ข่าวใหม่อัพเดท » ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 9 ต.วังด้ง ฯ ยื่นหนังสือร้องเรียนให้ตรวจสอบพฤติกรรม และคุณสมบัติ เจ้าอาวาสวัดหนองสามพราน ฯ

ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 9 ต.วังด้ง ฯ ยื่นหนังสือร้องเรียนให้ตรวจสอบพฤติกรรม และคุณสมบัติ เจ้าอาวาสวัดหนองสามพราน ฯ

3 ธันวาคม 2024
0

ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 9 ต.วังด้ง ฯ เดินหน้า ยืนหนังสือร้องเรียนขอความเป็นธรรม เจ้าคณะจังหวัดกาญจนบุรี และศูนย์ดำรงธรรม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้ตรวจสอบพฤติกรรม และคุณสมบัติ เจ้าอาวาสวัดหนองสามพราน ฯ ที่เป็นพระต่างด้าว ขับไล่พระไทยให้พ้นออกจากวัด

เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2567 เวลา 10.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายไพฑูรย์ ศรีสวัสดิ์ ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 9 บ้านหนองสามพราน ต.วังด้ง อ.เมือง จ.กาญจนบุรี พร้อมชาวบ้านกลุ่มหนึ่ง ได้ยืนหนังสือร้องเรียน ต่อพระเทพปริยัติโสภณ (ปัญญา วิสุทธิปญโญ เจ้าคณะจังหวัดกาญจนบุรี เจ้าอาวาสวัดไชยชุมพลชนะสงคราม (วัดใต้) พระอารามหลวง เรื่องขอความเป็นธรรมกรณี พระอาจารย์ไชยยันต์ สุเมโธ (รารามนัส) พระลูกวัด ถูกพระอธิการทุนเอ ธนสีโล (ไม่มีนาม สกุล) ไม่มีบัตรประชาชน เจ้าอาวาสวัดหนองสามพราน กลั่นแกล้งกล่าวร้ายใส่ความขับไล่ ทำหนังสือคำสั่งให้ออกจากวัด โดยมิชอบ และได้เดินทางไปยืนหนังสือร้องเรียนที่ศูนย์ดำรงธรรม ศาลากลางจังหวัดกาญจนบุรี โดยมีนายพชรพงศ์ ว่องธัญญการ นิติกรชำนาญการ เป็นผู้รับเรื่องให้ตรวจสอบ พระอธิการทุนเอ ธนสีโล เจ้าอาวาสวัดหนองสามพราน ฯ มีคุณสมบัติเป็นเจ้าอาวาสหรือไม่

โดย “หนังสือถ้อยคำ คำร้องเรียน ของนายไพฑูรย์ ศรีสวัสดิ์ ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 9 ฯ กับชาวบ้านหนองสามพราน” มีใจความว่า

ด้วยพวกข้าพเจ้าประชาชนชาวบ้านวัดหนองสามพราน ตามบัญชีรายชื่อที่แนบมาด้วยแล้ว ขอเรียนชี้แจงต่อท่านผู้ว่าราชการจังหวัดฯ เพื่อขอความเป็นธรรมให้กับพระอาจารย์ไชยยันต์ สุเมโธ (รารามนัส) ซึ่งเป็นพระลูกวัดของวัดหนองสามพรานได้ถูกเจ้าอาวาสวัดหนองสาม พราน เนื่องจากเป็นบุคคลคนต่างด้าวได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาส โดยไม่ถูกต้องตามระเบียบข้อกฎหมาย โดยได้ร่วมกันกับไวยาวัจกร ชื่อนายสมพงษ์ (ขอสงวนนามสกุล) ซึ่งเป็นสมาชิก องค์การบริหารส่วนตำบล วังดังหมู่ 9 ออกหนังสือขับไล่พระไชยยันต์ โดยไม่ได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนให้พ้นไปจากวัด โดยมิชอบ ด้วยการกล่าวหาพระไชยยันต์ว่า กระทำความผิดวินัยนัยสงฆ์ และทุจริตเงินของวัดโดยไม่มีมูลความจริงกระทำตัวเป็นเสมือนศาลเสียเอง โดยไม่มีการแต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวนในข้อเท็จจริง มีการตัดน้ำตัดไฟ ที่ต่อมาใช้ยังกุฏิพระไชยยันต์หลายครั้ง เพื่อกดดันบีบให้ออกไปจากวัด พวกข้าพเจ้าประชาขนชาวบ้านวัดหนองสามพรานได้ร่วมกันลงรายมือชื่อไม่เห็นด้วยกับการกระทำ ที่ไม่ถูกต้องในลักษณะนี้ ของเจ้าอาวาสและไวยาวัจกร โดยได้ร่วมกันไปยืนเรื่องขอความเป็นธรรมต่อเจ้าคณะตำบล เจ้าคณะอำเภอและเจ้าคณะจังหวัดฯ ซึ่งเป็นผู้ปกครองฝ่ายคณะสงฆ์ของจังหวัดกาญจนบุรี เพื่อให้เข้ามาแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนหาข้อเท็จจริงจวบจนถึงปัจจุบันนี้
ทางฝ่ายคณะสงฆ์จังหวัดยังมิได้ดำเนินการใดๆ ทั้งสิ้น ทั้งๆ ที่เป็นเรื่องใหญ่ ในวงการพระพุทธศาสนา ซึ่งมีการแต่งตั้งบุคลต่างด้าว ที่ไม่ใช่คนไทยเข้ามาดูแลปกครองสถานที่สำคัญของทางพระพุทธศาสนา เจ้าอาวาสเปรียบเสมือนเจ้าหน้าที่ของรัฐ ฯ ซึ่งการแต่งตั้งเจ้าอาวาสต้องเป็นคนไทบเท่านั้น

