ข่าวใหม่อัพเดท » DSI ตรวจค้น บจ.กาม้าล มีทโปร ดักส์ ​ลักลอบนำเข้าเนื้อวัวหรือซากวัวจากต่างประเทศ โดยไม่ได้รับอนุญาตจากกรมปศุสัตว์

DSI ตรวจค้น บจ.กาม้าล มีทโปร ดักส์ ​ลักลอบนำเข้าเนื้อวัวหรือซากวัวจากต่างประเทศ โดยไม่ได้รับอนุญาตจากกรมปศุสัตว์

10 กรกฎาคม 2020
0

DSI ตรวจค้น บจ.กาม้าล มีทโปรดักส์​ลักลอบนำเข้าเนื้อวัวหรือซากวัวจากต่างประเทศ โดยไม่ได้รับอนุญาตจากกรมปศุสัตว์

วันที่ 9 กรกฏาคม 2563 : กรมสอบสวนคดีพิเศษลงพื้นที่ตรวจค้น บริษัท กาม้าล มีทโปรดักส์ จำกัด ตั้งอยู่ที่เลขที่ 109/1 หมู่ 6 ตำบลลุมพลี อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรี อยุธยา เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานในคดีพิเศษที่ 14/2563 กรณีการหลีกเลี่ยงหรือลักลอบนำเข้าเนื้อวัวหรือซากวัวส่วนอื่นๆ จากต่างประเทศ โดยไม่ได้รับอนุญาตจากกรมปศุสัตว์ มูลค่าความเสียหายสินค้ากว่า 130 ล้านบาท

กรณีดังกล่าว สืบเนื่องจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ โดยกองคดีภาษีอากร ได้รับการร้องเรียนจากประชาชนว่ามีขบวนการลักลอบนำเข้าเนื้อวัวหรือซากวัวส่วนอื่นๆ จากต่างประเทศเข้ามาในประเทศไทย หรือมีการหลีกเลี่ยงนำเข้าเนื้อวัวหรือซากวัวส่วนอื่น​ๆ โดยผ่านพิธีการศุลกากร แต่ผู้นำเข้าไม่ได้ขออนุญาตจากอธิบดีกรมปศุสัตว์ให้นำเข้าเนื้อวัวหรือซากวัว จากกรณีดังกล่าวมีผลกระทบโดยตรงกับประชาชนที่บริโภคเนื้อสัตว์ซึ่งผู้นำเข้าลักลอบหรือหลีกเลี่ยงการนำเข้า เนื่องจากหากผู้นำเข้าเนื้อวัวหรือซากวัวส่วนอื่นๆ โดยถูกต้องจะต้องผ่านขั้นตอนการพิจารณาตรวจสอบตามพระราชบัญญัติโรคระบาดสัตว์ พ.ศ.2558

กล่าวคือ ผู้ขอใบอนุญาตจะต้องเชิญเจ้าหน้าที่กรมปศุสัตว์เดินทางไปตรวจรับรองแหล่งผลิตสัตว์หรือซากสัตว์ ณ ประเทศแหล่งกำเนิดหรือซากสัตว์ และสัตว์ ซึ่งเป็นมาตรการเพื่อป้อง กันเชื้อโรคระบาดสัตว์จากต่างประเทศ ซึ่งอาจติดมากับสินค้าปศุสัตว์(ซากสัตว์) ที่เป็นพาหะของโรคระบาด อันส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนผู้บริโภคโดยตรง และจากกรณีดังกล่าวอาจเป็นความผิดตามกฎหมายว่าด้วยศุลกากรและตามกฎหมาย​ โรคระบาดสัตว์​ กรมสอบสวนคดีพิเศษจึงได้ทำการสืบสวนขยายผลเพื่อหาตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดี

