ข่าวใหม่อัพเดท » “นครพนม มดลูกพันธุ์ปลาแม่น้ำโขง” แม่น้ำสงครามตอนล่าง ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นพื้นที่ชุ่มน้ำ ที่มีความสำคัญระหว่างประเทศ Ramsarsite ลำดับ 15 ของประเทศไทย

“นครพนม มดลูกพันธุ์ปลาแม่น้ำโขง” แม่น้ำสงครามตอนล่าง ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นพื้นที่ชุ่มน้ำ ที่มีความสำคัญระหว่างประเทศ Ramsarsite ลำดับ 15 ของประเทศไทย

13 สิงหาคม 2020
0

“ นครพนม มดลูกพันธุ์ปลาแม่น้ำโขง” แม่น้ำสงครามตอนล่าง ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นพื้นที่ชุ่มน้ำ ที่มีความสำคัญระหว่างประเทศ Ramsarsite ลำดับ 15 ของประเทศไทย

วันที่ 13 สิงหามคม 2563 เวลา 10.00 น. ณ ห้องประชุม I Hall 1 โรงแรมไอโฮเทล ถนนทางหลวงแผ่นดิน 212 (ถนนชยางกูร) บ้านหนองจันทร์ ต.ท่าค้อ อ.เมือง จ.นครพนม มีพิธีมอบใบประกาศรับรองพื้นที่ชุ่มน้ำแม่น้ำสงครามตอนล่าง จังหวัดนครพนม ที่ได้รับการประกาศขึ้นทะเบียนเป็นพื้นที่ชุ่มน้ำ ที่มีความสำคัญระหว่างประเทศ หรือ Ramsar site # 2420 โดย นายสมชาย ชำนิ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม ได้กล่าวต้อนรับ นางรวีวรรณ ภูริเดช เลขาธิการสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม CEO ธนาคาร HSBC, CEO WWF Thailand และแขกผู้มีเกียรติ โดยมีหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สถาบันศึกษาผู้นำชุมชนในพื้นที่แม่น้ำสงครามตอนล่าง ร่วมให้การต้อนรับ

จากนั้น CEO ธนาคาร HSBC ได้กล่าวถึงการสนับสนุนงบประมาณแก่องค์กร WWF Thailand เพื่อใช้สำหรับการดำเนินงานโครงการฟื้นฟูพื้นที่ชุ่มน้ำแม่น้ำสงครามตอนล่าง และการเสนอขึ้นทะเบียน Ramsar site เป็นอันดับที่ 15 ของประเทศไทย โดย นายยิ่งยง วิทยานานันท์ ผู้บริหารฝ่ายองค์กรสัมพันธ์ ในฐานะผู้แทน CEO WWF Thailand กล่าวขอบคุณสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมและจังหวัดนครพนม ที่ให้การสนับสนุนการดำเนินงาน ตลอดจนธนาคาร HSBC เพราะที่ผ่านมาได้ให้การสนับ สนุน งบประมาณดำเนินงานจัดการทรัพยากรน้ำจืดและพื้นที่ชุ่มน้ำ จนกระทั่งแม่น้ำสงครามตอนล่าง(รวม 92กิโลเมตร)ได้รับการประกาศขึ้นทะเบียนเป็นพื้นที่ชุ่มน้ำฯ

ต่อมา นายยรรยงศรีเจริญ หัวหน้าฝ่ายอนุรักษ์ทรัพยากรน้ำจืด WWF ประเทศไทย นำเสนอวีดีทัศน์สรุปผลการดำเนินงานฟื้นฟูพื้นที่ชุ่มน้ำสงครามตอนล่างและขั้นตอนกระบวนการ กรณี การเสนอพื้นที่ชุ่มน้ำสงครามตอนล่าง เพื่อขึ้นทะเบียนเป็นพื้นที่ชุ่มน้ำ ที่มีความสำคัญระหว่างประเทศ หรือ Ramsarsite (แรมซาร์ไซต์) จนถึงขั้นตอนสำคัญ นางรวีวรรณ ภูริเดช เลขาธิการสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้มอบใบประกาศรับรองพื้นที่ชุ่มน้ำแม่น้ำสงครามตอนล่าง จังหวัดนครพนม ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นพื้นที่ชุ่มน้ำที่มีความสำคัญระหว่างประเทศ หรือ Ramsarsite # 2420 และ นายสมชาย ชำนิ รอง ผวจ.นครพนม ได้มอบใบประกาศเกียรติคุณแก่ CEO ธนาคาร HSBC แทนการขอบคุณด้วย

แม่น้ำสงครามตอนล่าง ขึ้นทะเบียนเป็นแรมซาร์ไซต์ (Ramsar site) ลำดับที่ 2420 ของโลก และเป็นลำดับที่ 15 ของประเทศไทย เนื้อที่ 5,504.5 เอกตาร์ โดยมีหลักเกณฑ์พิจารณา 1,2,3,4,7,8 และด้วยความสำคัญที่ทำให้ลุ่มน้ำสงครามตอนล่าง ได้ขึ้นทะเบียนเป็นแรมซาร์ไซต์ เพราะมีระบบนิเวศที่มีความสำคัญและเป็นเอกลักษณ์ที่มีความหายาก