ความเป็นมา พระอธิการทุนเอ ฯ ได้รักษาการเจ้าอาวาสมานานนับ 15 ปี นับตั้งแต่ปี 49 ต่อจากเจ้าอาวาสองค์เดิม ได้มรณะภาพไปจนถึงปี 66 ได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสอย่างเป็นทางการ ในระหว่างที่รักษาการเจ้าอาวาสตั้งแต่ปี 49 จนเป็นเจ้าอาวาสในปี 67 พระอธิการทุนเอ ฯ ได้แต่งตั้งไวยาวัจกรที่เป็นพรรคพวกของตนเองขึ้นมาบริหารจัดการ การเงินของวัดด้วยการจัดตั้งกันเอง โดยไม่ผ่านที่ประชุมของชาวบ้านตลอดระยะเวลา15 ปี ที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน การบริหารจัดการการเงินของวัดไม่มีการเปิดเผย บัญชีรายรับรายจ่ายของวัดให้กับคณะกรรมการของวัดได้ทราบมาตลอดระยะเวลา19 ปี มาเปิดเผยบัญชีเงินของวัดในปี 64 เนื่องจากทางวัดต้องยก สถานะเป็นวัดให้ถูกต้องตามระเบียบจึงต้องแสดงบัญชีเงินของวัดขึ้นประกอบเพื่อยกสถานะเป็นวัดให้ถูกต้อง ซึ่งในบัญชีของวัดมีเงินอยู่ในบัญชีเพียง 80,813 บาท (ตามสำเนาหน้าบัญชีที่แนบมาด้วยแล้ว) ทั้งๆ ที่ตลอดระยะเวลาปี 49 ถึงปี 64 เป็นเวลาถึง 15 ปี ซึ่งในทุกๆ ปี ทางวัดจะมีรายได้จากกองผ้าป่าและกองกฐินนับเป็นเงินหลายล้านบาทตลอดเวลา 15 ปี ที่ผ่านมาถึงปี 64 ทางวัดโดยพระอธิการทุนเอ เจ้าอาวาสไม่ได้สร้างสิ่งปลูกสร้างใดๆ ให้เห็นเป็นรูปธรรมเลยโดยเฉพาะโครงสร้างตัวพระอุโบสถ ยังมีสภาพเดิมๆ เหมือนที่เจ้าอาวาสองค์เดิมได้ก่อสร้างค้างคาไว้ มีตอม่อและคานคอดินเท่านั้น ตามภาพถ่ายที่แนบมาด้วยแล้วเงินที่ได้รับจากกองผ้าป่าและกองกฐินในเวลา 15 ปี ที่ผ่านมา หายไปไหน พวกเราประชาชนชาวบ้านวัดหนองสามพรานครางแคลงใจ ในการบริหารกิจการการเงิน ของวัด โดยพระอธิการทุนเอ ฯ และไวยาวจกรของวัด พวกข้าพเจ้าชาวบ้านประชาชนวัดหนองสาวพราน ใคร่ขอให้ เจ้าคณะจังหวัดกาญจนบุรี ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบการแต่งตั้งเจ้าอาวาสวัดหนองสามพราน โดยการแต่งตั้ง เป็นไปตามระเบียบข้อกฎหมายของประเทศไทย หรือไม่ อย่างไร

