สุโขทัย-จัดประเพณีแข่งขันเรือพาย ครั้งที่ 19 ณ.ลำคลองบ้านหลุม หน้าวัดศรีมหาโพธิ์

         วันอาทิตย์ที่ 22 กันยายน 2562 ส.ส.พรรณสิริ กุลนาถศิริ สมาชิกสภาผู้แทนราษฏร สุโขทัย เป็นประธานเปิดประเพณีการแข่งขันเรือพาย ครั้งที่ 19 ประจำปี 62 ณ.ลำคลองบ้านหลุม หน้าวัดศรีมหาโพธิ์ ต.บ้านหลุม อ.เมือง จ.สุโขทัย โดยมีนายแฉล้ม อภัยจิตร นายกองค์ การบริหารส่วนตำบลบ้านหลุม พร้อมด้วยกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน สภาวัฒนธรรม ประชาชนชาวตำบลบ้านหลุม ให้การต้อนรับและร่วมงาน

         ประเพณีการแข่งขันเรือพาย ต.บ้านหลุม จัดขึ้นเพื่อเป็นการอนุรักษ์สืบสารวัฒนธรรมประเพณีอันดีงามของท้องถิ่นและส่งเสริมการท่องเที่ยวในเชิงอนุรักษ์ประเพณีท้องถิ่นของตำบลบ้านหลุม ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของเด็กๆเยาวชนและประชาชนในตำบลบ้านหลุม ปลูกฝังความมีระเบียบวินัยความมีน้ำใจเป็นนักกีฬา รู้แพ้รู้ชนะรู้อภัยและความสามัคคีในหมู่คณะ

          โดยการจัดเรือพายแบ่งออกเป็น 2 ประเภทคือ ประเภทเรือพายชายทั่วไป 7 ฝีพายชายประเภท ก และ ข ประเภทเรือพายอายุ 50 ปีขึ้นไป 7 ฝีพายประเภท ก และ ข ในการจัดงานครั้งนี้มีทีมเข้าร่วมการแข่งขันทั้งหมด 20 ทีม ได้รับการสนับสนุนและความร่วมมือจากผู้นำท้องถิ่นในตำบลบ้านหลุม ร่วมทั้งพี่น้องประชาชนสนับสนุนประเพณีประจำตำบลมาโดยตลอด

นายพงศ์เทพ สาคร รายงานจากจังหวัดสุโขทัย

สถานการณ์ PM 2.5 ในพื้นที่ภาคใต้ วันที่ 21 กันยายน 2562

         เช้านี้ สถานการณ์ PM2.5 ในพื้นที่ภาคใต้ วันที่ 21 กันยายน 2562 เวลา 06.00 น. สถานการณ์ PM2.5 จังหวัดสงขลาและจังหวัดยะลา ระดับฝุ่น PM 2.5 ยังอยู่ในระดับที่เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ

          ขอให้ประชาชน ติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง และสังเกตุอาการ หากมีอาการผิดปกติ ให้รีบไปพบแพทย์

“DSI เตือนภัยการลงทุนที่อ้างว่าได้ผลตอบแทนสูง”

         กรมสอบสวนคดีพิเศษได้รับข้อมูลว่าพบบริษัทแห่งหนึ่งมีการแสดงเอกสารการจดทะเบียนนิติบุคคล เป็นบริษัทมหาชนซึ่งมีทุนจดทะเบียนสูงกว่า300 ล้านบาทเชิญชวนประชา ชนทั่วไปให้สมัครแพ็คเกจลงทุนกับบริษัท ซึ่งอ้างว่าให้ผลตอบแทนสูงเพื่อรับเงินปันผลสูง สุดกว่า 4 ล้านบาท ซึ่งเงินปันผลดังกล่าวเรียกว่าเงินปันผล ROI. คือการแบ่งผลประโยชน์จากการร่วมกันลงทุน โดยจะจ่ายเงินปันผล ROI. ให้สมาชิกทุกวันศุกร์จำนวน 95 งวด ซึ่งหลังจากครบ 95 งวด จะมอบหุ้นให้ถือครองตามแพ็คเกจที่จองไว้และสามารถเลือกที่จะรับปันผลต่อไปหรือขายหุ้นก็ได้ตามความสมัครใจของ

         ผู้ลงทุนโดยการลงทุนแพ็คเกจต่างๆ มีตั้งแต่แพ็คเกจลงทุน1,000 บาทจนถึง1 ล้านบาท เช่น แพ็คเกจลงทุน1,000 บาท รับปันผลสัปดาห์ละ50 บาททุกสัปดาห์ จำนวน 95 ครั้งรวมรับเงินปันผลสูงสุด 4,750 บาท และรับหุ้นสามัญบริษัท10 หุ้น, แพ็คเกจลงทุน 1 ล้านบาท รับปันผลสัปดาห์ละ 50,000 บาททุกสัปดาห์ จำนวน 95 ครั้ง รวมรับเงินปันผลสูงสุด 4,750,000 บาท และรับหุ้นสามัญบริษัท10,000 หุ้น เป็นต้น นอกจากนี้ยังสร้างความเชื่อมั่นกับสมาชิกว่าเงินปันผล ROI. ซึ่งจ่ายให้กับสมาชิกรายสัปดาห์ในทุกวันศุกร์ ไม่ใช่ดอกเบี้ยจึงไม่ถือว่าเป็นการจ่ายดอกเบี้ยเกินกฎหมายกำหนด

