยู่แบบนี้ เกรงว่าอาจจะก่อเหตุแบบนี้อีก จึงอยากให้นำตัวไปรักษาให้หายขาดเพื่อให้กลับตัวมาเป็นคนดีในสังคมต่อไป


สุเทพ ลอยแก้ว/รายงาน

บรรยากาศงาน “ฟังเพลงพ่อ คลอเสียงน้ำ” ครั้งที่ 3 Rhythm of Life ท่ามกลางนักท่องเที่ยวและผู้สนใจร่วมงานเป็นจำนวนมาก

นครนายก – บรรยากาศงาน “ฟังเพลงพ่อ คลอเสียงน้ำ” ครั้งที่ 3 Rhythm of Life ท่ามกลางนักท่องเที่ยวและผู้สนใจร่วมงานเป็นจำนวนมาก

วันที่ 5 ธันวาคม 2565 ที่เขื่อนขุนด่านปราการชล ตำบลหินตั้ง อำเภอเมือง จังหวัดนครนายก นายบัญชา เชาวรินทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครนายก ร่วมงาน”ฟังเพลงพ่อ คลอเสียงน้ำ” ครั้งที่ 3 Rhythm of Life โดย การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานนครนายก ร่วมกับจังหวัดนครนายก สมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวนครนายก สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวนครนายก สำนักงานพาณิชย์จังหวัดนครนายก เพลินดีนี่ รีสอร์ทและภาคส่วนต่างๆในจังหวัดนครนายกจัดขึ้นเป็นวันที่ 3 ท่ามกลางนักท่องเที่ยวและผู้สนใจร่วมงานเป็นจำนวนมาก โดยมีนางวันดี เผื่อนอุดม ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานนครนายก พร้อมคณะ ให้การต้อนรับและเป็นประธานในพิธีจุดแสงไฟส่องสว่าง เพื่อน้อมรำลึกในหลวง ร.9 ที่ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณต่อปวงชนชาวไทย โดยเฉพาะจังหวัดนครนายก พระองค์ทรงพระราชดำริ การก่อสร้างเขื่อนขุนด่านปราการชล เพื่อกักเก็บน้ำไว้ใช้ในฤดูแล้ง เพื่อช่วยเหลือประชาชนและเกษตรกร ให้มีความเป็นอยู่ที่ดี ภายในงานมีนักท่องเที่ยวและประชาชนร่วมงานและร่วมพิธีเป็นจำนวนมาก

สำหรับวันนี้เป็นวันสุดท้ายของการจัดงาน ได้มีการออกบูทร้านค้ามากมาย มีการเปิดสปิลเวย์ให้ผู้ร่วมงานได้ชื่นชมความสวยงามของสายน้ำที่พวยพุ่งออกมาจากตัวเขื่อน กิจกรรม Workshop กลุ่มปั้นดินและการแสดงดนตรี KU WIND และวง อยากเล่น ท่ามกลางบรรยากาศที่เย็นสบายตามสไตล์ “ฟังเพลงพ่อ คลอเสียงน้ำ” พร้อมของกิน ของฝากมากมาย


เนรมิต มงคลกิตติกานต์
ข่าวจังหวัดนครนายก

กอ.รมน.จ.พิจิตร จัดกิจกรรมจิตอาสา “พัฒนาลำน้ำ คู คลอง” เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล และน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร วันชาติ และวันพ่อแห่งชาติ

เมื่อ 5 ธันวาคม 2565 เวลา 09.30 น. ณ วัดสากเหล็ก ม.1 อ.สากเหล็ก จังหวัดพิจิตร พันเอก กฤษดา ปานทับทิม รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดพิจิตร ฝ่ายทหาร พันตำรวจโท สุเมธ จิตตระกูล รองหัวหน้าฝ่ายนโยบาย และแผน กลุ่มงานนโยบาย แผน และการข่าว กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดพิจิตร พร้อมด้วยกำลังพลกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดพิจิตร และกำลังพลจิตอาสามณฑลทหารบกที่ 36 ร่วมกับ หน่วยงานภาครัฐ, ภาคเอกชน, นักศึกษาวิชาทหาร และประชาชนในพื้นที่ เข้าร่วมกิจกรรมจิตอาสา “พัฒนาลำน้ำ คู คลอง” เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล และน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร วันชาติ และวันพ่อแห่งชาติ โดยมี นายพยนต์ อัศวพิชยนต์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร เป็นประธานฯ


