ข่าวใหม่อัพเดท » ชุดปฏิบัติการ ศปป.๔ กอ.รมน.รายงาน การปฏิบัติการ ป้องกัน และปราบปรามการลักลอบตัดไม้ทำลายป่า และการบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติในพื้นที่ จ.เพชรบูรณ์

ชุดปฏิบัติการ ศปป.๔ กอ.รมน.รายงาน การปฏิบัติการ ป้องกัน และปราบปรามการลักลอบตัดไม้ทำลายป่า และการบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติในพื้นที่ จ.เพชรบูรณ์

30 มิถุนายน 2020
0

ชุดปฏิบัติการ ศปป.๔ กอ.รมน.ขอรายงานการปฏิบัติการ เพื่อป้องกัน และปราบปรามการลักลอบตัดไม้ทำลายป่า และการบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติในพื้นที่ จ.เพชรบูรณ์ ดังนี้

๑. วันที่ ๒๙ มิถุนายน ๒๕๖๓ เวลา ๑๑๐๐ คณะเจ้าหน้าที่นำโดย พ.อ.พงษ์เพชร เกษสุภะ หัวหน้าชุดปฏิบัติการ ศปป.๔ กอ.รมน.ร่วมกับ นายสมชาย ฉิมแย้ม หัวหน้าฐานปฏิบัติการพยัคฆ์ไพรภาคเหนือ/หน.นปพ.เขาค้อ ได้บูรณาการหน่วยงานในพื้นที่ ประกอบด้วย เจ้าหน้าที่โรงเรียนเกษตรอินทรีย์เขาค้อ อันเนื่องมากจากโครงการพัฒนาลุ่มน้ำเข็กตามพระราชดำริ, เจ้าหน้าที่ ชป.ศูนย์อำนวยการประสานงานการแก้ไขปัญหาพื้นที่โครงการลุ่มน้ำเข็ก, หน่วยป้องกันและพัฒนาป่าไม้เขาค้อ, หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ พช.๒ (เขาค้อ), เจ้าหน้าที่ชุดพยัคฆ์ไพร กรมป่าไม้ และฝ่ายปกครอง ม.๑ ต.สะเดาะพง อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ เพื่อร่วมกันตรวจสอบพื้นที่บุกรุกตามที่ได้รับแจ้ง

๒. คณะเจ้าหน้าที่ได้ร่วมกันตรวจสอบพื้นที่กองทัพภาคที่ ๓ (กองพลทหารม้าที่ ๑) ขออนุญาตเข้าทำประโยชน์เพื่อใช้เป็นพื้นที่โรงเรียนเกษตรอินทรีย์เขาค้อฯ จำนวน ๑๐๙ – ๓ – ๒๕ ไร่ ซึ่งปัจจุบันยังอยู่ในขั้นตอนการขออนุญาต โดยพื้นที่ตรวจสอบอยู่นอกผังแปลง รอส.ในเขตป่าสงวน- แห่งชาติ ป่าเขาปางก่อและป่าวังชมภู ท้องที่บ้านเขาย่า หมู่ที่ ๑ ต.สะเดาะพง อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ ตามที่ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ทหารโรงเรียนเกษตรอินทรีย์เขาค้อฯ ว่ามีการบุกรุกพื้นที่ป่าและปลูกพืชเกษตรโดยไม่ได้รับอนุญาต ผลการตรวจสอบพบว่า
๒.๑ พื้นที่บริเวณป่าท้ายบ้านเขาย่าด้านทิศตะวันออก ติดทางหลวงหมายเลข ๒๒๕๘
ท้องที่บ้านเขาย่า หมู่ ๑ ต.สะเดาะพง อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ ได้มีบุกรุกแผ้วถางพื้นที่ ไถพรวนและปลูกพืชเกษตร เช่น อะโวกาโด กล้วย ข้าวไร่ ฯลฯ แต่ไม่พบบุคคลใดในบริเวณดังกล่าว สอบถามเจ้าหน้าที่ทหารโรงเรียนเกษตรอินทรีย์เขาค้อฯ แจ้งว่าบริเวณดังกล่าวเป็นพื้นที่ซึ่งอยู่ในเขตโรงเรียน ซึ่งได้รับอนุญาตจากกองทัพภาคที่ ๓ ให้จัดตั้งโรงเรียนเกษตรอินทรีย์เขาค้อตามพระราชดำริ เพื่อส่งเสริมพัฒนาอาชีพราษฎรตามโครงการพัฒนาลุ่มน้ำเข็ก ตั้งแต่ปี พ.ศ.๒๕๔๖ จนถึงปัจจุบัน และบริเวณพื้นที่ตรวจสอบเป็นพื้นที่ทำกินของนายสุวรรณ เนตรแสงสี ราษฎรบ้านเลขที่ ๗๐ ม.๑ ต.สะเดาะพง อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ ซึ่งได้เข้ามาทำกินเมื่อประมาณปี พ.ศ.๒๕๖๐ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้แจ้งให้นายสุวรรณฯ มายื่นใบสมัครเข้าร่วมโครงการปลูกพืชผัก ข้าวไร่ฯ ของโรงเรียนฯ แต่นายสุวรรณฯ ไม่ยินยอมยื่นใบสมัครเข้าร่วมโครงการ และยังคงยึดครองพื้นที่ปลูกไม้ยืนต้นอันขัดต่อหลักเกณฑ์และข้อกำหนดของโรงเรียนฯ ซึ่งเจ้าหน้าที่โรงเรียนฯ ได้ว่ากล่าวตักเตือนและแจ้งให้รื้อถอนไม้ยืนต้นหลายครั้งแต่นายสุวรรณฯ ยังคงฝ่าฝืนยึดถือครองครองพื้นที่ต่อจนคณะเจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบ
๒.๒ เมื่อวันที่ ๘ กรกฎาคม ๒๕๖๒ เจ้าหน้าที่ป่าไม้หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ พช.๒ (เขาค้อ) ได้รับแจ้งให้เข้ามาตรวจสอบพื้นที่บริเวณดังกล่าวซึ่งได้ปรากฏนายสุวรรณ เนตรแสงสี มานำชี้ขอบเขตพื้นที่ครอบครองและอ้างว่าเป็นพื้นที่ทำกินของตนเอง โดยเจ้าหน้าที่ได้รังวัดค่าพิกัดพื้นที่นายสุวรรณฯ นำชี้ด้วยเครื่องมือหาค่าพิกัดด้วยสัญญาณดาวเทียม(จีพีเอส) จำนวน ๗ จุด เนื้อที่ ๑๐–๒–๓๖ ไร่ นำมาตรวจสอบพบว่าเป็นพื้นที่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าเขาปางก่อและป่าวังชมภู คุณภาพลุ่มน้ำชั้นที่ ๓ ซึ่งกองทัพภาคที่ ๓ เคยได้รับอนุญาตให้ใช้พื้นที่ในเขตป่าไม้ถาวรฯ ป่าหมายเลข ๒๒ ในปี พ.ศ.๒๕๒๐ จนส่งคืนพื้นที่ทั้งหมดให้กรมป่าไม้ในปี พ.ศ.๒๕๖๒ แต่กองทัพภาคที่ ๓ (กองพลทหารม้าที่ ๑) ได้ขออนุญาตใช้พื้นที่ดำเนินกิจกรรมต่อบางส่วนรวมทั้งพื้นที่โรงเรียนเกษตรอินทรีย์ฯด้วย