         กรมสอบสวนคดีพิเศษขอแจ้งเตือนว่าตามมาตรา3 ในพระราชกำหนดการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชนพ.ศ. 2527 กำหนดว่า “กู้ยืมเงิน” หมายความว่า รับเงินทรัพย์สินหรือผลประโยชน์อื่นใดไม่ว่าในลักษณะของการรับฝาก การกู้การยืม การจำหน่ายบัตรหรือสิ่งอื่นใด การรับเข้าเป็นสมาชิก การรับเข้าร่วมลงทุน การรับเข้าร่วมกระทำการอย่างใดอย่างหนึ่ง หรือในลักษณะอื่นใด โดยผู้กู้ยืมเงินหรือบุคคลอื่น จ่ายผลประโยชน์ตอบแทนหรือตกลงว่าจะจ่ายผลประโยชน์ตอบแทนแก่ผู้ให้กู้ยืมเงิน  ทั้งนี้ไม่ว่าจะเป็นการรับเพื่อตนเองหรือรับในฐานะตัวแทน หรือลูกจ้างของผู้กู้ยืมเงิน หรือของผู้ให้กู้ยืมเงิน หรือในฐานะอื่นใด และไม่ว่าการรับหรือจ่ายเงินทรัพย์สินผลประโยชน์อื่นใด หรือผลประโยชน์ตอบแทนนั้นจะกระทำด้วยวิธีการใดๆ

         “ผลประโยชน์ตอบแทน” หมายความว่า เงินทรัพย์สินหรือผลประโยชน์อื่นใด ที่ผู้กู้ยืมเงิน หรือบุคคลอื่นจ่าย หรือจะจ่ายให้แก่ผู้ให้กู้ยืมเงินเพื่อการกู้ยืมเงิน ทั้งนี้ไม่ว่าจะจ่ายในลักษณะดอกเบี้ย เงินปันผลหรือลักษณะอื่นใด

         ดังนั้นการประกอบธุรกิจตามที่บริษัทดังกล่าวอ้างข้างต้น อันเข้าข่ายเป็นการกู้ยืมเงินตามพระราชกำหนดการกู้ยืมเงิน ที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ. 2527 ซึ่งจะต้องไปตรวจสอบรายละเอียดในการประกอบธุรกิจว่า จะมีลักษณะเป็นความผิดตามกฎหมายดังกล่าวหรือไม่ กรมสอบสวนคดีพิเศษจึงขอแจ้งเตือนไปยังประชาชนทั่วไปให้พึงระมัดระวัง

         การลงทุนในรูปแบบดังกล่าวและแจ้งเตือนให้ทราบว่าแชร์ลูกโซ่มักจะมาในรูปแบบของธุรกิจที่ใช้กลยุทธ์ทางการตลาด ที่น่าสนใจและโฆษณาชักชวนให้ร่วมลงทุนในระยะสั้นโดยอ้างว่าจะจ่ายผลประโยชน์ตอบแทนในอัตราที่สูง โดยใช้วิธีการนำเงินจากผู้ที่เข้ามาเป็นสมาชิกใหม่จ่ายผลตอบแทนให้สมาชิกเก่า เพื่อให้เห็นว่าธุรกิจสามารถดำเนินการได้จริงภายหลังที่ระดมทุนได้มากแล้ว จะหยุดดำเนินการและหลบหนีไปพร้อมเงินของผู้เสียหาย ซึ่งจะเกิดความเสียหายลุกลามอย่างรวดเร็ว จึงขอให้ประชาชนพึงระมัดระวังในการเข้าร่วมลงทุนในธุรกิจต่างๆ โดยควรศึกษาความเป็นไปได้ของธุรกิจก่อนเข้าร่วมลงทุน และหากมีข้อสงสัยสามารถติดต่อสอบถาม หรือให้ข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สายด่วนกรมสอบสวนคดีพิเศษโทร. 1202 (โทรฟรีทั่วประเทศ)

ขอบคุณข้อมูล : คณะโฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ

สุรินทร์-ติดตามความเจริญเติบโตของข้าวนาถุง ตามโครงการขยายผล นวัตกรรมปลูกข้าวนาถุงไปสู่เกษตรกรและเยาวชน ปีการเพาะปลูก ๒๕๖๒/๒๕๖๓

