ข่าวใหม่อัพเดท » ตม.จ.ชลบุรี ใช้ BIOMETRICS รวบหนุ่มอินเดีย เปลี่ยนพาสปอร์ตใหม่หวังตบตาเจ้าหน้าที่ พบเคยถูกจับ overstay และติดแบล็คลิสต์ในระบบ

ตม.จ.ชลบุรี ใช้ BIOMETRICS รวบหนุ่มอินเดีย เปลี่ยนพาสปอร์ตใหม่หวังตบตาเจ้าหน้าที่ พบเคยถูกจับ overstay และติดแบล็คลิสต์ในระบบ

15 กรกฎาคม 2019
0

          วันนี้​ วันจันทร์ที่ 15​ ก.ค.62 เวลา 14.00 น.ณ ห้องโถง ชั้น 1 ข้างอาคารจอดรถ สตม. (สวนพลู) : พลตำรวจ​โท​ สมพงษ์ ชิงดวง รัก​ษาราชการ​แทน​ผู้​บัญชาการ​สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง​ (รรท.ผบช.สตม.)​ พร้อมด้วย​ พลตำรวจ​ตรี​ ภาคภูมิภิภัทฒ์ สัจจพันธุ์,พล​ตำรวจ​ตรี​ กฤษกร พลีธัญญวงศ์,พลตำรวจ​ตรี​ อิทธิพล อิทธิสารรณชัย,พล​ตำรวจ​ตรี​ ณฐพล แสวงกิจ,พลตำรวจ​ตรี​ สรายุทธ สงวนโภคัย รองผู้บัญชาการ​สำนักงาน​ตรวจ​คน​เข้า​เมือง​ (รองผบช.สตม.)​,พลตำรวจ​ตรี​ สุรพงษ์ ชัยจันทร์ รองผู้บัญชาการ​ตำรวจ​ภูธร​ภาค​ 7​ (รองผบช.ภ.7)​ ปฏิบัติราชการ รองผู้บัญชาการ​สำนักงาน​ตรวจ​คน​เข้า​เมือง​ (รองผบช.สตม.)​,พลตำรวจ​ตรี​ อาชยน ไกรทอง ผู้บังคับการ​ตรวจ​คน​เข้า​เมือง​ 3​ (ผบก.ตม 3)​,พัน​ตำรวจ​เอก​ ภาส สิริสุขะ รองผู้บังคับการ​ตรวจ​คน​เข้า​เมือง​ 3​ (รอง ผบก.ตม.3)​ และ พัน​ตำรวจ​เอก​ สัมพันธ์ เหลืองสัจจกุล ผู้กำกับ​การ​ตรวจ​คน​เข้า​เมือง​จังหวัด​ชลบุรี​ (ผกก.ตม.จ.ชลบุรี)

          ร่วมแถลงข่าวผลการจับกุมดังนี้​ โดยเมื่อวันที่ 11 ก.ค.62 เวลาประมาณ 11.20 น. เจ้าหน้าที่​ตม.จ.ชลบุรี ได้จับกุมตัว นาย MANEESH อายุ 30 ปี สัญชาติอินเดีย พฤติกรรม​คือ ผู้ต้องหา​ได้เข้ามายื่นขออยู่ต่อและเปลี่ยนประเภทวีซ่าที่ ตม.จ.ชลบุรี เพื่อเปิดบริษัทประกอบธุรกิจในประเทศไทย จากการตรวจสอบผ่านระบบ Biometrics พบว่าเป็นบุคคลเดียวกับ นาย MANISH อายุ 29 ปี (เกิดเมื่อ 1 ม.ค.1990) สัญชาติอินเดีย ซึ่งได้ถูกจับกุมในความผิดฐาน “เป็นบุคคลต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด​ (อยู่เกิน 1,549 วัน) และ ได้ถูกผลักดันออกนอกราชอาณาจักรไปแล้ว​ ตั้งแต่วันที่ 8 ก.ย.61

         โดยมีคำสั่งห้ามเข้ามาราชอาณาจักร ตามคำสั่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยที่ 1/2558 ลง 27 พ.ย.58 ห้ามมิให้เข้ามาในราชอาณาจักรเป็นเวลา 10 ปี คือถึงวันที่ 8 ก.ย.71 หลังตรวจสอบจนเป็นที่แน่ชัดและผู้ถูกจับให้การรับสารภาพว่าต้องการกลับเข้ามาเพื่อทำงานในประเทศไทย จึงได้ จับกุมตัวในความผิดฐาน “เป็นบุคคลต่างด้าวหลีกเลี่ยงไม่ปฏิบัติตาม ขัดขืน หรือไม่ยอมรับทราบคำสั่งรัฐมนตรี ฯ ” อันเป็นความผิดตาม พ.ร.บ. คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 มาตรา 82 และได้ทำการเปรียบเทียบปรับเป็นจำนวนเงิน 5,000 บาท พร้อมทั้งได้เพิกถอนการอยู่ในราชอาณาจักร และผลักดันออกนนอกราชอาณาจักรต่อไป

สุรเชษฐ​ ศิลา​นนท์​ รายงาน​

error: Content is protected !!