ข่าวใหม่อัพเดท » หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 26 ร่วมกับอ.ละหานทราย จ. บุรีรัมย์ ประกอบพิธีวางพวงมาลา น้อมรำลึกพระมหากรุณาธิคุณ รัชกาลที่ 5 เนื่องในวันคล้ายวันสวรรคต วันที่ 23 ตุลาคม 2563

หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 26 ร่วมกับอ.ละหานทราย จ. บุรีรัมย์ ประกอบพิธีวางพวงมาลา น้อมรำลึกพระมหากรุณาธิคุณ รัชกาลที่ 5 เนื่องในวันคล้ายวันสวรรคต วันที่ 23 ตุลาคม 2563

23 ตุลาคม 2020
0

บุรีรัมย์ – หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 26 ร่วมกับอำเภอละหานทราย ประกอบพิธีวางพวงมาลาน้อมรำลึกพระมหากรุณาธิคุณ รัชกาลที่ 5 เนื่องในวันคล้ายวันสวรรคต วันที่ 23 ตุลาคม 2563 ที่หน้าพระบรมราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 อำเภอละหานทราย จังหวัดบุรีรัมย์

ที่อำเภอละหานทราย จังหวัดบุรีรัมย์ เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 23 ต.ค.63 ที่อำเภอละหาน ทราย อำเภอละหานทราย จังหวัดบุรีรัมย์ ประกอบพิธีน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ วันปิยมหาราช ตรงกับวันที่ 23 ตุลาคมของทุกปี (Chulalongkorn Day) เป็นวันสำคัญที่คนไทยรู้จักกันดีคือ “วันเลิกทาส” ตั้งแต่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2417 และห้ามมีการซื้อขายทาสอีกในประเทศไทย วันที่ 23 ตุลาคม เป็นวันคล้ายวันสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 โดยพระองค์ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณอันยิ่งใหญ่ต่อประเทศไทยหลายด้าน และสิ่งที่โดดเด่นคือ การประกาศเลิกทาส เป็นการหยุดวงจรการเป็นทาส เพราะเมื่อสมัยก่อนหากพ่อแม่เป็นทาส ลูกที่เกิดมาก็ต้องเป็นทาสต่อไปเรื่อยๆ

ทางราชการจึงได้ประกาศให้วันที่ 23 ตุลาคมของทุกปี เป็นหนึ่งในวันระลึกถึงความสำคัญของเหตุการณ์ในชาติ โดยเรียกว่า “วันปิยมหาราช” อำเภอละหานทราย โดยมี ร้อยตรีเสถียร สาระสิทธิ์ นายอำเภอละหานทราย เป็นประธานนำคณะหัวหน้าส่วนราชการ หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 26 ตำรวจ เหล่ากาชาด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น นักเรียน นักศึกษา เจ้าหน้าที่ และพสกนิกรในพื้นที่อำเภอละหานทราย ร่วมประกอบพิธีวางพวงมาลาเพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่ได้ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจเป็นอเนกอนันต์เพื่อให้พสกนิกรชาวไทย เนื่องในวันคล้ายวันสวรรคต

โดยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระนามเดิมว่า “เจ้าฟ้าจุฬาลงกรณ์ ” เป็นพระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 กับสมเด็จพระเทพศิรินทราบรมราชินี ( สมเด็จพระนางรําเพยภมรภิรมย์ ) ทรงเป็นพระมหากษัตริย์องค์ที่ 5 แห่งราชวงศ์จักรี โดยตลอดรัชสมัยพระองค์ท่านทรงอุทิศพระวรกายบำเพ็ญพระราชกรณียกิจนานัปการ และทรงปกครองพระราชอาณาจักรให้มีความมั่นคงและร่มเย็นเป็นสุข ทรงพระราชอุตสาหะเสด็จประพาสต้น เพื่อสดับตรับฟังทุกข์สุขของปวงพสกนิกรในท้องถิ่นต่างๆ พระ องค์ มีพระราชดำริพัฒนาชาติบ้านเมืองให้มีความเจริญรุ่งเรืองในทุกๆ ด้าน ทรงนำวิทยาการที่ได้จากการเสด็จพระราชดำเนินไปเยือนต่างประเทศมาวางรากฐานการพัฒนาประเทศในด้านต่าง ๆ ทั้งการปฏิรูปการบริหารราชการแผ่นดิน การปฏิรูประบบการเงินการคลัง การศึกษา การสาธารณูปโภค ด้วยพระปรีชาสามารถและสายพระเนตรอันกว้างไกลทำให้ประเทศชาติพัฒนาก้าวหน้าทันสมัย ทรงยกเลิกระบบทาส ระบบไพร่ และทรงนำศาสตร์การปกครองของไทยและชาติสากลมาผนวกใช้ในการปกครองพระราชอาณาจักร นำพาชาติบ้านเมืองให้ผ่านพ้นภัย ดำรงอธิปไตย และความเป็นเอกราชของชาติไว้ได้อย่างมั่นคง ทำให้ประเทศชาติมีความเจริญรุ่งเรืองพัฒนาไพบูลย์สืบเนื่องมาจนกาลปัจจุบัน

พระปรีชาสามารถและพระเกียรติยศเป็นที่ประจักษ์แก่นานาอารยประเทศ และด้วยพระมหา กรุณาธิคุณอันล้นพ้น พสกนิกรชาวไทยทั้งหลายจึงต่างน้อมรำลึกเทิดพระเกียรติคุณของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และได้ถวายพระราชสมัญญาแด่พระองค์ว่า “พระปิยมหาราช” โดยพระองค์ท่านเสด็จสวรรคตเมื่อวันที่ 23 ตุลาคม 2453 เวลา 2.45 นาฬิกา ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต สิริพระชนมพรรษาได้ 57 พรรษา


ภาพ/ข่าว : ไทบ้าน นิวส์ (พรพิพัฒน์ เพ็ชรสังหาร)

error: Content is protected !!