ศูนย์ข่าวภาคเหนือ 

สำนักข่าวความมั่นคง

นที มีเดช รายงาน

ชาวบ้านกว่า 500 ครัวเรือน ที่ได้รับพระราชทานที่ดินทำกิน ร่วมสร้างพระพระบรมรูป และทำพิธีน้อมรำลึกเนื่องในวันคล้ายวันพระราชสมภพ 5 ธ.ค.65

ชาวบ้านกว่า 500 ครัวเรือน ที่ได้รับพระราชทานที่ดินทำกิน ร่วมสร้างพระพระบรมรูป และทำพิธีน้อมรำลึกเนื่องในวันคล้ายวันพระราชสมภพ 5 ธ.ค.65

ช่วงค่ำวันที่ 5 ธันวาคม 2565 นายอนุรักษ์ พรสมบูรณ์ศิริ นายกเทศมนตรีตำบลนายาง นำ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำท้องถิ่น คณะครุ นักเรียน พร้อมด้วย ชาวบ้านที่ได้รับพระทานที่ดินทำกิน ในโครงการพระราชประสงค์ดอนขุนห้วย กว่า 500ครัวเรือน ร่วมใจกันทำพิธีน้อมรำลึก เนื่องในวันคล้ายวันพระราชสมภพ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร วันชาติ และวันพ่อแห่งชาติ 5 ธันวาคม 2565 I ณ พลับำลาที่ประทับ ม.5 ต.ดอนขุนห้วย อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี

โดยชาวบ้านได้ร่วมกันออกทุนทรัพย์ส่วนตัว ร่วมกับเทศบาลตำบลนายาง จำนวน 5แสนบาท ดำเนินการซ้อมแซมพลับพลาที่ประทับที่เป็นเรือนไม้ไผ่หลังคามุงจากที่มีสภาพเก่าทรุดโทรม หลังพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ทรงเสด็จพระราชดำเนินเยี่ยมเยียนราษฎรบ้านดอนขุนห้วย เมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 2517 ชาวบ้านจึงได้ร่วมกันสร้างพลับพลาที่ประทับขึ้นใหม่ตามรูปแบบเดิมเป็นหลังคากระเบื้อง ขนาดกว้าง 4เมตร สูงประมาณ 6เมตร พร้อมทั้งร่วมกันสร้างพระบรมรูป พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ขนาดเท่าพระองค์จริง นำมาประดิษฐาน ณ พลับพลาที่ประทับแห่งนี้เพื่อให้ชาวบ้านในโครงการและลูกหลานได้กราบไหว้ และน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณที่พระองค์ทรงมีต่อพสกนิกรชาวไทยมาโดยตลอด

ด้าน นางมยุรี แดงเจริญ อายุ 65ปี ชาวบ้านที่ได้รับพระราชทานที่ดินทำกิน เปิดเผยว่า หลังจากที่พระองค์ทรงเสด็จพระราชดำเนินเยี่ยมเยียนราษฎรบ้านดอนขุนห้วย ชาวบ้านได้รับความรู้ ด้าน การเกษตร การปลูกสับประสด มะม่วง มะพร้าว ส้มโอ ฝรั่ง พุทรา ได้รับพระราชทานที่ดินทำกินคนละ15ไร่ โดยชาวบ้านได้น้อมนำหลักเศรษฐกิจพอเพียงมาปรับใช้ในชีวิตประจำวัน หลังจากนั้นชีวิตความเป็นอยู่ของชาวบ้านในโครงการดีขึ้นมาก พระองค์ทรงให้ความสุข ความเจริญ มีอยู่มีกินและมั่นคงแก่ชาวบ้าน เพราะบารมีของ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ที่ทรงมีต่อพสกนิกรชาวไทยมาโดยตลอด