ส่วน พระอาจารย์ไชยันต์ สุเมโธ (รารามานัส) ได้มาจำพรรษาที่วัดหนองสามพรานในปลายปี 63 ขณะนั้นการก่อสร้างพระอุโบสถได้ทำค้างคาไว้มีเพียงตอม่อและคานคอดินเท่านั้น ไม่มีการก่อสร้างเพิ่มเติมแต่ประการใด ตามภาพถ่ายที่แนบมาและต่อมาเมื่อปี 64 พระอาจารย์ไชยันต์ ท่านตั้งปนิธานอย่างแน่วแน่ว่าจะต้องสร้างพระอุโบสถให้แล้วเสร็จให้ได้ ท่านก็ได้เริ่มบอกบุญกับสารุขนญาติโยมที่มีจิตศรัทธาภายในจังหวัดและต่างจังหวัดให้เข้ามาร่วมกันบริจาคเงินเพื่อร่วมสมทบทนเพื่อก่อสร้างพระอุโบสถที่ก่อสร้างค้างคาไว้ ด้วยการเชิญชวนให้ผู้มีจิตรศรัทธาตั้งองค์ผ้าป่าและองค์พระกฐินมาทอดถวายที่วัดหนองสามพราน อยู่เนืองๆ จนพระอุโบสถและกำแพงแก้วล้อมลอบสร้างแล้วเสร็จ เมื่อกลางปี 67 นี้เป็นเงินค่าก่อสร้างกว่า 25,000,000 บาท โดยใช้ระยะเวลาการก่อสร้างจนแล้วเสร็จอย่างรวดเร็วเพียงไม่ถึง 4 ปี พระอาจารย์ไชยันต์ท่านเป็นพระนักพัฒนา ท่านเป็นพระที่หาเงินเข้าวัดได้เก่งและท่านยังได้ก่อสร้างถาวรวัตถุต่างๆ ภายในวัดอีกมากมาย เช่น รูปปั้นหลวงพ่อทันใจ รูปปั้นท้าวเวสสุวรรณ ศาลาพักกุฏิสงฆ์และห้องน้ำห้องสุขา อีกกว่า 10 ห้อง เพื่อรองรับสาธุชนที่มาทำบุญที่วัด พระอาจารย์ไชยันต์ท่านเป็นที่เคารพรักต่อพุทธศาสนิกชนทั่วไปและคนในพื้นที่

ท่านสามารถเชิญชวนให้คนในต่างจังหวัดมาร่วมกันทำบุญสมทบทุนก่อสร้างพระอุโบสถได้เงินเข้าวัดมากมายหลาย 10 ล้านบาท ในช่วงเวลา 4 ปี ที่ท่านได้จำพรรพรรษา อยู่ที่วัดนี้ ท่านรับเงินที่ได้รับบริจาคมา ท่านได้มอบเงินให้กับคณะกรรมการที่ท่านแต่งตั้งขึ้นมาให้บริหารจัดการเป็นค่าแรงงานและค่าวัสดุก่อสร้างส่วนเงินที่ญาติ โยมจะโอนเงิน ท่านให้โอนเงินเข้าบัญชีของวัดจะมีเจ้าอาวาสและไวยาวัจกรที่เจ้าอาวาสแต่งตั้งกันมาเอง มีอำนาจในการเบิกเงินของวัดและทุกๆ ครั้ง ที่มีเงินเข้าบัญชีของวัดหรือมีเงินออกจากบัญชีของวัด พระอาจารย์ไชยันต์ท่านไม่สามารถที่จะรู้ได้เลยทั้งๆ ที่พระอาจารย์ไชยันต์ท่านเป็นเป็นหัวแรงหลกในการหาเงินมาสมทบทุนในการก่อวร้างพระอุโบสถแต่เพียงผู้เดียว จนพระอุโบสถสร้างแล้วเสร็จ ภายในระยะเวลารวดเร็ว ซึ่งหลักการความเป็นจริงเจ้าอาวาสและไวยาวัจกรต้องแสดงรายการบัญชีการเบิกจ่ายและรายรับที่มีเงินเข้ามาในบัญชีของวัดแสดงต่อพระอาจารย์ไชยันต์ ทุกครั้ง แม้นท่านจะเป็นพระลูกวัดก็จริง แต่การได้เงินเข้าวัด เป็นความสมมารถของพระอาจารย์ไชยันต์ แต่เพียงผู้เดียว