          เมื่อวันที่ ๒๑ ก.ย.๖๒ เวลา ๑๓.๓๐ น. พ.อ.เอกภาพ สุหร่าย รองผอ.รมน.จังหวัด ส.ร.(ท.) มอบหมายให้ ร.ต.ต.สันติ ยิ้วว่อง จนท.ปฏิบัติงานกลุ่มงานกิจการมวลชนฯ พร้อม จนท. กอ.รมน.จังหวัด ส.ร. ร่วมกับ น.ส.ณชณฆ์ ตรงใจ ที่ปรึกษาสหกรณ์การเกษตร วัน วัน วัน/ผู้บุกเบิกปลูกข้าวนาถุง, นางพนัชกร ตรงใจ ที่ปรึกษาสหกรณ์การเกษตร วัน วัน วัน พร้อมคณะ ติดตามความเจริญเติบโตของข้าวนาถุง ตามโครงการขยายผลนวัตกรรมปลูกข้าวนาถุงไปสู่เกษตรกรและเยาวชน ปีการเพาะปลูก ๒๕๖๒/๒๕๖๓

         โดยมี นายวินัน สุขประสพ ผู้รับผิดชอบโครงการกลุ่มเกษตรกร ต.บักได และนายทำ นอง เชื่อมการ ผู้รับผิดชอบกลุ่มเกษตรกรบ้านหนองคันนา และสมาชิกรวมประมาณ ๑๓ คน ณ บ้านโคกสูง ต.บักได อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ รายละเอียดดังนี้
๑.๑ ข้อมูลพื้นฐาน
– ชื่อกลุ่ม กลุ่มเกษตรกรตำบลบักได
– จำนวนสมาชิกในกลุ่ม ๓๑ คน
– วันที่เริ่มปลูกข้าวนาถุง ๑๕ ก.ค.๖๒
– ชนิดพันธุ์ข้าวที่ปลูก ข้าวมะลินิลสุรินทร์
– พื้นที่ปลูก จำนวน ๑๒๐ ตรว. ๕๐๐ ถุง
– ผู้รับผิดชอบ นายวินัน สุขประสพ กลุ่มเกษตรกร ต.บักได
– รวมระยะเวลาที่ปลูก ๖๘ วัน
๑.๒ สภาพการเจริญเติบโต
– การแตกกอ ๑ เมล็ด แตกกอได้ ประมาณ ๑๒-๑๕ ต้น
– ความสวยงาม มาก
– อุปสรรค หนอนกอ
– วันเวลาที่คาดว่าจะออกรวง ประมาณกลางเดือนตุลาคม
๑.๓ การดูแลต้นข้าว หรือการกำจัดศัตรูต้นข้าวมีวิธีการอย่างไร
– ปัญหา ข้าวมีการเจริญเติบโตดี แต่ยังมีศัตรูต้นข้าวมาทำลาย คือ หนอนกอ
– การแก้ปัญหา คือ ถอนต้นที่หนอนกอกัดกินทิ้งและฉีดไนโตรเบสหรือปูนขาวเพื่อไม่ให้เกิดการกัดกินไปยังถุงอื่นๆ

         การบรรยายให้ความรู้ในการดูแลต้นข้าวในช่วงการเจริญเติบโต โดยวิทยากร ผลลัพธ์
คือ ได้รับทราบความคืบหน้าของโครงการฯ พร้อมปัญหาและอุปสรรค เกษตรกร มีความสน ใจ ในการรับฟังบรรยายจากวิทยากรเป็นอย่างดี ทั้งยังเป็นแหล่งเรียนรู้ให้แก่เกษตรกร เพื่อนำไปพัฒนา ต่อยอดผลิดเป็นเมล็ดพันธุ์ข้าวไว้ใช้เอง และเป็นการเรียนรู้ในการเจริญเติบโตของต้นข้าวเป็นอย่างดี

ประจวบฯ – กรมป่าไม้ เชิญหน.ชป.ศปป.๔ กอ.รมน.เข้าร่วมประชุม เพื่อแก้ไขปัญหาการใช้พื้นที่ป่าบริเวณเขาตะเกียบ

          วันที่ ๒๑ ก.ย.๖๒ เวลา ๐๙.๐๐ พ.อ.พงษ์เพชร เกษสุภะ หน.ชป.ศปป.๔ กอ.รมน.ได้รับเชิญจากกรมป่าไม้ ให้เข้าร่วมประชุม เพื่อแก้ไขปัญหาการใช้พื้นที่ป่าบริเวณเขาตะเกียบ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ณ ห้องประชุมหอสมุดรัชมังคลาภิเษก วังไกลกังวล อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ร่วมกับคณะทำงานของกรมป่าไม้, กอ.รมน.จังหวัด ป.ข., ฝ่ายปกครองอำ เภอหัวหิน, เทศบาลเมืองหัวหิน, ตำรวจ สภ.หัวหิน และผู้แทนส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง รวม ๔๐ คน โดยมี นาย อรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมป่าไม้ เป็นประธานการประชุม และมีนายพรเทพ วิสุทธิ์วัฒนศักดิ์ ส.ส.เขต๒ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เข้าร่วมการประชุมด้วย

