ข่าวใหม่อัพเดท » การประชุม นขต.กอ.รมน. ครั้งที่ ๗/๒๕๖๒ สรุปผลการปฏิบัติงานในรอบเดือนที่ผ่านมา

การประชุม นขต.กอ.รมน. ครั้งที่ ๗/๒๕๖๒ สรุปผลการปฏิบัติงานในรอบเดือนที่ผ่านมา

23 กรกฎาคม 2019
0

การประชุม นขต.กอ.รมน. ครั้งที่ ๗/๒๕๖๒
     วันนี้ (๒๓ ก.ค. ๖๒) เวลา ๐๙.๓๐ น. พล.ต.ธนาธิป สว่างแสง โฆษก กอ.รมน. ได้เปิดเผยว่า กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ได้จัดการประชุมหน่วยขึ้นตรง กอ.รมน. ครั้งที่ ๗/๒๕๖๒ โดยมีผู้บังคับหน่วยขึ้นตรงของ กอ.รมน. (ส่วนกลาง) และผู้แทนของ กอ.รมน.ภาค ๑ – ๔ เข้าร่วมประชุมฯ บริเวณชั้น ๓ อาคารรื่นฤดี กอ.รมน. โดยมี พล.อ.ธีรวัฒน์ บุณยะวัฒน์ เลขาธิการ กอ.รมน. เป็นประธาน การประชุมฯ สรุปเรื่องที่สำคัญ ดังนี้
เรื่องแรก การทำลายของกลางคดีละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา
     กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ได้จัดการประชุมคณะทำงานทำลายของกลาง คดีละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาที่คดีถึงที่สุดแล้ว ในครั้งที่ ๑/๒๕๖๒โดยมี ผู้อำนวยการศูนย์การปฏิบัติที่ ๓ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร/ประธานคณะทำงานทำลายของกลางคดีละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา เป็นประธานการประชุม และมี กรมทรัพย์สินทางปัญญา เป็นเลขาการประชุม โดยที่ประชุมฯได้มีมติกำหนดจัดพิธีทำลายของกลางในช่วงเดือนสิงหาคม หรือประมาณต้นเดือนกันยายน ๒๕๖๒ ด้วยวิธีเผาและการบดทำลายด้วย รถบดหรือเครื่องบด รวมทั้งวิธีการใช้เครื่องตัดเพื่อให้ของกลางเสื่อมสภาพและไม่สามารถ นำกลับมาใช้ได้อีก โดยที่ไม่เป็นมลภาวะเป็นพิษต่อสิ่งแวดล้อม
     สำหรับของกลางคดีละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาที่คดีถึงที่สุด และพร้อมที่จะนำมาทำลายร่วมกัน ในปีงบประมาณ ๒๕๖๒ อาทิ รองเท้า กระเป๋า เสื้อ กางเกง ชุดกีฬา ที่ปลอมเครื่องหมายการค้า มีหน่วยที่ดำเนินการจับกุมยึดของกลาง ได้แก่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ของกลางที่ยึดได้ จำนวน ๒๕๑,๐๖๔ ชิ้น, กรมสอบสวนคดีพิเศษ(DSI) ของกลางที่ยึดได้จำนวน ๕๔๗,๖๑๗ ชิ้น และ กรมศุลกากร ของกลางที่ยึดได้ จำนวน ๙,๘๑๑,๓๔๐ ชิ้น รวมจำนวนทั้งสิ้น ๑๐,๖๑๐,๐๒๑ ชิ้น
เรื่องที่สอง การจัดทำบันทึกความเข้าใจความร่วมมือ (MOU) ระหว่าง กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร กับ วัดแสงอรุณหรือวัดป่าดานวิเวก และมูลนิธิพุทธะสมุนไพรคู่แผ่นดินไทยในพระบรมราชูปถัมภ์
     กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ได้จัดทำบันทึกความเข้าใจความร่วมมือ (MOU) ระหว่าง กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร กับ วัดแสงอรุณหรือวัดป่าดานวิเวก และมูลนิธิพุทธะสมุนไพรคู่แผ่นดินไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ โดยมีเจตนารมณ์ร่วมกันเพื่อประโยชน์ของประเทศชาติ ในการคุ้มครองป้องกันอนุรักษ์พัฒนาและ การใช้ทรัพยากรในโครงการอย่างยั่งยืน ทั้งนี้เพื่อเป็นไปตามพระธรรมวินัยกฎหมาย ว่าด้วยการป่าไม้ และกฎหมายอื่นๆที่เกี่ยวข้อง โดยมี ผู้อำนวยการศูนย์ประสานการปฏิบัติที่ ๔ เป็นผู้แทนของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ร่วมลงนามในบันทึกความเข้าใจความร่วมมือกับเจ้าอาวาสวัดแสงอรุณฯ และ ผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ ในวันที่ ๒๕ มิถุนายน ๒๕๖๒ ณ วัดแสงอรุณ ตำบลศรีชมพู อำเภอโซ่พิสัย จังหวัดบึงกาฬ
