กรมทหารพรานที่ 21 ขอเชิญชวนบริจาคดวงตาและอวัยวะร่างกายให้กับสภากาชาดไทย ด้วยตนเองและระบบออนไลน์

กรมทหารพรานที่ 21 ขอเชิญชวนบริจาคดวงตาและอวัยวะร่างกายให้กับสภา กาชาดไทย ด้วยตนเองและระบบออนไลน์

กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี โดย กรมทหารพรานที่ 21 ขอเชิญชวนประชาชนร่วมบริจาคดวงตาและอวัยวะร่างกายให้กับศูนย์ดวงตาสภากาชาดไทย ใกล้บ้านได้ทุกจังหวัด โดยศูนย์ดวงตาสภากาชาดไทย มีหน้าที่จัดเก็บและรวบรวมดวงตา จากผู้บริจาคที่เสียชีวิตแล้วด้วยเทคนิคมาตรฐานสากล เพื่อมอบให้จักษุแพทย์นำไปใช้รักษาผู้ป่วยอย่างเท่าเทียมและยุติธรรม ตลอดจนส่งเสริม การให้บริการทางการแพทย์ เพื่อรับบริจาคดวงตาจากผู้มีกุศลจิต และมอบดวงตาและอวัยวะร่างกายที่ผู้บริจาคถึงแก่กรรมแล้วให้จักษุแพทย์ เพื่อนำไปใช้รักษาผู้ป่วยกระจกตาพิการ เนื่องจากในประเทศไทยมีคนตาบอด จำนวนมากที่มีสาเหตุจากโรคของกระจกตา ซึ่งศัพท์ทางการแพทย์เรียกว่า Cornea อันอาจรักษาให้หายหรือทุเลาลงได้โดยการผ่าตัดที่เรียกว่า การผ่าตัดเปลี่ยนกระจกตา หรือ Corneal Transplantation (Keratoplasty) และเป็นศูนย์กลางการประสานงานช่วยเหลือให้ผู้ป่วยกระจกตาพิการได้รับการรักษาโดยจักษุแพทย์

โดยสามารถยื่นความประสงค์บริจาคดวงตาและอวัยวะร่างกาย กับสภากาชาดไทย ใกล้บ้านได้ทุกจังหวัด เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ศูนย์ดวงตาสภากาชาดไทย ขอเชิญชวนผู้มีจิตศรัทธาบริจาคดวงตา ผ่านทางช่องทางออนไลน์ ที่เว็บไซต์ https://eyebankthai.redcross.or.th โดยศูนย์ดวงตาสภากาชาดไทย จะทำการจัดส่งบัตรประจำตัวผู้แสดงความจำนงบริจาคดวงตาและอวัยวะร่างกาย ไปให้ตามที่อยู่ที่ท่านให้ไว้ในระบบ


ภาพ/ข่าว : ฉก.ทพ.21

ชาวบ้านสามจังหวัด บุกศาลากลางขอความเป็นธรรมเอกสารสิทธิ์

ลพบุรี – ชาวบ้านและผู้นำท้องถิ่นในพื้นที่รอยต่อ 3 จังหวัดรวมตัวกันที่หน้าศาลากลางจังหวัดลพบุรี เพื่อติดตามความคืบหน้าขอความเป็นธรรมในการออกเอกสารสิทธิ์ในพที่ทำกินเพราะไม่มีความคืบหน้า

วันที่ 6 ธ.ค. 2565 นายพงษ์ณริณ ใจหาญ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลหนองมะค่า อำเภอโคกเจริญ นายรุ่งศักดิ์ อรรถศิริปัญญา สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดลพบุรี เขต อำเภอโคกเจริญ ได้นำประชาชนในพื้นที่ อำเภอโคกเจริญ จังหวัดลพบุรี ขณะที่แกนนำชุมชนในพื้นที่ อำเภอไพศาลี จังหวัดนครสวรรค์ และ อำเภอวิเชียรบุรี จังหวัดเพชรบูรณ์ ที่มีพื้นที่ติดต่อกันประมาณ 500 คนพร้อมป้ายเรียกร้อง ซึ่งได้เดินทางมายังบริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดลพบุรี ขอพบกับ นายอำพล อังคภากรณ์กุล ผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี เพื่อยื่นหนังสือเรียกร้องติดตามในเรื่องการออกเอกสารสิทธิ์ที่ทำกินที่ดำเนินกันมาเกือบสิบปี โดยมีข้อเรียกร้องจำนวน 4 ข้อคือ 1.ติดตามความคืบหน้าของการเอกสารสิทธิ์ของทาง สปก., 2.การกำหนดแนวเขตปกครอง, 3.การประกาศเขตป่าสงวนแห่งชาติสองข้างทางสายชัยวิบูลย์, และ 4.การออกเอกสารสิทธิ์