         และในเวลา ๑๐.๓๐ คณะเจ้าหน้าที่จากหลายหน่วยงานประกอบด้วย สำนักป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า กรมป่าไม้, ศูนย์ประสานการปฏิบัติที่ ๔ กอ.รมน., หน่วยเฉพาะกิจปราบปรามพิเศษ (พยัคฆ์ไพร), ศูนย์ป้องกันและปราบปราม (ภาคกลาง), หน่วย นปพ.ที่ ๑๗ กรมป่าไม้ และสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ ๑๐ สาขาเพชรบุรี ได้ร่วมกันเข้าตรวจสอบพื้นที่บริษัทหัวหินพัฒนา พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ซึ่งได้รับอนุญาตเข้าทำประโยชน์ในเขตพื้นที่ป่าตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พุทธศักราช ๒๔๘๔ เพื่อดำเนินโครงการจัดทำสถานที่พักผ่อนหย่อนใจและที่เกี่ยวเนื่องบริเวณเขาตะเกียบในท้องที่ ต.หนองแก อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เพื่อนำข้อมูลมาประกอบการพิจารณาดำเนินการตามระเบียบ และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

          โดยตัวแทนบริษัทฯ ที่เข้าร่วมประชุมยินดีและยินยอมให้เข้าตรวจสอบ นำโดยนายนภดล รามจุล อายุ ๓๕ ปี เลขประจำตัวประชาชน ๑๗๗๙๘๐๐๐๐๙๘๑๙ ที่อยู่ ๗๖/๒ หมู่ ๑ ต.บางแก้วฟ้า อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม พนักงานบริษัทฯ ซึ่งได้รับมอบอำนาจ จากบริษัทฯ เป็นผู้นำตรวจสอบพื้นที่ และนำชี้ขอบเขตพื้นที่ทำประโยชน์ของบริษัท

          โดยในบริเวณพื้นที่ขออนุญาตคณะเจ้าหน้าที่พบสิ่งปลูกสร้างเป็นร้านอาหารขนาดใหญ่ (ร้านลาแม) ที่จอดรถ ป้ายประชาสัมพันธ์ รั้วกั้นขอบเขต หลักเขตพื้นที่ ถนนคอนกรีต ถนนลำลองที่มีลักษณะเป็นทางดินลูกรังที่ปรับแต่งใหม่ และมีดินลูกรังบางส่วนไหลลงทะเลเนื่องจากฝนชะล้าง จนเกิดตะกอนขุ่นข้นในน้ำทะเล มีการปลูกไม้ยืนต้นและไม้ประดับบางส่วนบริเวณข้างทาง อีกทั้งพบลิงแสมจำนวนมาก และพื้นที่บางส่วนมีความลาดชัน

         การตรวจสอบเป็นไปด้วยความยากลำบาก ซึ่งคณะเจ้าหน้าที่ได้ให้นายนภดลฯ นำชี้ขอบเขตพื้นที่บริษัทฯ เข้าทำประโยชน์จริงและได้ใช้เครื่องมือหาพิกัดด้วยสัญญาณดาว เทียม (จีพีเอส) บันทึกตำแหน่งขอบเขตพื้นที่ใช้ประโยชน์ตามการนำชี้ ซึ่งได้นำชี้และบันทึกค่าพิกัดจำนวน ๒๕ จุด ในระบบพื้นหลักฐาน WGS ๘๔ คำนวณเนื้อที่ได้จำนวน ๒๘-๒-๔๘ ไร่ อยู่ในขอบเขตพื้นที่ที่ได้รับอนุญาต ( ๓๒ ไร่เศษ) รายละเอียดปรากฏตามแผนที่ ซึ่งคณะเจ้าหน้า ที่จะได้นำข้อมูลดังกล่าวไปใช้ประกอบการตรวจสอบพื้นที่ การปฏิบัติตามเงื่อนไขการขออนุญาตใช้พื้นที่ป่าไม้ และข้อกฎหมาย อื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง สำหรับพื้นที่บริเวณข้างเคียงคณะเจ้าหน้าที่จะได้ร่วมกันตรวจสอบ และรายงานให้ทราบต่อไป

—————————

พ.อ.พงษ์เพชร เกษสุภะ
หน.ชุดปฏิบัติการ ศปป.๔ กอ.รมน. / รายงาน

ชมรมชาวใต้ศรีราชาจัดงานประเพณี “สารทเดือน10”

https://youtu.be/eIKikzNYXAQ

         วันนี้ เวลา 10.00 น.ที่วัดบ้านนา อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี นายวิทยา คุณปลื้ม นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดชลบุรี เป็นประธานเปิดงานประเพณีบุญสารทเดือน10 ของชมรมชาวใต้อำเภอศรีราชา โดยมีนายสุริยา แสงพงค์ ประธานชมรมชาวใต้ศรีราชา ได้ร่วมกับสมาชิกชมรมชาวใต้อำเภอศรีราชาได้จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี ท่ามกลางพ่อแม่พี่น้องชาวปักษ์ใต้ที่มาร่วมงานกันอย่างคึกคัก พร้อมนำอาหารคาวหวานมาร่วมทำบุญ โดยเฉพาะขนม 5 อย่างที่ขาดไม่ได้ คือ ขนมลา ขนมพอง ขนมบ้า ขนมเจาะหู และขนมกง ภายหลังพิธีเปิด ได้มีการจัดขบวนแห่หมรับ พิธีทางสงฆ์ พิธีชิงเปรต การแสดงมโนราห์ ศิลปะการแสดงของภาคใต้ และการมอบทุนการศึกษาให้กับนักเรียนที่เรียนดีแต่ขาดแคลนทุนทรัพย์ นอกจากนี้ยังมีการนำอาหารปักษ์ใต้ อาทิ แกงเหลือง คั่วกลิ้ง แกงไตปลา ไก่ต้มขมิ้น มาให้ผู้ร่วมงานได้รับประทานด้วย

