ข่าวใหม่อัพเดท » นนทบุรี – ชีวิตจริงยิ่งกว่าละคร เด็กชายวัย 14 ปี ร้องทนายชื่อดัง หลังแม่ถูกรถชนจนพิการ พ่อมีเมียใหม่ แถมถูกประกันภัยเบี้ยวค่ารักษา

นนทบุรี – ชีวิตจริงยิ่งกว่าละคร เด็กชายวัย 14 ปี ร้องทนายชื่อดัง หลังแม่ถูกรถชนจนพิการ พ่อมีเมียใหม่ แถมถูกประกันภัยเบี้ยวค่ารักษา

6 พฤษภาคม 2020
0

ชีวิตจริงยิ่งกว่าละคร เด็กชายวัย 14 ปี ร้องทนายชื่อดัง หลังแม่ถูกรถชนจนพิการ พ่อมีเมียใหม่ แถมถูกประกันภัยเบี้ยวค่ารักษา

เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 6 พ.ค. 63 ที่สำนักงานทนายความคู่ใจ ถ.แจ้งวัฒนะ ต.คลองเกลือ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ด.ช.ภูริภัทณ์ หรือน้องหมีพลู ศรีทองคำ อายุ 14 ปี พร้อมด้วย น.ส. ศศิธร หรือน้องแตงโม ศรีทองคำ อายุ 21 ปี สองพี่น้อง อยู่บ้านเลขที่ 32 หมู่ 3 ต.วังน้ำเย็น อ.เมือง จ.นครปฐม เดินทางเข้าร้องทุกข์ขอความเป็นธรรมกับ นายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายทวงคืนความยุติธรรมในสังคม เพื่อให้ข้อมูลรายละเอียดกับทนายคนดัง หลังจากน้องหมีพลู ได้เขียนจดหมายขอความช่วยเหลือโดยมีใจความว่า “แม่ผมโดนรถชนวันที่ 31 ส.ค.62 มีอาการคือหัวไหล่หลุด, แขนหัก, ก้านคอร้าว, และเดินไม่ได้ แล้วคนชนก็มาเยี่ยม วันแรกที่ชนได้ให้เงินสดมาจำนวน 5,000 บาท และอีก 1 เดือนครึ่ง นัดเจรจาที่โรงพัก โดยทางคู่กรณีโยนความรับผิดชอบทั้งหมดให้บริษัทประกันภัยชดใช้ ซึ่งทางประกันก็ไม่ตอบตกลง และไม่มีท่าทีว่าจะรับผิดชอบแต่อย่างใด จนกระทั่งแม่ไปหาหมอเพื่อตรวจร่างกาย ซึ่งหมอเเจ้งว่า อาการของแม่หนักมาก แขนแม่ไม่มีแรง หัวไหล่รีบติดเเขนขาลีบ อาจจะรักษาไม่หาย ต้องใช้เวลา 2 หรือ 3 ปี แต่ถึงแม้จะหาย ก็อาจจะไม่กลับมาเป็นเหมือนเดิม หรือไม่ก็อาจจะพิการ ต้องใช้ระยะเวลาในการักษาค่อนข้างที่จะนานพอสมควร โดยหมอระบุในใบรับรองแพทย์ว่าให้แม่หยุดพักผ่อนเป็นเวลา 1 ปี

หลังจากเกิดเหตุแม่ต้องออกจากงาน พ่อก็ต้องหยุดงานมาดูแลแม่ ซึ่งระยะเวลา 2 เดือนที่ผ่านมา ตนกับพี่สาวต้องหยุดเรียนหนังสือ ทางคู่กรณีไม่เคยมาดูแลเลย อีกทั้งเงินที่บ้านก็ไม่มีจะใช้ พวกเราลำบากมากจนพ่อต้องกลับไปทำงานที่เดิม แม่เลยให้ตำรวจทำเรื่อง ฟ้องร้องทางคนชนวันที่ทำสำนวนส่งคือวันที่ 8/1/63 จนถึงตอนนี้ 8 เดือน แล้วคดีก็ยังไม่คืบหน้าไปไหน พอโทรถามตำรวจเขาก็ผัดไปผัดมาตลอด ทุกวันนี้แม่ต้องไปหาหมอเป็นประจำ โดยใช้สิทธิ์การรักษาของบัตรประกันสังคม