ทั้งนี้ทางผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรีได้ติดราชการมอบหมายให้ นายสุทัศน์ นันโท จ่าจังหวัดลพบุรี ประสานงานกับแกนนำ ประชาชนที่เดินทางมา พร้อมกับขอให้ผู้ที่เดินทางมาได้ตั้งตัวแทนมาจำนวน 30 คน เข้าร่วมประชุมชี้แจง ณ ห้องประชุมกองร้อยบังคับการและบริการกองบังคับการกองอาสารักษาดินแดนจังหวัดลพบุรี โดยมี นายสุทัศน์ นันโท จ่าจังหวัดลพบุรี เป็นประธาน พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่จากสำนักงานปฏิรูปที่ดินจังหวัดลพบุรี เจ้าหน้าที่จากสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดลพบุรี เจ้าหน้าที่สำนักงานที่ดินจังหวัดลพบุรี โดยใช้เวลาในการประชุมนานกว่า 2 ชั่วโมงได้ข้อสรุปว่าการดำเนินการออกเอกสารสิทธิ์นั้นจะเร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จตามมติ ครม.ต้องใช้ระยะเวลาประมาณ 1 ปีครึ่ง ซึ่งก็เป็นไปตามระเบียบที่กำหนด ทำให้ประชาชนพอใจและได้ยื่นหนังสือผ่านไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ช่วยในการดำเนินการเร่งรัด จากนั้นได้แยกย้ายกันเดินทางกลับด้วยความสงบเรียบร้อย


กฤษณ์ สนใจ ลพบุรี 0890899090

น้องๆ ทหารใหม่ พร้อมใจถวายโลหิต ช่วยชีวิตชาวประชา ถวายเป็นพระราชกุศล

น้องๆทหารใหม่ พร้อมใจถวายโลหิต ช่วยชีวิตชาวประชา ถวายเป็นพระราชกุศล

กองพลทหารม้าที่ 1 โดยกองพันทหารปืนใหญ่ที่ 20 กรมทหารปืนใหญ่ที่ 21 จัดกำลังพลหน่วยฝึกทหารใหม่ ผลัดที่ 2/65 บริจาคโลหิตให้กับโรงพยาบาลอุตรดิตถ์ เนื่องในวันคล้ายวันพระราชสมภพพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร 5 ธันวาคม 2565 เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลและน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ และเพื่อเป็นโลหิตสำรองให้กับประชาชนและไว้ช่วยเหลือผู้ป่วยในโรงพยาบาล ในกรณีผู้ป่วยฉุกเฉิน ณ โรงพยาบาลอุตรดิตถ์ อำเภอเมือง จังหวัดอุตรดิตถ์ สามารถบริจาคโลหิตได้ จำนวน 9,000 ซีซี


นาคา คะเลิศรัมย์/รายงาน

สภ.ท่าศาลา ปฎิบัติงานกิจกรรมจิตอาสาช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน เนื่องจากวิกฤตฝนตกหนัก

วันนี้ 6 ธันวาคม 2565 เวลา 10.00-12.00 น. ภายใต้อำนวยการของ นายอภินันท์ เผือกผ่อง ผวจ.นศ., พล.ต.ต.สมชาย ซื่อต่อตระกูล ผบก.ภ.จว.นศ. ได้มอบหมายให้ พ.ต.อ.โชคดี ศรีเมือง ผกก.สภ.ท่าศาลา, พ.ต.ท.นรากร เอียดช่วย รอง ผกก.ป.ฯ, พ.ต.ต.ยิ้มเอก หมิดสะแหล้ สวป.ฯ พร้อม ร้อยเวร20/เจ้าหน้าที่จราจร/ชุด ชมส.ฯ รายงานผลการปฎิบัติงานประเภทกิจกรรม จิตอาสาช่วยเหลือประชาชน เนื่องจากวิกฤตฝนตกหนักประชาชนได้รับความเดือดร้อน ดังนี้