จากการสืบสวนทราบว่า ระหว่างวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2556 ถึงวันที่ 24 เมษายน 2562 ต่อเนื่องกัน บริษัท กาม้าล มีทโปรดักส์ จำกัด ได้นำเข้าสินค้าประเภท สัตว์หรือซากสัตว์ (เนื้อวัว โค หรือชิ้นส่วนต่างๆ ของวัว โค) จำนวน 226 ใบขนสินค้า สำแดงสินค้าในพิกัดศุลกากร 0262900 ชำระอากรขาเข้าร้อยละ 30 แต่จากการตรวจสอบใบขนสินค้าขาเข้าของบริษัทฯ กับใบอนุญาตนำเข้าเนื้อวัวและชิ้นส่วนของวัวที่กรมปศุสัตว์อนุญาตให้บริษัทฯ นำเข้า ปรากฏข้อเท็จจริงเบื้องต้นว่า สินค้าประเภทเนื้อวัวหรือ ซากสัตว์ที่บริษัทฯ นำเข้ามาโดยไม่ได้รับอนุญาตจากกรมปศุสัตว์ จำนวน 158 ใบขน ปริมาณนำเข้าทั้งสิ้น​ 3,539,375.44 กิโลกรัม มูลค่าการนำเข้า 100,704,962.66 บาท ค่าอากรขาเข้า 29,824,995.61 บาท รวมมูลค่าสินค้าและค่าอากรเป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 130,529,958.27 บาท

จากพฤติการณ์ดังกล่าวเข้าข่ายเป็นการกระทำความผิดฐาน “นำเข้าซึ่งสัตว์หรือซากสัตว์โดยไม่ได้รับอนุญาต ตามมาตรา 31 ประกอบมาตรา 68 แห่งพระราชบัญญัติโรคระบาดสัตว์ พ.ศ. 2558 มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และฐาน “นำของที่ผ่านพิธีการศุลกากรเข้ามาในราชอาณาจักรโดยหลีกเลี่ยงข้อจำกัดอันเกี่ยวกับของนั้น” ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี หรือปรับไม่เกินห้าแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามมาตรา 244 ตามพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ.2560 ซึ่งสินค้าดังกล่าวเป็นสินค้าประเภทซากสัตว์ตามพระราชบัญญัติโรคระบาดสัตว์ พ.ศ.2558 ที่ต้องได้รับใบอนุญาตจากอธิบดีกรมปศุสัตว์หรือผู้ที่อธิบดีมอบหมายทุกครั้งที่นำเข้ามาในราชอาณาจักร

และเมื่อบริษัท กาม้าล มีทโปรดักส์ จำกัด กับพวก ไม่ได้รับอนุญาตให้นำสินค้าเข้ามาในราชอาณาจักร สินค้าดังกล่าวจึงเป็นของต้องกำกัด ตามพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ.2560 ดังนั้นการกระทำของ บริษัท กาม้าล มีทโปรดักส์ จำกัด กับพวก เข้าข่ายเป็นความผิดฐานนำของเข้ามาในราชอาณาจักรโดยสำแดงเท็จและหลีกเลี่ยงข้อห้าม ข้อจำกัด ตามมาตรา 202 มาตรา 244 แห่งพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2560 ฐานนำเข้าสัตว์หรือซากสัตว์โดยไม่ได้รับอนุญาต ตามมาตรา 31 ประกอบมาตรา 68 แห่งพระราชบัญญัติโรคระบาดสัตว์ พ.ศ. 2558 และมาตรา 83 มาตรา 91 แห่งประมวลกฎหมายอาญา อันอาจเป็นคดีพิเศษตามพระราชบัญญัติการสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ.2547 มาตรา 21 วรรคหนึ่ง (1)

ซึ่งต่อมาอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษได้อนุมัติให้รับเป็นคดีพิเศษที่ 14/2563​ กรมสอบสวนคดีพิเศษ ตระหนักถึงการป้องกันเชื้อโรคระบาดจากต่างประเทศ ซึ่งอาจติดมากับสินค้าปศุสัตว์ (ซากสัตว์) ที่เป็นพาหะของโรคระบาด และมีความห่วงใยในสุขภาพอนามัยของประชาชน โดยเฉพาะในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) เนื่องจากหากเกิดการระบาดของโรคติดต่ออื่น ย่อมเป็นการซ้ำเติมประชาชน ตลอดจนอาจส่งผลต่อระบบสาธารณสุขของประเทศด้วย

ทั้งนี้ หากประชาชนมีข้อมูลหรือเบาะแส สามารถแจ้งมายังกรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้ที่สายด่วน DSI Call Center 1202 (โทรฟรีทั่วประเทศ) โดยกรมสอบสวนคดีพิเศษจะเก็บรักษาข้อมูลผู้แจ้งเบาะแสไว้เป็นความลับ


สุรเชษฐ​ ศิลา​นนท์​ รายงาน​

error: Content is protected !!