น้องหมีพลู ได้บรรยายความอยุติธรรม ของสิ่งที่ได้รับในจดหมายอีกว่า ก่อนหน้านี้แม่ไม่เคยเป็นหนี้สิน แต่ตอนนี้แม่ต้องเป็นหนี้สินเอารถไปเข้าไฟแนนซ์ แล้วที่ดินก็กำลังจะโดนยึด พี่สาวกำลังเรียนมหาวิทยาลัยปี 3 ส่วนผมกำลังจะขึ้น ม. 3 ครับ แล้วแม่ก็มาป่วย และพ่อก็มาทิ้งแม่และพวกเราไปอีก เงินพ่อก็ให้น้อยลง ซึ่งเดือนนี้พ่อบอกว่าจะไม่ส่งเงินมาให้พวกหนูกับแม่แล้ว โทรไปตามคดีกับร้อยเวรเจ้าของคดีก็เลื่อนนัดผลัดวันเจราตลอด

น้องหมีพลู ยังกล่าวต่ออีกว่า ตอนนี้ที่พึ่งสุดท้ายของครอบครัวตนคือทนายรณณรงค์ อยากให้ทนายช่วยครอบครัวเราด้วยครับ ตนเห็นแม่พยายามแขวนคอฆ่าตัวตายมาแล้วสองครั้ง ครั้งแรกแม่ใช้ผ้าปูที่นอนม้วนเป็นเกลียวพยายามแขวนคอตัวเองกับขื่อตนเห็นเลยรีบร้องว่าแม่อย่าทำๆ ครั้งที่สองแม่ก็ใช้เชือกพยายามผูกคอตนเองกับราวบันได ตนก็เข้ามาห้ามแม่ก็บ่นอยากตายๆ ตนเห็นแม่ร้องไห้ทุกคืน ตนก็ร้องไห้ไปด้วย พี่สาวคือพี่แตงโม ที่เรียนอยูปี 3 มหาวิทยาลัยเกษตรศาตร์ กำแพงแสน คณะวิศวะ ก็ต้องออกไปรับจ้างทำงาน ตอนนี้ก็ไม่ได้ทำที่ไหนเพราะทุกที่ปิดกิจการกันแทบทุกร้าน

ขณะที่ทนายรณณรงค์ กล่าวว่า เด็ก ม.3 ชื่อว่าน้องหมีพลู มาร้องเรียนคดีที่แม่ถูกรถชนที่จังหวัดนครปฐม ไม่มีความคืบหน้า และประกันบ่ายเบี่ยงที่จะรับผิดชอบ มีการทำบันทึกไว้วันที่ 10 ตุลาคม 62 เวลาผ่านมา เกือบ 8 เดือนแล้ว ยังไม่มีการจ่ายเงินเยียวยา ให้กับครอบครัวของน้องหมีพลู จนกระทั่งน้องมาพบกับตน และเเจ้งว่าแม่กำลังจะพยายามฆ่าตัวตาย น้องหมีพลูจึงพยายามติดต่อเข้ามาทางเพจ และในวันพรุ่งนี้ (7พ.ค.63) ตนจะพาไปร้องเรียนที่ สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ซึ่งเป็นบริษัทประกันภัยเป็นประกันชั้น1 ไม่รับผิดชอบตามที่ตกลงกันไว้ คดีนี้มีอายุความ 1 ปี แต่ตอนนี้ผ่านไป 8 เดือนเเล้ว คดียังไม่มีความคืบหน้าแต่อย่างใด ซึ่งยังมีเวลาในการดำเนินการฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายอีก 4 เดือน จึงต้องเร่งดำเนินการเพราะคดีจะหมดอายุความ

และจากการประสานไปทาง สภ.เมืองนครปฐม ทราบว่าพนักงานสอบสวน ป่วยเส้นเลือดในสมองตีบเข้าโรงพนยาบาล จึงต้องขอให้ทางผู้กำกับในพื้นที่เปลี่ยนพนักงานให้เพื่อความสะดวกเร็ว และให้ความเป็นธรรมกับครอบครัวของน้องหมีพลู เพราะน้องต้องเดินเรื่องเองทั้งที่ยังเป็นเด็กอายุแค่ 14 ปี อีกทั้งแม่ยังเดินไม่ได้ จึงนับว่าเป็นครอบครัวที่น่าสงสารอย่างมาก


สาโรจน์ สว่างศรี / นนทบุรี

error: Content is protected !!