         นายสุริยา แสงพงค์ รองผู้อำนวยการองค์การสวนสัตว์ ในฐานะประธานชมรมชาวใต้ศรีราชา เปิดเผยว่า งานประเพณี“สารทเดือนสิบ” เป็นงานประเพณีที่ให้ชาวใต้ได้ร่วมกันทำ บุญ เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้แก่บรรพบุรุษที่ล่วงลับไปแล้ว เป็นการแสดงถึงความกตัญญูกตเวทีต่อผู้มีพระคุณ ทางชมรมชาวใต้ศรีราชา จึงจัดงานนี้ขึ้นเป็นประจำทุกปี เพื่อร่วมสืบสวนและอนุรักษ์วัฒนธรรมประจำถิ่นให้คงอยู่ เพื่อให้พี่น้องชาวใต้ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่จังหวัดชลบุรีและใกล้เคียงได้มาทำบุญร่วมกัน และเพื่อเผยแพร่ประเพณีพื้นบ้านของชาวใต้ให้เป็นที่รู้จักของคนทั่วไป โดยไฮไลท์ของงาน คือกิจกรรม แห่หมรับ และกิจกรรมชิงเปรต .นายวิทยา คุณปลื้ม นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดชลบุรี เป็นประธานเปิดงานประเพณีบุญสารทเดือน10 ของชมรมชาวใต้อำเภอศรีราชา โดยมีนายสุริยา แสงพงค์ ประธานชมรมชาวใต้ศรีราชา ได้ร่วมกับสมาชิกชมรมชาวใต้อำเภอศรีราชาได้จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี ท่ามกลางพ่อแม่พี่น้องชาวปักษ์ใต้ที่มาร่วมงานกันอย่างคึกคัก พร้อมนำอาหารคาวหวานมาร่วมทำบุญ โดยเฉพาะขนม 5 อย่างที่ขาดไม่ได้ คือ ขนมลา ขนมพอง ขนมบ้า ขนมเจาะหู และขนมกง ภายหลังพิธีเปิด ได้มีการจัดขบวนแห่หมรับ พิธีทางสงฆ์ พิธีชิงเปรต การแสดงมโนราห์ ศิลปะการแสดงของภาคใต้ และการมอบทุนการศึกษาให้กับนักเรียนที่เรียนดีแต่ขาดแคลนทุนทรัพย์ นอกจากนี้ยังมีการนำอาหารปักษ์ใต้ อาทิ แกงเหลือง คั่วกลิ้ง แกงไตปลา ไก่ต้มขมิ้น มาให้ผู้ร่วมงานได้รับประทานด้วย

          นายสุริยา แสงพงค์ รองผู้อำนวยการองค์การสวนสัตว์ ในฐานะประธานชมรมชาวใต้ศรีราชา เปิดเผยว่า งานประเพณี“สารทเดือนสิบ” เป็นงานประเพณีที่ให้ชาวใต้ได้ร่วมกันทำบุญเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้แก่บรรพบุรุษที่ล่วงลับไปแล้ว เป็นการแสดงถึงความกตัญญูกตเวทีต่อผู้มีพระคุณ ทางชมรมชาวใต้ศรีราชาจึงจัดงานนี้ขึ้นเป็นประจำทุกปี เพื่อร่วมสืบสวนและอนุรักษ์วัฒนธรรมประจำถิ่นให้คงอยู่ เพื่อให้พี่น้องชาวใต้ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่จังหวัดชลบุรีและใกล้เคียงได้มาทำบุญร่วมกัน และเพื่อเผยแพร่ประเพณีพื้นบ้านของชาวใต้ให้เป็นที่รู้จักของคนทั่วไปโดยไฮไลท์ ของงาน คือกิจกรรม แห่หมรับ และกิจกรรมชิงเปรต

ภาพ/ข่าว สมชาย แก้วนุ่ม   ผู้สื่อข่าว จ.ชลบุรี
นาย พรเทพ เขม้นเขตวิทย์ รายงานจากศูนย์ข่าวภาคตะวันออก

วัดประชานาถแหลมฉบัง ร่วมกับชมรมแสงตะวันชลบุรีและประชาชนผู้มีจิตศรัทธา จัดกิจกรรม ไถ่ชีวิตโค เพื่อถวายเป็นพุทธบูชา เนื่องในเทศกาลเข้าพรรษา

