ข่าวใหม่อัพเดท » บุกทลายผับ บราซิลพัทยา และผับ 90 บาร์ ยาเค ยาอี ยาไอซ์ ตกเกลื่อนพื้น ตรวจพบฉี่ม่วง กว่า 140 คน ฝ่ายปกครองจ่อเสนอผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี สั่งปิด 5 ปี พื้นที่อำเภอบางละมุง จ.ชลบุรี

บุกทลายผับ บราซิลพัทยา และผับ 90 บาร์ ยาเค ยาอี ยาไอซ์ ตกเกลื่อนพื้น ตรวจพบฉี่ม่วง กว่า 140 คน ฝ่ายปกครองจ่อเสนอผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี สั่งปิด 5 ปี พื้นที่อำเภอบางละมุง จ.ชลบุรี

1 มิถุนายน 2019
0

ช่วงเช้ามืดของวันที่ 1 มิถุนายน  2562   เวลา 03.40 น.  ศูนย์อำนวยการประสานกำกับติดตามการปฏิบัติตามคำสั่งของหัวหน้า คสช. ที่ 22/2558(ศอ.กต.) โดยกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน นำโดย นายอภิชาต จารุศิริ รองอธิบดีกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน ชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง นำโดย นายรณรงค์ ทิพย์ศิริ ผู้อำนวยการส่วนกำกับ สืบสวนและปราบปราม สำนักการสอบสวนและนิติการ กรมการปกครอง  นายอำนาจ เจริญศรี นายอำเภอบางละมุง  ทหารกองทัพภาคที่ 1 และสำนักงาน ปปส. นำกำลังเข้าตรวจสอบจับกุมสถานบันเทิง 2 แห่ง ตั้งอยู่บริเวณถนนพัทยาใต้ อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี

ด้วยมีผู้ร้องเรียน สถานบริการ ชื่อร้าน บราซิล พัทยา ตั้งอยู่ ซอยพัทยาใต้ 7 ถนนพัทยาใต้ อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี และร้าน 90 บาร์พัทยา ตั้งอยู่บริเวณซอยบงกช พัทยาใต้ ตำบลนาเกลือ อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี ฝ่าฝืนคำสั่ง หน.คสช. ที่ 22/2558 ด้วยการเปิดเกินเวลาที่กฎหมายกำหนด ยินยอมหรือปล่อยปละละเลยให้ผู้มีอายุต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์เข้าไปใช้บริการ และมีการมั่วสุมเสพยาเสพติดภายในร้าน กรมการปกครอง จึงได้ส่งพนักงานฝ่ายปกครอง(สายลับ) เข้าไปทำการสืบสวนและแสวงหาพยานหลักฐานด้วยการแฝงตัวไปใช้บริการร้านดังกล่าว ในเวลาหลังเที่ยงคืนแล้ว พบว่าสถานบันเทิงแห่งนี้ ไม่ได้เข้มงวดในการตรวจบัตรประจำตัวประชาชน ขณะที่ภายในร้าน พบลูกค้าบางส่วนมีพฤติกรรมและการแต่งตัว น่าเชื่อได้ว่าเป็นเด็กอายุต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์เข้ามาใช้บริการ และพบมีการมั่วสุมเสพยาเสพติดกันภายในร้าน จริงตามข้อร้องเรียน  นอกจากนี้ ยังพบว่าสถานบันเทิงแห่งนี้ มีลูกค้าเข้ามาใช้บริการเป็นจำนวนมากในช่วงเวลา  03.00 – 04.30 น. ซึ่งผับแห่งนี้ ได้ปิดไฟหน้าร้านแกล้งทำเป็นว่าปิดร้านแล้ว แต่ด้านในร้านนักเที่ยวกำลังดื่มกินกันอย่างเมามันพร้อมโยกย้ายร่างกายไปตามจังหวะดนตรีที่ดีเจของร้านเปิดกระหึ่ม โดยสถานบันเทิงแห่งนี้เปิดให้บริการถึงรุ่งเช้าของทุกวัน

ทั้งนี้ ก่อนเข้าจับกุม พนักงานฝ่ายปกครอง (สายลับ) ได้แฝงตัวเป็นนักเที่ยวเข้าทำการสืบสวน เมื่อเวลาตี 3 ซึ่งเลยเวลาเปิดทำการตามกฎหมายของสถานบริการทุกประเภทไปแล้ว ก็พบว่าสถานบริการยังคงไม่มีทีท่าที่จะเช็คบิลปิดทำการแต่อย่างใด ดีเจยังเปิดเพลงและนักเที่ยวกำลังเต้นกันอยู่อย่างสนุกสนานตามจังหวะของเสียงดนตรีที่เร้าใจ นอกจากนี้ยังพบว่าร้านยังคงจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นปกติ แม้ว่าจะเลยเวลาเปิดทำการตามกฎหมายไปแล้วก็ตาม สายลับจึงให้สัญญาณแก่ชุดจับกุมเข้าดำเนินการตรวจสอบจับกุม

