ข่าวใหม่อัพเดท » วัชระร้องนายกฯ สั่งเร่งเก็บกู้ขยะพิษ จมใต้ทะเลจากเรือเฟอรี่ล่มที่เกาะสมุย ชี้สร้างผลกระทบสวล.และการท่องเที่ยวอย่างใหญ่หลวง

วัชระร้องนายกฯ สั่งเร่งเก็บกู้ขยะพิษ จมใต้ทะเลจากเรือเฟอรี่ล่มที่เกาะสมุย ชี้สร้างผลกระทบสวล.และการท่องเที่ยวอย่างใหญ่หลวง

4 สิงหาคม 2020
0

วัชระร้องนายกฯ สั่งเร่งเก็บกู้ขยะพิษจมใต้ทะเลจากเรือเฟอรี่ล่มที่เกาะสมุย ชี้สร้างผลกระทบสวล.และการท่องเที่ยวอย่างใหญ่หลวง

(4ก.ค.63) เมื่อเวลา 13.30 น. นายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.ประชาธิปัตย์ ยื่นหนังสือถึงพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ผ่านนายสมพาศ นิลพันธ์ ที่ปรึกษาสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ให้เร่งรีบดำเนินการเก็บกู้ขยะจำนวน 50 ตันจากเรือราชาเฟอรี่ 4 ล่มที่เมื่อเวลา 22.00น. วันที่ 1 สิงหาคมที่ผ่านมา 2563 ที่บริเวณเกาะสี่เกาะห้า อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี ทำให้รถบรรทุกพ่วง 3 คัน ที่บรรทุกขยะอัดก้อนหนักประมาณ 50 ตัน จมลงทะเลนั้น ซึ่งขยะดังกล่าวมีทั้งขยะอันตราย ขยะพิษ พลาสติกและสิ่งปฏิกูลทั่วไป การที่เรือล่มลงสู่ใต้ท้องทะเล อาจทำให้ขยะรั่วซึมหรือแตกกระจายสู่ท้องทะเลและอาจถูกคลื่นซัดสู่ฝั่งในอำเภอเกาะสมุยและบริเวณใกล้เคียง ส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศน์ทางทะเลและกระทบกระเทือนต่อการท่องเที่ยวซึ่งเป็นจุดขายของ อ.เกาะสมุยได้ และสำคัญที่สุดคือการรั่วซึมหรือการกระจัดกระจายของขยะอาจส่งผลกระทบต่อสิ่งมีชีวิตในท้องทะเลอ่าวบ้านดอนและกระทบต่อชีวิตของประชาชนตลอดแนวชายฝั่งและผู้บริโภคอาหารทะเลในอนาคต

นายวัชระ กล่าวว่า จำนวนขยะ 50 ตันดังกล่าวไม่ทราบว่าเป็นจำนวนต่อหนึ่งคันรถบรรทุกพ่วงหรือเป็นจำนวนขยะทั้งหมด เพราะคนในวงการรถบรรทุกระบุว่าต่อหนึ่งคันรถพ่วงบรรทุกขยะได้ถึง 30 ตัน ถ้า 3 คัน ก็ 90 ตันซึ่งปัญหาการขนขยะทางเรือจากเกาะสมุยไปสุราษฎร์ธานีได้รับการเตือนจากผู้ห่วงใยตั้งแต่ก่อนเริ่มโครงการฯให้ระมัดระวังว่าอาจเกิดอุบัติเหตุแล้วจะกระทบถึงการท่องเที่ยวของอ.เกาะสมุย อ.ดอนสัก และบริเวณอ่าวบ้านดอนในที่สุด เมื่อเกิดเหตุขึ้นมา ก็ไม่มีการเร่งรีบเก็บกู้ขยะดังกล่าว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวเอาหูไปนาเอาตาไปไร่ไม่ได้ใส่ใจไปแก้ไขปัญหาโดยเร็ว ทั้งๆที่เรื่องนี้กระทบกระเทือนในภารกิจหลักของกระทรวงที่ตนเองรับผิดชอบ

จึงขอให้นายกรัฐมนตรี สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดเร่งรีบดำเนินการเก็บกู้ขยะจำนวน 50 ตัน หรืออาจมากกว่านั้นให้ขึ้นบกโดยเร็วที่สุด และให้มีมาตรการป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาเช่นนี้อีกเป็นอันขาดเพราะจะกระทบกับระบบนิเวศน์ในทะเลอย่างใหญ่หลวงและกระทบต่อการท่องเที่ยวของภาคใต้และการบริโภคอาหารทะเลของประชาชนโดยทั่วไปได้ และต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงว่ามีการปกปิดข้อมูลหรือไม่ มีขยะจมทะเลทั้งหมดเท่าใด เป็นขยะพิษเท่าใด และต้องดำเนินการทางกฎหมายอย่างเฉียบขาดในกรณีด้วย เพื่อรักษาผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชน


error: Content is protected !!