วัดประชานาถแหลมฉบังร่วมกับชมรมแสงตะวันชลบุรีและประชาชนผู้มีจิตศัรทธาจัดกิจกรรม ไถ่ชีวิตโค เพื่อถวายเป็นพุทธบูชาเนื่องในเทศกาลเข้าพรรษา

         เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 22 ก.ย 2562 ที่ศาลาประชาคมเทศบาลนครแหลมฉบัง นางจินดา ถนอมรอด นายกเทศมนตรีนครแหลมฉบัง เป็นประธานฝ่ายฆราวาส นำประชาชนชาวแหลมฉบังและใกล้เคียงร่วมพิธีใถ่ชีวิตโค เพื่อถวายเป็นพุทธบูชา เนื่องในวันเข้าพรรษา ประจำปี 2562 โดยมีพระอธิการปัญญา ปญญาธโร เจ้าอาวาสวัดประชานาถ เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ และนายปรีชา วัฒนะวิเชียร ประธานชมรมแสงตะวันชลบุรี กล่าวรายงาน

         สำหรับพิธีใถ่โค เพื่อถวายเป็นพุทธบูชา เนื่องในวันเข้าพรรษาในครั้งนี้คณะผู้จัดได้ให้ประชาชนและผู้มีจิตศรัธทาได้ร่วมกันเป็นเจ้าภาพไถ่ชีวิตโคทั้งสิ้นจำนวน 10 ตัว ลูกในท้องโคอีก 2 ตัว ขณะเดียวกันประธานพิธี นายกจินดา ถนอมรอด ได้ร่วมกับบรรดาเจ้าภาพในพิธีไถ่ชีวิตโค มอบโค(เพศเมีย)จำนวน 10 ตัว ให้แก่เกษตรกรเพื่อนำไปเลี้ยงดู และร่วมปฏิญานตนว่าจะไม่นำโคที่ได้รับ ไปทำทารุณหรือนำไปขาย ทั้งนี้เพื่อถวายเป็นพุทธบูชา เนื่องในวันเข้าพรรษาตามเจตนารมย์และวัตถุประสงค์ของคณะกรรมการจัดงานพระภิกษุสงฆ์และประ ชาชนผู้มีจิตศัรทธาต่อไป

ภาพ/ข่าว สมชาย แก้วนุ่ม   ผู้สื่อข่าว จ.ชลบุรี
นาย พรเทพ เขม้นเขตวิทย์ รายงานจากศูนย์ข่าวภาคตะวันออ

ชลบุรี – จัดงานวันคล้ายวันมรณภาพ หลวงพ่ออี๋ ประจำปี ระหว่างวันที่ 21-27กันยายน 2562

          เมื่อเวลา 18.00 วันที่ 21 ก.ย.62 นายอนุชา อินทศร นายอำเภอสัตหีบ เป็นประธานเปิดงานวันคล้ายวันมรณภาพ หลวงพ่ออี๋ ปีที่ 73 หรือพระครูวรเวทมุนี วัดสัตหีบ เกจิอาจารย์ชื่อดังแห่งภาคตะวั นออก โดยมีพระสงฆ์ทรงสมศักดิ์ จำนวน 10 รูป มาร่วมเจริญพระพุทธมนต์ ณ วิหารหลวงพ่ออี๋ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี โดยมี พระครูทัศนีย์คุณากร เจ้าคณะอำเภอสัตหีบ เจ้าอาวาสวัดสัตหีบ นาย ณรงค์ บุญบรรเจิดศรี นายกเทศบาลเมืองสัตหีบ พร้อมคณะผู้บริหารเทศบาลเมืองสัตหีบ และผู้แทนจากหน่วยงานของกองทัพเรือในพื้นที่สัตหีบ ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ชมรม สมาคมต่างๆ เข้าร่วมพิธีในวันนี้เป็นจำนวนมาก

         ซึ่งงานวันคล้ายวันมรณภาพ หลวงพ่ออี๋ ประจำปี 2562 นี้จัดให้มีขึ้นเป็นระยะเวลา 7 วัน 7 คืน ระหว่างวันที่ 21-27กันยายน 2562 มีมหรสพให้ชมฟรี พร้อมสินค้าหลากหลายชนิดให้เลือกซื้ออย่างมากมาย ซึ่งเกิดขึ้นจากพระครูวิบูลย์ธรรมบาล เจ้าอาวาสวัดสัตหีบ คณะศิษ ยานุศิษย์ที่มีความเคารพนับถือในหลวงพ่ออี๋เป็นอย่างยิ่ง จึงได้ร่วมกันจัดงานบำเพ็ญกุศลต่อเนื่องกันมาเป็นเวลาช้านานและเพื่อหารายได้ไปบูรณะซ่อมแซมเสนาสนะวัดสัตหีบเพื่อการสาธารณะประโยชน์สงเคราะห์

