“สืบสวนตม.3″ รวบกัมพูชาหัวใสปลอมบัตรประชาชนหลอกรับเหมาก่อสร้าง สุด ท้ายเชิดเงินหนี และจับหม่องลักลอบต้มน้ำพืชกระท่อมขายผู้ใช้แรงงานมานานนับปี
วันพุธที่ 7 ต.ค.63 เวลา 10.30 น.ณ ห้องศูนย์ TIC ชั้น 4 อาคาร 1 สตม.(สวนพลู) สาธร กทม.: พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม. พร้อมด้วย พล.ต.ต.พรชัย ขันตี รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.รุ่งโรจน์ ฐากูรปุณยสิริ ผบก.ตม.3 และ พ.ต.อ.รัชธพงศ์ เตี้ยสุด ผกก.สส.บก.ตม.3 ร่วมแถลงข่าว ผลการจับกุมชาวกัมพูชาใช้บัตรประชาชนปลอมทำสัญญารับเหมาก่อสร้างเชิดเงินแล้วทิ้งงาน
คดีที่ 1. เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.สตม.3 ได้ตรวจพบผู้ใช้บัญชี Facebook รายหนึ่งซึ่งมีอาชีพรับเหมาก่อสร้างแจ้งข้อมูลว่ามีผู้รับเหมางานก่อสร้างรายหนึ่งที่รู้จักกันน่าจะเป็นคนต่างด้าวแต่มีบัตรประชาชนและใบขับขี่ปลอม เพื่อทำสัญญารับทำงานก่อสร้างต่อเติมกับผู้ว่าจ้างประกอบกับได้รับการร้องเรียนจากผู้ว่าจ้าง ว่ามีผู้รับเหมาบางรายพอทำสัญญารับทำงานเมื่อเบิกเงินค่าแรงแล้วก็ผิดสัญญาจ้างไม่ทำงานตามสัญญา กก.สส.ฯ จึงได้จัดชุดสืบสวนเพื่อหาข้อมูลบุคคลรายดังกล่าว
จนกระทั่งทราบว่าบุคคลดังกล่าวเป็นคนกัมพูชา ปัจจุบันรับงานต่อเติมอาคารในพื้นที่ จ.นครปฐม ชุดจับกุมจึงได้เดินทางไปตรวจสอบเมื่อไปถึงพบว่าบุคคลดังกล่าวยืนควบคุมการทำงาน ชุดจับกุมจึงได้แสดงตัวและบัตรประจำตัว ขอตรวจเอกสารประจำตัวซึ่งบุคคลดังกล่าวแจ้งว่าเป็นคนไทยพร้อมทั้งแสดงบัตรประชาชนและใบอนุญาตขับรถยนต์ระบุชื่อนายณัฐวัฒน์ ภูมิลำเนาอยู่ จ.สุรินทร์ แต่เนื่องจากบุคคลดังกล่าวแสดงอาการพิรุธ ชุดจับกุมจึงได้นำบัตรประชาชนและใบอนุญาตขับรถยนต์มาตรวจสอบข้อมูลปรากฏว่าไม่พบข้อมูลบุคคลดังกล่าว ชุดจับกุมจึงได้เชิญตัวมาสอบปากคำที่ตม.จ.นครปฐม เพิ่มเติม
ต่อมาชายดังกล่าวให้การรับสารภาพว่าตนเองเป็นคนกัมพูชา พร้อมทั้งนำหนังสือเดินทางมาแสดงต่อชุดจับกุมทราบชื่อจริงว่า MR.VANNAK อายุ 39 ปี สัญชาติ กัมพูชา ได้รับอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรเพื่อทำงานกรรมกร ซึ่งผู้ถูกจับให้การรับสารภาพว่าได้ปลอมเอกสารทั้ง 2 ชนิดขึ้นมาเพื่อใช้ทำสัญญารับเหมางานก่อสร้างและเพื่อแสดงแก่เจ้าหน้าที่เวลาที่ตนเองต้องขับรถเดินทาง โดยได้จ้างวานให้นายโต้ง ไม่ทราบชื่อ นามสกุลจริงเป็นผู้ติดต่อทำบัตรให้ซึ่งเสียค่าใช้จ่ายรวม 27,000 บาท จึงได้แจ้งข้อกล่าวหา และสิทธิของผู้ต้องหาให้ทราบ ในชั้นจับกุมผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้จับกุมตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางซึ่งใช้ในการกระทำความผิด นำส่ง พงส.เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
คดีที่ 2. เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.สตม.3 ได้สืบทราบว่ามีคนต่างด้าวลักลอบต้มน้ำพืชกระท่อมเพื่อจำหน่ายให้กับแรงงานต่างด้าวผู้ใช้แรงงานในพื้นที่ จ.สมุทรสาคร จากการสืบสวนเพิ่มเติมทราบว่าคนต่างด้าวดังกล่าวเช่าห้องพักบริเวณ ต.โคกขาม อ.เมือง จ.สมุทรสาคร และต้มน้ำพืชกระท่อมภายในห้องพักดังกล่าวด้วย ชุดจับกุมจึงได้เดินทางไปตรวจสอบเมื่อไปถึงห้องพักดังกล่าวพบบุคคลลักษณะคล้ายต่างด้าวทราบชื่อภายหลังว่าชื่อ MR.THAN กำลังยืนต้มน้ำพืชกระท่อมภายในห้องโดยบริเวณใกล้เคียงนั้นมีคนต่างด้าวหลายคนมานั่งรอเพื่อซื้อน้ำกระท่อมกิน
ซึ่งเมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ก็พากันวิ่งหลบหนีและผู้ถูกจับก็พยายามจะวิ่งหนีแต่ถูกชุดจับกุมควบคุมตัวไว้เมื่อตรวจสอบภายในห้องพบ น้ำต้มพืชกระท่อมบรรจุในถังสีฟ้า 4 ถัง,น้ำต้มพืชกระท่อมบรรจุในหม้อต้มขนาด 40 ลิตร,ใบกระท่อมสดประมาณ 1 กก. และยาแก้ไอชนิดน้ำเชื่อม จำนวน 23 ขวด รวมน้ำพืชกระท่อมน้ำหนักประมาณ 260 ลิตร โดยรับสารภาพว่าตนเองเป็นเจ้าของซึ่งของกลางที่ถูกตรวจพบนี้จะจำหน่ายหมดภายในเวลา 2 วันและจะขายได้ประมาณ 50,000 บาท โดยได้ลักลอบต้มพืชกระท่อมจำหน่ายมาเป็นเวลาประมาณ 1 ปี จึงได้แจ้งข้อกล่าวและสิทธิของผู้ต้องหาให้ทราบ ในชั้นจับกุมผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้จับกุมตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางซึ่งใช้ในการกระทำความผิด นำส่ง พงส. เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองขอเรียนให้ท่านทราบว่า เรามีมาตรการในการตรวจสอบ กวดขันและจับกุมปราบปรามการกระทำความผิดในด้านต่างๆ รวมทั้งดำเนินการตรวจสอบชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม กระทำผิดกฎหมาย ก่อเหตุอันตรายต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิตทรัพย์สินของประชาชน ทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศชาติ หากประชาชนท่านใดพบเห็นเบาะแสการกระทำความผิด กรุณาแจ้งมายัง สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เลขที่ 507 ซ.สวนพลู แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กรุงเทพมหานคร 10120 หรือที่หมายเลขโทรศัพท์ 1178 หรือที่ www.immigration.go.th จักขอบพระคุณเป็นอย่างยิ่ง
สุรเชษฐ ศิลานนท์ รายงาน