  • ออกตรวจสังเกตการณ์สถานการณ์ภาวะน้ำท่วม ตามเส้นทางสายหลัก -สายรอง ขณะนี้สภาวะน้ำ เข้าสู่ภาวะปกติ
  • ร่วมกับคณะของ ผวจ.นศ.พบปะประชาชน แจกจ่ายเครื่องอุปโภค -บริโภคถุงยังชีพ ให้แก่ประชาชนผู้ประสบภัยน้ำท่วม จำนวนหนึ่ง ณ รร.วัดทางขึ้น ม.1 ต.ท่าศาลา อ.ท่า ศาลา จว.นครศรีธรรมราช
  • จัดชุด ชมส./ชุดรักษาความปลอดภัย รักษาทรัพย์สินของประชาชนและช่วยเหลือประชาชนเป็นการเฉพาะ(ชั่วคราว) ร่วมทั้งจัดเจ้าหน้าที่จราจรอำนวยความสะดวกบนเส้นทางสายหลัก ทำสัญลักษณ์บอกใช้ความระมัดระวัง-และเปิดสัญญาณไฟวาบวาปเพื่อป้องกันอุบัติเหตุ

ซึ่งเหตุการณ์เป็นไปด้วยความปกติ


ธีรศักดิ์ อักษรกูล /นครศรีธรรมราช

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวโปรดเกล้าฯ พระราชทานสิ่งของ เครื่องอุปโภคบริโภคและเวชภัณฑ์ทางการแพทย์ แก่สถานสงเคราะห์ 3 แห่ง เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันประสูติ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดีกรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา วันที่ 7 ธันวาคม 2565

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ทรงห่วงใยและทรงให้ความสำคัญกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด 19 (COVID-19) ที่เกิดขึ้นในประเทศไทย และยังคงส่งผลกระทบต่อเจ้าหน้าที่ และผู้อยู่ในความดูแลของสถานสงเคราะห์ต่าง ๆ อีกทั้งทรงตระหนักถึงความสำคัญของสุขอนามัยที่ดี รวมถึงสุขอนามัยพื้นฐานและการโภชนาการของประชาชนทุกหมู่เหล่า ทั้งเด็ก เยาวชน ผู้สูงอายุ ผู้เจ็บป่วย ผู้พิการ และผู้ด้อยโอกาส ในสังคม ในโอกาสนี้ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานสิ่งของ เครื่องอุปโภคบริโภคและเวชภัณฑ์ทางการแพทย์ แก่สถานสงเคราะห์ต่าง ๆ เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันประสูติสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา วันที่ 7 ธันวาคม 2565

วันนี้ (6 ธันวาคม 2565) เวลา 09.45 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ หน่วยราชการในพระองค์ เชิญสิ่งของเครื่องอุปโภคบริโภค และเวชภัณฑ์ทางการแพทย์พระราชทาน ไปมอบแก่สถานสงเคราะห์ต่าง ๆ จำนวน 3 แห่ง ดังนี้

  • ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ หม่อมหลวงอรจิตรา สนิทวงศ์ เป็นประธานเชิญสิ่งของ เครื่องอุปโภคบริโภค และเวชภัณฑ์ทางการแพทย์พระราชทาน ไปมอบแก่ผู้สูงอายุ และเจ้าหน้าที่จำนวน 305 คน ณ ศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุบ้านบางแค แขวงบางหว้า เขตภาษีเจริญ กรุงเทพมหานคร
  • ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ นายธรณ์พัฒน์ จินานุรักษ์ เป็นประธานเชิญสิ่งของเครื่องอุปโภคบริโภคพระราชทาน ไปมอบแก่เด็กกับเยาวชน และเจ้าหน้าที่ จำนวน 53 คน ณ มูลนิธิบ้านนกขมิ้น แขวงคลองกุ่ม เขตบึงกุ่ม กรุงเทพ มหานคร
  • และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ พันตำรวจเอก อนุวัต พิชาดุลย์ เป็นประธานเชิญสิ่งของและเครื่องอุปโภคบริโภคพระราชทาน ไปมอบแก่เด็ก และเจ้าหน้าที่ จำนวน 240 คน ณ สถานสงเคราะห์ เด็กอ่อนรังสิต ตำบลรังสิต อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี

ทั้งนี้ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานสิ่งของ เครื่องอุปโภคบริโภค และเวชภัณฑ์ทางการแพทย์แก่สถานสงเคราะห์ต่าง ๆ เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา วันคล้ายวันประสูติ และวันสำคัญต่าง ๆ มาโดยตลอด นับตั้งแต่เกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โรคโควิด 19
(COVID – 19) ในประเทศไทย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินีทรงห่วงใย และทรงตระหนักถึงความเดือดร้อนที่ราษฎรได้รับผลกระทบ อีกทั้งทรงติดตามสถานการณ์และการดำเนินมาตรการต่าง ๆ จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้เชิญสิ่งของ เครื่องอุปโภคบริโภคและเวชภัณฑ์ทางการแพทย์พระราชทาน ไปมอบแก่สถานสงเคราะห์ต่าง ๆ รวม 3 แห่ง เนื่องในโอกาส วันคล้ายวันประสูติ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา วันที่ 7 ธันวาคม 2565 และด้วยพระราชหฤทัยมุ่งมั่นที่จะทรงสืบสาน รักษา และต่อยอดพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตรและสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เพื่อบำบัดทุกข์ และแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของราษฎร รวมถึงเด็ก เยาวชน ผู้พิการ และผู้สูงอายุ ในสถานสงเคราะห์ต่าง ๆให้มีโภชนาการที่ดี สุขภาพอนามัยที่สมบูรณ์แข็งแรง และมีเวชภัณฑ์ทางการแพทย์เพื่อใช้ในการดูแลรักษาและป้องกันตนเอง ส่งผลให้ทุกคนมีสุขภาพกายและสุขภาพใจที่ดี สามารถดำรงชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข และมีคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืนต่อไป


วช. หนุนนวัตกรรมการถ่ายทอดเทคโนโลยีสร้างมูลค่าเพิ่มผลิตผลทางการเกษตรสินค้าชุมชนจากผลิตภัณฑ์เคลอินทรีย์

วช. หนุนนวัตกรรมการถ่ายทอดเทคโนโลยีสร้างมูลค่าเพิ่มผลิตผลทางการเกษตรสินค้าชุมชนจากผลิตภัณฑ์เคลอินทรีย์

สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ให้การสนับสนุนทีมวิจัยจากคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ในการคิดค้นนวัตกรรมการถ่ายทอดเทคโนโลยีสร้างมูลค่าเพิ่มผลิตผลทางการเกษตร ผลิตภัณฑ์จากเคลอินทรีย์เพื่อสร้างอัตลักษณ์สินค้าชุมชน เพิ่มช่องทางการตลาดและเพิ่มรายได้ชุมชน โดยมีการนำองค์ความรู้ถ่ายทอดสู่เกษตรกรในชุมชนผ่านศูนย์การเรียนรู้ในกลุ่มเกษตรกรเกษตรอินทรีย์ ตั้งแต่กระบวนการปลูกพืช การดูแลรักษา การเก็บเกี่ยว การแปรรูป เพื่อสร้างเป็นผลิตภัณฑ์ชุมชนสอดคล้องกับความต้องของตลาดตามเทรนด์อาหารสุขภาพจากพืชธรรมชาติที่มีคุณค่าทางโภชนาการ

ดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง ผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) กล่าวว่า (วช.) เป็นกลไกสำคัญของรัฐในการขับเคลื่อนให้การสนับสนุนงานวิจัย สิ่งประดิษฐ์คิดค้นหรือนวัตกรรมต่างๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชน และสามารถถ่ายทอดเป็นองค์ความรู้สู่ชุมชน รวมถึงการส่งเสริมพัฒนาคุณภาพชีวิตและสิ่งแวดล้อม ทุกวันนี้มีนวัตกรรมที่เกี่ยวกับอาหารสุขภาพเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันในร่างกาย เช่น เคล ซึ่งเป็นซุปเปอร์ฟู้ดที่มีคุณค่าทางอาหารสูง มีการนำองค์ความรู้มาพัฒนาแปรรูปให้สามารถบริโภคได้ง่ายขึ้น โดยทีมวิจัยจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้สร้างกระบวนการแปรรูปผงเคลอินทรีย์ของกลุ่มเกษตรกร เพื่อสร้างแบรนด์และมูลค่าเพิ่มทางการตลาดให้กับสินค้าชุมชนตามมาตรฐานของ อย. Organic Thailand และ USDA