     สำหรับการลงนามฯดังกล่าว เป็นไปตามภารกิจหลักในการเสริมสร้างความมั่นคง ด้านทรัพยากรธรรมชาติ พลังงาน อาหารและสิ่งแวดล้อม เพื่อให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ ๒๐ ปี ในด้านการสร้างการเติบโตบนคุณภาพชีวิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม มีวัตถุประสงค์เพื่อร่วมกันดูแลรักษาป่า ระหว่างวัดที่อยู่ในพื้นที่ของกรมป่าไม้และพื้นที่สำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม จำนวนกว่า ๓,๐๐๐ ไร่ ซึ่งการลงนามในครั้งนี้จะทำให้การดูแลผืนป่าแห่งนี้มีประสิทธิภาพตามวัตถุประสงค์และก่อให้เกิดประโยชน์กับชุมชน และประเทศชาติโดยรวมต่อไป
เรื่องสุดท้าย การลงทะเบียนซิมการ์ดโทรศัพท์ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้
     ปัจจุบันการติดตามความคืบหน้า การลงทะเบียนซิมการ์ดโทรศัพท์ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ถือเป็นมาตรการที่สำคัญในการแก้ไขปัญหาการก่อเหตุความไม่สงบในพื้นที่ โดยกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ภาค ๔ ส่วนหน้า ได้จัดเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวก ในการลงทะเบียนซิมการ์ดโทรศัพท์โดยแบ่งออกเป็น ๒ ขั้นตอน
     ขั้นตอนที่ ๑ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ภาค ๔ ส่วนหน้าสนับสนุนเจ้าหน้าที่รับลงทะเบียน มีจำนวนยอดทั้งสิ้น ๓,๘๗๓ นาย แบ่งออกเป็น ทหาร(กอ.รมน.ภาค๔ ส่วนหน้า) จำนวน ๑,๓๓๒ นาย, ตำรวจ (กกล.ตร.จชต.) จำนวน ๖๖๙ นาย และเจ้าหน้าที่ ศูนย์ปฏิบัติการอำเภอ จำนวน ๑,๘๗๒ นาย ในส่วนของสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ(กสทช) จัดทำแอพลิเคชั่นการลงทะเบียนซิมการ์ดโทรศัพท์ระบบ “สองแชะ อัตลักษณ์”
     ขั้นตอนที่ ๒ ขั้นตอนการตรวจสอบสิทธิและการลงทะเบียนระบบ “สองแชะ อัตลักษณ์”(เป็นการบันทึกหมายเลขประจำตัวบัตรประชาชนและภาพใบหน้าของเจ้าของซิมการ์ดโทรศัพท์) สรุปมีผู้ใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่มาลงทะเบียนแล้ว จำนวน ๑๔๘,๗๙๖ คน
     จากการดำเนินการดังกล่าว สามารถทำให้ป้องกันผู้แอบอ้างการใช้ซิมการ์ดโทรศัพท์เคลื่อนที่ ไปใช้ในทางที่ผิดกฎหมาย อีกทั้งเพื่อสร้างความปลอดภัยในการดำเนินชีวิตและทรัพย์สินให้กับพี่น้องประชาชนในพื้นที่
     กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร จึงขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนในพื้นที่ ๓ จังหวัดชายแดนภาคใต้และ ๔ อำเภอ ของจังหวัดสงขลา ได้ร่วมกันลงทะเบียนซิมการ์ดได้จนถึงวันที่ ๓๑ ตุลาคม ๒๕๖๒ ณ ศูนย์บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ทุกระบบที่ให้บริการอยู่ในพื้นที่ฯ
๒๓ กรกฎาคม ๒๕๖๒

error: Content is protected !!