ท้ายที่สุดนี้พวกเราประชาชนชาวบ้านวัดหนองสามพราน ใคร่ขอความกรุณาจากท่านผู้ว่าราชการจังหวัดฯ ได้โปรดสั่งการให้ตรวจสอบและประสานงานต่อส่วนราชการที่เกี่ยวข้องใน 5 หัวข้อความตามนี้

  1. ขอให้ตรวจสอบการแต่งตั้งไวยาวัจกรของวัดโดถูกต้องหรือไม่อย่างไร
  2. ขอให้ตรวจสอบเส้นทางการเงินรายรับรายจ่ายบัญชีของวัดกับธนาคารตั้งแต่ปี 49 จน ถึงปัจจุบัน
  3. ขอให้ตรวจสอบสถานะบุคคลทางทะเบียนราษฎร์ของพระอธิการทุนเอ ว่าเป็นคนไทยหรือไม่
  4. ขอให้ตราจสอบจริยธรรมของ นายสมพงษ์ (ขอสงวนนามสกุล) เป็นสมาชิก อบต.วังดัง หมู่.9 ที่กระทำการก่อให้เกิดความแตกแยกในหมู่คณะสงฆ์และประชาชนชาวบ้านหนองสามพรานแบ่ง แยกออกเป็นสองฝักสองฝ่าย
  5. ขอให้มีหนังสือถึงคณะปกครองฝ่ายพระสงฆ์ในจังหวัดกาญจนบุรี เพื่อให้แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนหาข้อเท็จจริงในข้อกล่าวหาของพระอธิการทุนเอ เจ้าอาวาสวัดหนองสามพรานจึงกราบเรียนมาเพื่อได้โปรดพิจารณาตรวจสอบหาข้อเท็จจริง ด้วยความเคารพและนับถืออย่างสูง พวกข้าพเจ้าประชาชนชาวบ้านวัดหนองสามพรานและประชาชนที่มีจิตรศรัทธาต่อพระอาจารย์ไชยยันต์

ลงชื่อ นายไพฑูรย์ ศรีสวัสดิ์ ผู้ใหญ่บ้าน และประชาชนชาวบ้านหนองสามพราน

อย่างไรก็ดี ผู้สื่อข่าวก็ได้เดินทางไปยัง วัดหนองสามพราน เพื่อสัมภาษณ์สอบถามเรื่องที่เกิดขึ้น พระอธิการทุนเอ ธนสีโล เจ้าอาวาสวัดหนองสามพราน ก็ได้เปิดเผย กับผู้สื่อข่าวว่า เป็นเรื่องจริงเป็นคำสั่งของอาตมาเจ้าอาวาสวัดหนองสามพราน ที่ได้ขับไล่พระอาจารย์ไชยยันต์ สุเมโธ ออกจากวัด อ้างด้วยเหตุผลที่ว่า พระอาจารย์ไชยยันต์ มีพฤติกรรมมิชอบ 5.ข้อ ดังนี้

  1. อวดอ้างตนเป็นอาจารย์ มอมเมาประชาชน ด้วยอวิชชา สร้างความหลงผิดทางพุทธศาสนา
  2. ทำการต่างๆ ภายในวัดโดยพลการ
  3. สร้างความแตกแยกในหมู่ชาวบ้านหนองสามพรานเป็นสองฝ่าย
  4. มีพฤติกรรมส่อไม่สุจริตเกี่ยวกับเงินทำบุญ 5.ประพฤตนไม่อยู่ในโอวาทเจ้าอาวาส

การกระทำของ พระอาจารย์ไชยยันต์ ฯ ตามที่ปรากฏข้างต้น ถือเป็นการประพฤติผิดอย่างร้ายแรง ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อพระสังฆาธิการผู้ปกครอง เกิดความเสียหายแก่วัดหนองสามพราน เกิดความเสื่อมเสียแก่หมู่ศรัทธาญาติโยมชาวบ้าน หนองสามพรานจนเกิดเป็นสองฝ่าย ดังนั้นจึงอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 38 (2) แห่งพระราชบัญญัติคณะสงค์ พ ศ.2505 แก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติคณะสงค์ (ฉบับที่2) ว่าด้วยอำนาจเจ้าอาวาส จึงสั่งให้ พระอาจารย์ไชยยันต์ สุเมโธ พ้นจากสังกัดวัดหนองสามพราน ภายใน 3 วัน นับตั้งแต่มีคำสั่งนี้ สั่ง ณ วันที่ 2 พฤศจิยน 2567

ลงชื่อ (พระอธิการทุนเอ ธนสีโล) เจ้าอาวาสวัดหนองสามพราน


กัมพล ทันเวลา : ภาพข่าว

error: Content is protected !!