รศ.ดร.ดุสิต อธินุวัฒน์ จากคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เปิดเผยว่า เกษตรอินทรีย์ Organic Agriculture เป็นระบบการเกษตรที่เป็นกลไกสำคัญในการคงไว้ซึ่งความอุดมสมบูรณ์และการมีสุขภาพที่ดีของดิน ระบบนิเวศ และมนุษย์ สร้างความหลากหลายทางชีวภาพ ตลอดจนส่งเสริมคุณภาพชีวิตของเกษตรกรรายย่อยในทุกมิติ จุดนี้เองได้มีการนำมาใช้กับผักสีเขียวที่มีคุณค่าทางสารอาหารสูงอย่างเคลอินทรีย์ ที่อุดมไปด้วยวิตามินและสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกาย ทั้งโปรตีน แคลเซียม เหล็ก โพแทสเซียม แมงกานีส และสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยป้องกันโรคมะเร็ง กระดูกพรุน บำรุงลือด ช่วยให้ผิวพรรณเปล่งปลั่ง และกำจัดสารพิษที่สะสมออกจากร่างกาย สามารถนำใบมาบริโภคสดและปรุงเป็นอาหาร จากสรรพคุณของเคลที่ว่ามานี้ ทำให้ทีมวิจัยได้พัฒนาต่อยอดสร้างมูลค่าเพิ่มเคลอินทรีย์ให้สูงขึ้นอีก โดยการนำไปแปรรูปด้วยกระบวนการทำให้แห้งแล้วนำมาบดให้ละเอียดนำใส่บรรจุภัณฑ์ที่ทันสมัยสอดคล้องกับความต้องการของตลาดเพื่อเป็นทางเลือกให้กับผู้บริโภคเนื่องจากสามารถนำมาชงดื่มเป็นชา ชงดื่มกับน้ำผลไม้ ใส่ในสลัด หรือใส่ในอาหารสูตรต่างๆ

นอกจากนี้ยังได้มีการขยายผลต่อยอดองค์ความรู้สร้างเป็นนวัตกรรมชุมชน เช่น กลุ่มเกษตรกรอินทรีย์จังหวัดนครนายก ศูนย์การเรียนรู้ ชลพฤกษ์ฟาร์มสุข ตำบลบ้านพร้าว อำเภอบ้านนา จังหวัดนครนายก เพื่อการเชื่อมโยงช่องทางการตลาด ได้แก่ ตลาดสีเขียว ขายตรงหน้าฟาร์ม และขายตรงให้แก่ครัวโรงแรม ขณะเดียวกันการพัฒนาการปลูกเคลอินทรีย์สามารถสร้างรายได้กิโลกรัมละ 350-450 (เคลทั่วไปราคากิโลกรัมละ 200–250 บาท) ซึ่งคิดเป็นมูลค่าเพิ่มอย่างน้อยร้อยละ 75 อีกทั้งกระบวนการผลิตเคลอินทรีย์ ยังช่วยลดต้นทุนการผลิตได้อีกด้วย


สุรเชษฐ ศิลานนท์ รายงาน

ชมรม Dj Mc แห่งประเทศไทย ร่วมกับ Sound21 จัดกิจกรรม “เตะเพื่อน้อง” เพื่อหาทุนการศึกษา มอบให้เด็กๆ ชาวเขาที่ขาดแคลน ที่ศูนย์การเรียนชุมชนชาวไทยภูเขา “แม่ฟ้าหลวง”

ชมรม Dj Mc แห่งประเทศไทย ร่วมกับ Sound21 จัดกิจกรรม “เตะเพื่อน้อง” เพื่อหารายได้ เป็นทุนการศึกษา มอบให้เด็กๆ ชาวเขาที่ขาดแคน ที่ศูนย์การเรียนชุมชนชาวไทยภูเขา “แม่ฟ้าหลวง” บ้านเลอะกรา หมู่ที่ 15 ตำบลแม่ตื่น อำเภออมก๋อย จังหวัดเชียงใหม่

วันอาทิตย์ที่ 4 ธันวาคม เวลา 11.00 น. ดร. อาณัติ วัชรางกุร ณ. เขียงใหม่ เลขานุการกรรมาธิการการกีฬา สภาผู้แทนราษฎร ได้ให้เกียรติมาเป็นประธานในพิธีเปิดงาน และมอบถ้วยอันทรงเกียรติ ฟุตบอลการกุศล 11 คน “เตะเพื่อน้อง” Dj Charity 8th Dj Mc สายบุญ
ณ สนามการกีฬาแห่งประเทศไทย กกท 1 โดยมี ดาราศิลปินนักร้อง เต้ย ไมค์ทองคำ ป้อง ภักดิ์ภูมิ มาร่วมเตะฟุตบอลในงานนี้ด้วย