         สำหรับประวัติโดยย่อของ หลวงพ่ออี๋ พระครูวรเวทมุนี อดีตเจ้าอาวาสวัดสัตหีบ เกจิ อาจารย์ชื่อดังแห่งภาคตะวันออก มีชื่อเสียงโด่งดังในเรื่องของการปฎิบัติสมถะและวิปัสสนากัมมัฎฐาน ล่นระยะทางได้ จนเมื่อสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 อำเภอสัตหีบ เป็นเป้าหมายสำคัญของการโจมตีของฝ่ายตรงข้ามและมีฐานทหารเรือ จึงถูกโจมตีอย่างหนัก แต่หลวงพ่ออี๋ ได้ออกมายืนบริกรรมคาถากลางลานวัด ปรากฏว่าทุกคนที่หนีมาหลบภัยในวัดสัตหีบ เป็นที่น่าแปลกใจอย่างมาก ลูกระเบิดที่เครื่องบินทิ้งลง มาได้ไปตกในทะเลหมด และมีคนเห็นว่า ปลัดขิกหลวงพ่ออี๋ ได้วิ่งไล่เครื่องบินและไล่ลูกระเบิด นอกจากนี้ ได้มีคนเห็นว่า ได้เห็นหลวงพ่ออี๋ ไปบินฑบาตรที่อำเภอเมือง ชลบุรี ขณะที่นั่งรถประจำทางกลับสัตหีบ ปรากฏว่าเมื่อกลับมาถึงสัตหีบ เห็นหลวงพ่ออี๋ กลับมาจากบิณฑบาตเรียบร้อยแล้ว ทั้งที่ท่านไม่ได้ขึ้นรถโดยสารประจำทางคันเดียวกัน ต่อมาท่านได้เจ็บป่วยเป็นฝีที่ลำคอ ตั้งแต่เดือน มีนาคม 2489

นิราช ทิพย์ศรี /นันทพล ทิพย์ศรี อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี 082-9144646 094-5565622 /086-3684323

มิสลาว ปี 2018 ชื่นชมและประสานขอนำผู้เข้าประกวด ปี 2019 เก็บตัวสวนนงนุชพัทยา ถ่ายทอดสดไปจีนและภูมิภาคอาเซี่ยน

          ในวันนี้ 21 ก.ย.62 นายกัมพล ตันสัจจา หรือคุณโต้ง ประธานสวนนงนุชพัทยา จังหวัดชลบุรี ได้ให้การต้อนรับนางสาว สุดทิดา อนุสิน หรือ “มิมี่” มิสลาว ปี 2018 หรือนางสาวลาว พร้อมผู้จัดการและคณะกองประกวดมิสลาว ที่จะดำเนินการจัดการประกวดมิสลาวปี 2019 ในโอกาสนำคณะเข้าเยี่ยมชมสวนนงนุชพัทยา และประสานขอใช้สถานที่สวนนงนุชพัทยาในการเก็บตัว มิสลาว ปี 2019 ประมาณกลางเดือนพฤศจิกายน 2562 นี้

          ในฐานะประเทศไทยและประเทศลาวเป็นบ้านพี่เมืองน้องที่มีความสัมพันธ์อันดีกันมาอย่างยาวนานให้มีความแน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น รวมถึงเผยแพร่ประชาสัมพันธ์สวนนงนุชพัทยา ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวติดอันดับทอปเท็นของโลก ให้เป็นที่แพร่หลายมากยิ่งขึ้น เนื่องจากการจัดการประกวดมิสลาว ปี 2019 จะมีการถ่ายทอดสดไปยังประเทศจีนและประเทศต่างๆ ทั่วภูมิภาคอาเซี่ยน ซึ่งได้รับการต้อนรับอย่างดียิ่งจากคุณโต้ง ประธานสวนนงนุชพัทยาและเจ้าหน้าที่ส่วนต่างๆ ของสวนนงนุชพัทยา โดยมิสลาว ปี 2018 และคณะได้ร่วมถ่ายภาพเป็นที่ระลึกกับประธานสวนนงนุชพัทยา ก่อนที่จะนำคณะเข้าเยี่ยมชมความอลังการอย่างหลากหลายภายในสวนนงนุชพัทยา ในโอกาสเดียวกันนี้ด้วย

         “มิมี่” มิสลาว ปี 2018 นางสาวลาว ได้กล่าวเป็นภาษาลาวแปลเป็นภาษาไทยได้ว่า สวนนงนุชพัทยามีความงดงามมาก มีพื้นที่กว้างขวางรับนักท่องเที่ยวได้เป็นจำนวนมาก เข้ามาแล้วมีทั้งดอกไม้ ไดโนเสาร์ และอีกหลายสถานที่ที่น่าชื่นชมเป็นสวนที่สวยมากๆ อาหารก็อร่อย มาในวันนี้ได้เห็นและได้สัมผัสเพียงเล็กน้อยเท่านั้น หากมีโอกาสข้างหน้าอยากเข้ามาเที่ยวและพักอยู่ที่นี่ เพื่อใช้เวลามากๆ ในการเที่ยวชมภายในสวนนงนุชพัทยาแห่งนี้