จ.เพชรบุรี บรรณรต เจริญกิจสัมพันธ์

วัดสี่แยกเจริญพร จัดอุปสมบทนาคหมู่ 63 รูป ถวายเป็นพระราชกุศลพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศ มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และถวายพระพรชัยมงคลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง และสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ในหลวงรัชกาลที่ 10 เนื่องในวันพ่อแห่งชาติ

ประชาชนกว่าหลายร้อยคนร่วมพิธีอุปสมบทนาคหมู่ 63 รูป ถวายเป็นพระราชกุศลพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศ มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในหลวงรัชกาลที่ 9 และถวายพระพรชัยมงคลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง และพระบาทสมเด็จ พระวชิรเกล้า เจ้าอยู่หัวในหลวงรัชกาลที่ 10

ที่วัดสี่แยกเจริญพร ตำบลหนองกระทุ่ม อำเภอกำแพงแสน จังหวัดนครปฐม โดยพระครูปฐมสาธุวัฒน์ หรือ อ. เทพ เจ้าอาวาสวัดสี่แยกเจริญพร ประธานฝ่ายสงฆ์ ในพิธีอุปสมบทนาคหมู่ เพื่อถวายพระราชกุศลอุทิศถวายพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพล อดุลยเดช บรมนาถบพิตร และถวายพระพรชัยมงคลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถในรัชกาลที่ 9 และสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 10 พร้อมด้วยสมเด็จพระราชินีในสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯในรัชกาลที่ 10 โดยมี กำนันจำเลียง ทองโชติ กำนันตำบลหนองกระทุ่ม เป็นประธานฝ่ายฆารวาสมอบผ้าไตร พร้อมด้วยแพทย์ ผู้ใหญ่บ้าน พ่อค้าแม่ค้า ประชาชนทุกหมู่เหล่าชาวตำบลหนองกระทุ่มและใกล้เคียง พร้อมใจกันมาร่วมพิธีกันเป็นจำนวนมาก และยังมีพ่อค้าแม่ค้าร่วมบุญออกโรงทานเลี้ยงประชาชนที่มาร่วมงานอีกด้วย


ดนตรี อว.บรรเลงเพลงพระราชนิพนธ์พร้อมกันทั่วประเทศ เป็นคืนสุดท้าย

ดนตรี อว.บรรเลงเพลงพระราชนิพนธ์พร้อมกันทั่วประเทศ เป็นคืนสุดท้าย

เมื่อช่วงค่ำวันที่ 5 ธันวาคม 2565 เวลา 18.00 น. ณ สวนหลวงพระราม 8 : ศ.(พิเศษ) ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม เปิดงาน “อว.เทิดพระเกียรติ น้อมรำลึกถึงในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ร้อง บรรเลง เพลงของพ่อ”และมอบช่อดอกไม้เพื่อเป็นการแสดงความขอบคุณให้กับวงดนตรี ซึ่งเป็นการแสดงของวง CU Band จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย วงดนตรีไทย จากสถาบันเทคโนโลยีจิตรลดา และวง PGVIM Wind Camerata จากสถาบันดนตรีกัลยาณิวัฒนา โดยมี รศ.ดร.พาสิทธิ์ หล่อธีรพงศ์ รองปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ดร.ลัทธจิตร มีรักษ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง ผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ และคณะผู้บริหาร อว. ให้การต้อนรับ