(เกณฑ์ 1) ได้แก่ ป่าบุ่งป่าทามผืนใหญ่ มีความสำคัญในเชิงความหลากหลายทางชีวภาพของชนิดพันธุ์พืชและสัตว์ในระบบนิเวศ เป็นแหล่งที่อยู่ของพันธุ์ปลาน้ำจืด ซึ่งบางชนิดอยู่ในสถาน ภาพใกล้สูญพันธุ์ เนื่องจากตลอดลำแม่น้ำโขงของไทย ไม่มีป่าบุ่งป่าทามให้ปลาได้ใช้เป็นสถานที่อนุบาลสัตว์น้ำ และในลำน้ำสาขาของแม่น้ำโขง จะมีป่าบุ่งป่าทามอยู่ในลุ่มน้ำสงครามตอนล่างเพียงแห่งเดียวเท่านั้น จึงเป็นเสมือนมดลูกของพันธุ์สัตว์น้ำทุกชนิด

(เกณฑ์2) เป็นแหล่งประมงพื้นบ้านที่มีความสำคัญต่อความมั่นคงทางอาหารของคนในพื้นที่ ตลอดจนเป็นแหล่งอพยพเพื่อผสมพันธุ์วางไข่ของพันธุ์ปลาจากแม่น้ำโขงในช่วงฤดูน้ำหลาก

(เกณฑ์ 7 และ 8) พบความหลากหลายของพันธุ์ปลาอย่างน้อย 124 ชนิด พันธุ์พืช 208 ชนิด รวมทั้ง มีความสำคัญในเชิงวัฒนธรรมและเศรษฐกิจ

อนุสัญญาแรมซาร์ (Ramsar Convention) หรืออนุสัญญาว่าด้วยพื้นที่ชุ่มน้ำที่มีความสำคัญระหว่างประเทศได้ถูกกำหนดและตั้งชื่อตามชื่อสถานที่จัดให้มีการประชุมเพื่อรับรองอนุสัญญา เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2514 ณ เมืองแรมซาร์ ประเทศอิหร่าน อนุสัญญาดังกล่าวเป็นข้อตกลงระหว่างรัฐบาล ซึ่งกำหนดกรอบการทำงานสำหรับความร่วมมือระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์แหล่งที่อยู่อาศัยที่เป็นพื้นที่ชุ่มน้ำ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อการอนุรักษ์และการใช้ประโยชน์พื้นที่ชุ่มน้ำอันเป็นการอนุรักษ์ถิ่นที่อยู่อาศัยของนกน้ำ

ต่อมาขอบเขตการดำเนินการของอนุสัญญาฯ ได้ขยายครอบคลุมกว้างขึ้น โดยเน้นการอนุรักษ์ และการใช้ประโยชน์ของพื้นที่ชุ่มน้ำอย่างชาญฉลาดในทุกๆ ด้าน ตลอดจนเพื่อยับ ยั้งการสูญหายของพื้นที่ชุ่มน้ำในโลก โดยมีพันธกิจที่สำคัญในการดำเนินงานระดับชาติ โดยความร่วมมือระดับนานาชาติเพื่อก่อให้เกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืนในทุกภูมิภาคของโลก
อนุสัญญาฯ มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2514 และเพื่อให้เกิดความตระหนักถึงคุณค่าและความสำคัญของพื้นที่ชุ่มน้ำ จึงได้กำหนดให้ทุกวันที่ 2 กุมภาพันธ์ของทุกปี เป็นวันพื้นที่ชุ่มน้ำโลก (WorldWetlands Day)

โดยประเทศไทยได้เข้าเป็นภาคีอนุสัญญาแรมซาร์เป็นลำดับที่ 110 มีพื้นที่ชุ่มน้ำ ที่ได้ขึ้นทะเบียนเป็นแรมซาร์ไซต์ (RamsarSite) มีดังนี้

  1. พรุควนขี้เสี้ยน ในเขตห้ามล่าสัตว์ป่าทะเลน้อยพัทลุง
  2. เขตห้ามล่าสัตว์ป่าบึงโขงหลง บึงกาฬ
  3. ดอนหอยหลอด สมุทรสงคราม
  4. ปากแม่น้ำกระบี่
  5. เขตห้ามล่าสัตว์ป่าหนองบงคาย เชียงราย
  6. เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพฯ (พรุโต๊ะแดง) นราธิวาส
  7. อุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม-หมู่เกาะลิบง-ปากน้ำตรัง
  8. อุทยานแห่งชาติแหลมสน-ปากแม่น้ำกระบุรี-ปากคลองกะเปอร์ ระนอง
  9. อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทอง สุราษฎร์ธานี
  10. อุทยานแห่งชาติอ่าวพังงา
  11. อุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด ประจวบคีรีขันธ์
  12. กุดทิง บึงกาฬ
  13. เกาะกระนครศรีธรรมราช
  14. เกาะระ เกาะพระทอง พังงา
  15. แม่น้ำสงครามตอนล่าง นครพนม

เทพพนม. รายงาน

error: Content is protected !!