          นายพงศ์ธร จำเนียรโสด ที่ปรึกษากองประกวดฯ ได้กล่าวขอบคุณคุณโต้ง และคณะผู้บริหารสวนนงนุชพัทยา และเจ้าหน้าที่ส่วนต่างๆ ที่ให้โอกาสกองประกวดมิสลาว ปี 2019 ในการเข้ามาเก็บตัวของมิสลาวในครั้งนี้ และหวังว่าการเก็บตัวในครั้งจะสามารถสนับสนุนด้านการท่องเที่ยวให้กับสวนนงนุชพัทยาได้อีกทางหนึ่งด้วย เนื่องจากมีการถ่ายทอดสดไปยังประเทศจีน ลาว ไทย และในประเทศภูมิภาคอาเซี่ยน

         สำหรับการประกวดมิสลาว เป็นการเฟ้นหาหญิงงามเวทีใหญ่ที่สุดของประเทศลาวกว่า 40 คน จากตัวแทน 18 แขวงทั่วประเทศในชุดผ้าไหมที่งดงาม เพื่ออนุรักษ์และสืบสานศิลปวัฒนธรรมประจำประเทศ ให้คงความงดงามเป็นมรดกตกทอดจากรุ่นสู่รุ่นต่อไป

นิราช ทิพย์ศรี/นันทพล ทิพย์ศรี จ.ชลบุรี 0909535645

สุโขทัย-งูเหลือมยักษ์ เลื้อยขึ้นเสาไฟ ฟ้า ถูกไฟช๊อต หวิดย่างสด เจ้าหน้าที่กู้ภัยช่วยไว้ทัน

https://youtu.be/o_RErvyV0Fc

         วันที่ 21 กันยายน 2562 ศูนย์อาสามูลนิธิร่วมกตัญญูจุดเมืองสุโขทัย รับแจ้งจากประ ชาชนขอความช่วยเหลือจับงูเหลือม บริเวณใกล้สระว่ายน้ำเปรมสุข อ.เมือง จ.สุโขทัย หลังรับแจ้งนายวีรพล อ้นคง หัวหน้าชุดพร้อมเจ้าหน้าที่ อาสามูลนิธิร่วมกตัญญู 5 นาย พร้อมอุปกรณ์จับงู ออกเดินทางไปตรวจสอบบริเวณดังกล่าว เมื่อเดินทางไปถึงพบงูเหลือมขนาดใหญ่ พันอยู่บนยอดเสาไฟฟ้า

         จากการสอบถามผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่าเห็นงูเหลือมตัวดังกล่าวเลื้อยออกมาจากพงหญ้าหลังโรงงานลานหอยคอนกรีต แต่พอมันเห็นคนเดินมาใกล้ๆมันก็เลื้อยหนีขึ้นบนรั้วกำ แพงด้านหน้าสระว่ายน้ำเปรมสุข จากนั้นเลื้อยขึ้นต้นไม้ไป แต่เจ้างูเหลือมยังใช้ความพยายามสูง เลื้อยหนีขึ้นไปบนเสาไฟฟ้า ทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงต้องปีนขึ้นไปยืนบนกำแพงปูนและใช้เชือกคล้องที่หัวงูเหลือมแต่งูได้ดิ้นหนีจนขึ้นไปอยู่บนเสาไฟฟ้าและเจ้างูเหลือมก็ถูกไฟช๊อตจนอาการอ่อนแรงแต่ไม่ตกลงมา ทางเจ้าหน้าที่ อาสามูลนิธิร่วมกตัญญูจุดเมืองสุโขทัย จึงได้ประสานขอรถกระเช้าจากการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคสุโขทัย เพื่อที่ขึ้นไปจับงูเหลือมตัวดังกล่าว และขอให้เจ้าหน้าที่ไฟฟ้าช่วยทำการตัดกระแสไฟฟ้าเพื่อความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่และเจ้างูเหลือมตัวดังกล่าวด้วย

         เจ้าหน้าที่ต้องใช้เวลานานกว่าครึ่งชั่วโมงจึงสามารถนำงูเหลือมตัวดังกล่าวลงมาจากเสาไฟฟ้าได้อย่างปลอดภัย ซึ่งเมื่อนำเจ้างูเหลือมลงมาได้มันมีสภาพอ่อนแรง วัดความยาวได้ 4 เมตร น้ำหนักกว่า 50 กิโลกรัม คาดว่าตลอดคืนที่ผ่านมามีฝนตกหนักและอาจทำให้พื้น ที่ที่มันอาศัยอยู่เกิดน้ำท่วมขังจึงเลื้อยหนีน้ำออกมาหาที่แห้งแต่พอมาเจอคนเข้า เจ้างูเหลือมจึงตกใจหนีเอาตัวรอดกระเสือกกระสนจนไปอยู่บนยอดไม้ที่ติดกับเสาไฟฟ้าและเลื้อยพาดตัวไปอยู่บนยอดเสาไฟฟ้าดังกล่าว จากนั้นเจ้าหน้าที่อาสามูลนิธิร่วมกตัญญูจุดเมืองสุโขทัย จึงนำงูเหลือมใส่กระสอบเพื่อนำไปปล่อยสู่ป่าธรรมชาติต่อไป

นายพงศ์เทพ สาคร รายงานจากจังหวัดสุโขทัย