ศ.(พิเศษ) ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม กล่าวว่า “อว.เทิดพระเกียรติ น้อมรำลึกถึงในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ร้อง บรรเลง เพลงของพ่อ” พร้อมกัน 72 จังหวัดทั่วประเทศ โดยมีวงดนตรีมากกว่า 100 วงจากมหาวิทยาลัยต่างๆ ในสังกัด อว. บรรเลงเพลงพระราชนิพนธ์ทั้งในรูปแบบวงซิมโฟนี ออร์เคสตร้า วงดนตรีสากล วงดนตรีไทยและวงดนตรีพื้นบ้าน ฯลฯ เพื่อแสดงออกถึงความจงรักภักดีและน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณเนื่องในวันคล้ายวันพระราชสมภพพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ที่ทรงเป็นอัครศิลปิน ทั้งนี้ ศ.(พิเศษ) ดร.เอนก กล่าวว่า การรำลึกถึงในหลวงรัชกาลที่ 9 ไม่มีอะไรที่จะยิ่งใหญ่ไปกว่าการได้สืบสานผลงานที่พระองค์ทรงได้สร้างไว้ อว. ทำหน้าที่สืบสานสืบทอดศิลปะ ตนสมัยที่ยังเรียนหนังสืออยู่ที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยยังทันเห็นพระองค์มาทรงดนตรีและทรงขับร้องบทเพลง ซึ่งวันนั้นเป็นวันที่ทุกคนมีความสุขมาก ทรงส่งเสริมทั้งดนตรีไทยและสากล และมีพระมหากรุณาธิคุณแก่ศิลปินดนตรีอย่างถ้วนหน้า ด้วยทรงเข้าพระราชหฤทัยอย่างลึกซึ้งและถ่องแท้ในศาสตร์แห่งศิลปะการดนตรี และนี่คือซอฟท์พาวเวอร์ของประเทศไทยที่อวดสายตาชาวโลกได้

ทางด้านสวนวชิรเบญจทัศ (สวนรถไฟ) ดร.ดนุช ตันเทิดทิตย์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม รับชมการแสดงดนตรีและมอบช่อดอกไม้เพื่อเป็นการแสดงความขอบคุณให้กับวงดนตรี โดยในวันนี้เป็นการแสดงของวงดนตรีร่วมสมัย วงถั่วงอกสีทอง จากวิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล และวงดุริยางค์เครื่องลมแห่งมหาวิทยาลัยศิลปากร จากคณะดุริยางคศาสตร์มหาวิทยาลัยศิลปากร โดย ดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง ผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ และนายสมปรารถนา สุขทวี รองผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ ร่วมรับชมการแสดงครั้งนี้ด้วย

ขณะที่สวนเบญจกิติ ผศ.ดร.รวิน ระวิวงศ์ ผู้อำนวยการองค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ ร่วมรับชมการแสดงดนตรีและมอบช่อดอกไม้เพื่อเป็นการแสดงความขอบคุณให้กับวง KBU BAND จากมหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต และวง RMUTR BAND จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์ โดย ดร.ชนินทร วรรณวิจิตร รองผู้อำนวยการองค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ และนายธีรวัฒน์ บุญสม ผู้อำนวยการกองส่งเสริมและสนับสนุนการวิจัยและนวัตกรรม วช. รับชมการแสดงครั้งนี้ด้วย

โดยทั้ง 3 สวนในค่ำคืนนี้ มีประชาชนทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ร่วมรับฟังบทเพลงบรรเลงเพลงอันไพเราะเป็นจำนวนมาก ท่ามกลางบรรยากาศเย็นสบาย ไม่ว่าจะเป็นเพลง แสงเดือน รัก ยามเย็น ไกลกังวล ความฝันอันสูงสุด แสงเทียน แผ่นดินของเรา ฯลฯ

สำหรับงานดนตรี อว. เทิดพระเกียรติ 5 ธันวาคม 2565 “ดนตรีในสวน : H.M.Song อว. บรรเลงเพลงของพ่อ” จัดขึ้นเนื่องในวันชาติ วันพ่อแห่งชาติ ประจำปี 2565 ซึ่งแสดงให้เห็นถึงพระอัจฉริยภาพด้านการดนตรี ดนตรีเป็นส่วนหนึ่งของพระองค์ท่านดังพระราชดำรัสความตอนหนึ่งว่า “ดนตรีเป็นส่วนหนึ่งของข้าพเจ้า จะเป็นแจ๊สหรือไม่ใช่แจ๊ส ก็ตาม ดนตรีล้วนอยู่ในตัวทุกคน เป็นส่วนที่ยิ่งใหญ่ในชีวิตคนเรา สำหรับข้าพเจ้า ดนตรีคือสิ่งประณีตงดงามและทุกคนควรนิยมในคุณค่าของดนตรีทุกประเภท เพราะว่าดนตรีแต่ละประเภทต่างก็มีความเหมาะสมตามแต่โอกาสและอารมณ์ที่ต่างกันออกไป” เพื่อเทิดพระเกียรติและน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร

สุรเชษฐ ศิลานนท์ รายงาน