เกษตรจังหวัดนครพนม เปิดเวทีเชื่อมโยงดำเนินงานคณะกรรมการเครือข่าย ศพก. และแปลงใหญ่ เน้นพัฒนาและต่อยอดสินค้าเกษตรสร้างมูลค่าเพิ่ม รวมกลุ่มเข้มแข็ง
วันที่ 1 กันยายน 2563 ที่ศูนย์สารสนเทศยางพารานครพนม สำนักงานเกษตรจังหวัดนครพนม อำเภอเมืองนครพนม จังหวัดนครพนม นายวินัย คงยืน หัวหน้ากลุ่มส่งเสริมและพัฒนาการผลิต เป็นประธานการประชุมเชื่อมโยงการดำเนินงานคระกรรมการเครือข่าย ศพก. และแปลงใหญ่ ระดับจังหวัด ครั้งที่ 4/2563 ภายใต้โครงการระบบส่งเสริมการเกษตรแบบแปลงใหญ่ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 เพื่อให้เกิดการเชื่อมโยงการดำเนินงานของคณะกรรมการแปลงใหญ่ คณะกรรมการศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร ในการรับทราบถึงปัญหาและอุปสรรคในการขับเคลื่อนงานในพื้นที่ รวมถึงการกำหนดทิศทางการดำเนินงานให้สอดคลองกับนโยบายของรัฐบาล ซึ่งในปีงบประมาณ 2563 มีกำหนดดำเนินการจำนวน 4 ครั้ง โดยมีบุคคลเป้าหมายคือ ประธาน ศพก. ประธานแปลงใหญ่ และเจ้าเจ้าหน้าที่ผู้ดูแลแปลงใหญ่ในพื้นที่แต่ละอำเภอ รวม 36 ราย เข้าร่วมการประชุมเชื่อมโยงในครั้งนี้
นายวินัย คงยืน หัวหน้ากลุ่มส่งเสริมและพัฒนาการผลิต เปิดเผยว่า สำหรับวัตถุประสงค์ในการจัดประชุมเชื่อมโยงการทำงานในครั้งนี้ เพื่อร่วมกันบูรณาการการขับเคลื่อนงานในพื้นที่ให้เกิดประสิทธิภาพรวมถึงการสร้างการรับรู้งานตามนโยบายของรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาภาคการเกษตร โดยเน้นให้เกิดการรวมกลุ่มกันผลิต และลดต้นทุนในการผลิต ทำให้ผลผลิตมีคุณภาพและมีความปลอดภัยเป็นที่ยอมรับของผู้บริโภค โดยใช้หลัก การตลาดนำการผลิต ซึ่งจะต้องมีการวางแผนการผลิตที่ชัดเจนและพัฒนาผลผลิตให้มีคุณภาพเป็นที่ต้องการของตลาดร่วมกัน สำหรับการตลาดที่ประสบความสำเร็จ ทั้งศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร และการส่งเสริมการเกษตรแบบแปลงใหญ่ แต่ละอำเภอจะต้องมีการจัดทำแผนร่วมกันถึงทิศทางการดำเนินงานที่ชัดเจน และการจัดทำแผนการผลิตทั้งรายบุคคลและรายแปลง เพื่อให้ข้อมูลเป็นระบบ สามารถใช้ประโยชน์ได้ง่ายในการพัฒนาภาคการเกษตรในพื้นที่
ทั้งนี้การขับเคลื่อนงานโครงการส่งเสริมการเกษตรแบบแปลงใหญ่ และศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร ที่ผ่านมานับว่าประสบความสำเร็จในการพัฒนาให้มีการสร้างเครือข่ายและรวมกลุ่มกันอย่างเข้มแข็ง ซึ่งต้องเร่งผลักดันและดำเนินการขับเคลื่อนการพัฒนาและยกระดับสินค้าเกษตรให้มีคุณภาพและเป็นความต้องการของตลาด สร้างรายได้อย่างยั่งยืน โดยพัฒนาสินค้าเด่นให้มีคุณภาพเป็นที่ยอมรับขอผู้บริโภคมากยิ่งขึ้น
เทพพนม รายงาน