เมื่อกำลังของเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมเดินทางมาถึง พบว่าสถานบริการ บราซิล พัทยา ยังคงเปิดให้บริการตามปกติ โดยมีนักเที่ยว จำนวนกว่า 400 คน กำลังดื่มกินอยู่ภายในร้าน เจ้าหน้าที่สั่งให้ปิดเพลง และเปิดไฟแสงสว่าง โดยทันทีที่นักเที่ยวรู้ว่าเจ้าหน้าที่เข้าปิดล้อม ภายในผับเกิดการโกลาหลเล็กน้อย หลายคนพยายามจะหลบหนี มีบางส่วนวิ่งออกไปนอกผับ เจ้าหน้าที่ประกาศให้ทุกคนอยู่ในความสงบ ก่อนจะควบคุมสถานการณ์ไว้ได้

 เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองได้ตรวจค้นตัว นักเที่ยว พบ 

อาวุธปืนพกสั้น ขนาด 9 มม. จำนวน 1 กระบอก  

กระสุนปืนจำนวน 16 นัด 

มีดพกสั้น จำนวน 1 เล่ม 

ยาเสพติด ยาอี ยาเค ยาไอซ์ จำนวน 62 ซอง พร้อมอุปกรณ์การเสพเป็นจำนวนมาก

เจ้าหน้าที่ได้นำตัวนักเที่ยวแยกชายหญิง เพื่อตรวจสารเสพติดในปัสสาวะ ผลการตรวจสอบพบว่า นักเที่ยวที่มีปัสสาวะเป็นสีม่วง จำนวน 142 คน เป็นชาย 94 คน เป็นหญิง 48 คน นักเที่ยวไม่พกบัตรประจำตัวประชาชน จำนวน 58 ราย พบเยาวชนอายุต่ำกว่า 20 ปี เข้าใช้บริการจำนวน  4 คน อายุต่ำสุด  18 ปี ตรวจสอบไม่พบใบอนุญาตให้ตั้งสถานบริการแต่อย่างใด

โดยเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองได้แจ้งข้อหาแก่ นายทักษิณ ภูษี อายุ 41 ปี แสดงตัวเป็นผู้จัดการร้าน บราซิล พัทยา ดังนี้ คือ

1.ตั้งสถานบริการโดยไม่ได้รับอนุญาต

2.ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เกินเวลาที่กฎหมายกำหนด

3.จำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้เด็กอายุต่ำกว่า 20 ปี

ส่วนร้าน 90 บาร์พัทยา 

พบนักเที่ยว มีปัสสาวะสีม่วง จำนวน 13 ราย เป็นชาย 9 คน หญิง 4 คน และมีเยาวชนเข้าไปใช้บริการ 1 คน จึงได้แจ้งข้อกล่าวหา ผู้จัดการร้าน 90 บาร์ พัทยา ดังนี้ 

1.ตั้งสถานบริการโดยไม่ได้รับอนุญาต

2.จำหน่ายสุราโดยไม่มีใบอนุญาต

3.ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เกินเวลาที่กฎหมายกำหนด

4.ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์โดยวิธีส่งเสริมการขาย (จัดโปรโมชั่น)

5.ขายหรือให้บริการบารากู่ หรือตัวยาบารากู่ 

นายรณรงค์ ทิพย์ศิริ ผู้อำนวยการส่วนกำกับ สืบสวนและปราบปราม สำนักการสอบสวนและนิติการ กรมการปกครอง กล่าวว่า เนื่องจากสถานบริการ เป็นสถานที่ที่รัฐต้องควบคุม เพราะอาจดำเนินการไปในทางกระทบกระเทือนต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน อันเป็นสถานที่ที่ไม่ควรให้เยาวชนเข้าไปใช้บริการหรือใช้เป็นที่มั่วสุม ก่อให้เกิดปัญหากับสังคม  

“เพื่อมิให้สถานบริการเป็นแหล่งกระทำผิดกฎหมาย ผู้ประกอบการต้องปฏิบัติหน้าที่ของตนให้ถูกต้อง เพราะหากผู้ประกอบการไม่ปฏิบัติตามกฎหมายแล้ว จะส่งผลกระทบต่อความสงบเรียบร้อยของสังคมโดยรวม” กรมการปกครองจะกวดขัน จับกุม ปราบปราม สถานบริการที่ผิดกฎหมายอย่างจริงจังและต่อเนื่อง   จากนี้นายอำเภอบางละมุง จะได้เสนอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี  มีคำสั่งปิดสถานบริการแห่งนี้ ตามคำสั่ง คสช.ที่ 22/2558 เป็นเวลา 5 ปี ต่อไป

ขอบคุณเรื่องแนะนำ

เอ จักรินทร์ ผู้สื่อข่าวสำนักสมาคมตำรวจ

error: Content is protected !!