๓. การกระทำของนายสุวรรณฯ เป็นกระทำผิดกฎหมายว่าด้วยการป่าไม้ ต่อไปนี้
​ ๓.๑ พระราชบัญญัติป่าไม้ พุทธศักราช ๒๔๘๔ มาตรา ๕๔ ฐาน “ก่อสร้าง แผ้วถาง หรือเผาป่าหรือกระทำด้วยประการใดๆ อันเป็น การทำลายป่าหรือเข้ายึดถือครอบครองป่าเพื่อตนเองหรือผู้อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาตฯ”, มาตรา ๕๕ ฐาน “ผู้ใดครอบครองป่าที่ได้ถูกแผ้วถางโดยฝ่าฝืนต่อบทบัญญัติแห่งมาตราก่อน ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าบุคคลนั้นเป็นผู้แผ้วถางป่านั้น”
๓.๒ พระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๐๗ และแก้ไขเพิ่มเติม มาตรา ๑๔ ฐาน
“ยึดถือครอบครองทำประโยชน์หรืออยู่อาศัยในที่ดิน ก่นสร้าง แผ้วถาง เผาป่า ทำไม้ หรือกระทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการเสื่อมเสียแก่สภาพป่าสงวนแห่งชาติโดยไม่ได้รับอนุญาตฯ”, ​​มาตรา ๒๖/๔ ฐาน “ผู้ใดกระทำหรือละเว้นการกระทำด้วยประการใดโดยมิชอบด้วยกฎหมาย อันเป็นหรือทำให้สูญหายหรือเสียหายแก่ทรัพยากรธรรมชาติในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ผู้นั้นมีหน้าที่ต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหายตามมูลค่าทั้งหมดของทรัพยากร
ธรรมชาติที่สูญหาย หรือเสียหายไปนั้น”

๔. ได้ร่วมกันตรวจยึดพื้นที่ป่าถูกบุกรุกยึดถือครอบครอง จำนวน ๑๐ – ๒ – ๓๖ ไร่ คิดค่าเสียหายเบื้องต้น เป็นเงิน ๗๒๒,๗๐๖.๓๐ บาท เหตุเกิดที่บริเวณป่าหลังบ้านเขาย่า ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าเขาปางก่อและป่าวังชมภู บริเวณพื้นที่กองทัพภาคที่ ๓ (กองพลทหารม้าที่ ๑) ขออนุญาตเข้าทำประโยชน์เพื่อใช้เป็นพื้นที่โรงเรียนเกษตรอินทรีย์เขาค้อฯ ท้องที่บ้านเขาย่า หมู่ที่ ๑ ต.สะเดาะพง อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ โดยมอบให้นายบุญสม โตแทนสมบัติ หน.หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ พช.๒ (เขาค้อ)เป็นผู้ร้องทุกข์ กล่าวโทษดำเนินคดีนายสุวรรณฯ และผู้ที่เกี่ยวข้อง ที่ สภ.เขาค้อ ตาม ปจว.

————————-

พ.อ.พงษ์เพชรเกษสุภะ
หัวหน้าชุดปฏิบัติการ ศปป.๔ กอ.รมน.
รายงาน

error: Content is protected !!