ซึ่งได้จัดงานกิจกรรมดีๆ แบบนี้ขึ้นมาให้น้องๆ เด็กๆ ชาวเขาขาดแคลนทุกปี ปีนี้เป็นปีที่ 8 จัดขึ้นโดย ชมรม Dj Mc แห่งประเทศไทย ร่วมกับ Sound21 เพื่อหารายได้ เป็นทุนการศึกษา มอบให้เด็กๆ ชาวเขาที่ขาดแคน ที่ศูนย์การเรียนชุมชนชาวไทยภูเขา “แม่ฟ้าหลวง” บ้านเลอะกรา หมู่ที่ 15 ตำบลแม่ตื่น อำเภออมก๋อย จังหวัดเชียงใหม่


James 007
สำนักข่าวความมั่นคง

ร่วมพิธีทำบุญตักบาตรถวายพระราชกุศลเนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร

ร่วมพิธีทำบุญตักบาตรถวายพระราชกุศลเนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร

วันนี้ ๕ ธันวาคม ๒๕๖๕ พุทธบริษัทวัดมุจลินทวาปีวิหาร ร่วมพิธีทำบุญตักบาตรถวายพระราชกุศลเนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร วันชาติ และวันพ่อแห่งชาติ  ณ วัดมุจลินทวาปีวิหาร ต.ตุยง อ.หนองจิก จ.ปัตตานี ขออนุโมทนาบุญกุศลกับทุกๆท่าน


ครรชิต ขวัญวิเชียร/ผู้สื่อข่าว

กิจกรรมเนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร วันชาติ และวันพ่อแห่งชาติ 5 ธันวาคม 2565

กิจกรรมเนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร วันชาติ และวันพ่อแห่งชาติ 5 ธันวาคม 2565

วันที่ 5 ธันวาคม 2565 เวลา 07.30 น. นายเอกรัฐ ชูหวาน ป้องกันจังหวัดปัตตานี พร้อมด้วยนายพรเทพ กุลเสวตต์ ผู้ช่วยป้องกันจังหวัดปัตตานี, นางสาวธัญญวรรณ สุวรรณคีรี ผู้ช่วยป้องกันจังหวัดปัตตานี ร่วมพิธีทำบุญตักบาตรถวายพระราชกุศล วันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร วันชาติ และวันพ่อแห่งชาติ 5 ธันวาคม 2565 โดยมีนางพาตีเมาะ สะดียามู ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วย ว่าที่ร้อยตรี ตระกูล โทธรรม รองผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี นายณัฐกฤช สิทธิโอสถ รองผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี นายไชยพร นิยมแก้ว ปลัดจังหวัดปัตตานี ข้าราชการ ทหาร ตำรวจ และพสกนิกรชาวจังหวัดปัตตานี
ณ วัดตานีนรสโมสร พระอารามหลวง อำเภอเมืองปัตตานี


จิตอาสา รวมพลังประชา บูรณาการศาสนสถาน ถวายเป็นพระราชกุศล

จิตอาสา รวมพลังประชา บูรณาการศาสนสถาน ถวายเป็นพระราชกุศล

กองพลทหารม้าที่ 1 โดยกองพันทหารปืนใหญ่ที่ 20 กรมทหารปืนใหญ่ที่ 21 จัดชุดปฏิบัติการกิจการพลเรือน กองพันทหารปืนใหญ่ที่ 20 กรมทหารปืนใหญ่ที่ 21 พร้อม​กำลังพล​จิตอาสา​พระราชทานของหน่วย ร่วมกับ ผู้นำหมู่บ้าน,ผู้นำชุมชน และประชาชนจิตอาสาในพื้นที่ ตำบลไผ่ล้อม อำเภอลับแล จังหวัดอุตรดิตถ์ ร่วมกิจกรรมจิตอาสาพัฒนา ปรับปรุงภูมิทัศน์ ทำความสะอาดคลองแม่พร่อง ระยะทางยาวประมาณ 500 เมตร พร้อมทั้งกิจกรรมโครงการแซนด์วิชปลา แหล่งอาหารของสัตว์น้ำ ณ บริเวณวัดโพธิ์ทอง ตำบลไผ่ล้อม อำเภอลับแล จังหวัดอุตรดิตถ์ เพื่อถวายพระราชกุศล และน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร วันชาติและวันพ่อแห่งชาติ 5 ธันวาคม 2565 โดยมีผู้เข้าร่วมกิจกรรม ประมาณ 100 คน


นาคา คะเลิศรัมย์/รายงาน