
แพทย์ทหารเตือนภัย “ภาวะตัวเย็นเกิน” ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยเรื้อรัง เสี่ยงเสียชีวิตได้
จากข้อมูลกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ช่วงนี้ประเทศไทยมีอุณหภูมิเริ่มลดลง ส่งผลให้มีอากาศหนาวเย็น โดยเฉพาะภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อาจส่งผลให้ประชาชนอาจมีอาการ “ภาวะตัวเย็นเกิน” หรือ “ไฮโปเธอร์เมีย (Hypothermia)” ซึ่งเป็นภาวะที่ร่างกายมีอุณหภูมิลดต่ำ จากการสัมผัสความหนาวเย็นเป็นเวลานาน เช่น อยู่ในอากาศหนาว หรือแช่ในน้ำที่เย็นจัด ทำให้ร่างกายสูญเสียกลไกการปรับอุณหภูมิ ไม่สามารถสร้างและเก็บความร้อนในร่างกายได้ ส่งผลให้อุณหภูมิของร่างกายลดต่ำกว่า 35 องศาเซลเซียส เป็นเหตุให้อวัยวะต่างๆ โดยเฉพาะหัวใจและสมองทำงานผิดปกติ ก่อให้เกิดอาการเจ็บป่วยรุนแรงไปจนถึงเสียชีวิตได้ ในระยะแรกผู้ป่วยจะมีอาการหนาวสั่น พูดอ้อแอ้ เดินเซ งุ่มง่าม อ่อนเพลีย ง่วงซึม หงุดหงิด สับสน ความสามารถในการคิดและตัดสินใจน้อยลง หากอุณหภูมิร่างกายยังลดต่ำอย่างต่อเนื่องผู้ป่วยจะหยุดสั่น มีอาการเพ้อคลั่ง ไม่ค่อยรู้สึกตัว หมดสติและหยุดหายใจในที่สุด
ในการนี้ พลโท วรเทพ บุญญะ แม่ทัพภาคที่ 3/ผู้บัญชาการศูนย์บรรเทาสาธารณภัย กองทัพภาคที่ 3 และคณะแพทย์ทหาร จึงมีความห่วงใยต่อข้าราชการทหาร ในสังกัดกองทัพภาคที่ 3 และพี่น้องประชาชนในพื้นที่ 17 จัดหวัดภาคเหนือ จึงได้แนะนำประชาชนในการป้องกันการเจ็บป่วยจากภาวะอากาศหนาวเย็นมีดังนี้ 1. สวมเสื้อผ้าที่ให้ความอบอุ่นเพียงพอ ห่มผ้าห่ม หรือผิงไฟให้ความอบอุ่น 2. หลีกเลี่ยงการอยู่ในน้ำเย็นหรือสวมเสื้อผ้าที่เปียกเป็นระยะเวลานาน 3. หลีกเลี่ยงการออกไปสัมผัสอากาศหนาวหรือลมหนาวนอกบ้าน หากเลี่ยงไม่ได้ควรสวมใส่เสื้อผ้าที่ให้ความอบอุ่นเพียงพอ และใส่ถุงมือถุงเท้า 4. ไม่ดื่มแอลกอฮอล์เพื่อแก้หนาว เพราะจะทำให้หลอดเลือดฝอยใต้ผิวหนังขยายตัว ความร้อนจะถูกระบายออกจากร่างกายมากขึ้น ทำให้อุณหภูมิของร่างกายลดต่ำลงไปเรื่อยๆ เสี่ยงต่อภาวะเซลล์สมองตายเนื่องจากภาวะหัวใจหยุดเต้นและเสียชีวิตได้ 5. เพิ่มการดูแลเป็นพิเศษในกลุ่มผู้สูงอายุ ผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น ความดันโลหิตสูง หอบหืด เพราะหากป่วยอาจมีอาการรุนแรงกว่ากลุ่มอื่นๆ ได้ หากพบผู้ที่มีความเสี่ยงต่อการเสียชีวิตที่เกี่ยวเนื่องจากภาวะอากาศหนาวให้รีบช่วยเหลือ
หากพบผู้ป่วยที่มีภาวะไฮโปเธอร์เมีย ควรปฐมพยาบาลเบื้องต้นด้วยวิธีที่ถูกต้อง ดังนี้ 1. พาผู้ป่วยหลบอากาศและลมที่หนาวเย็น หรือขึ้นจากน้ำเย็นและพาเข้าไปยังห้องที่มีความอบอุ่น 2. หากผู้ป่วยสวมเสื้อผ้าเปียกน้ำควรปลดออก เปลี่ยนเป็นเสื้อผ้าที่แห้งและให้ความอบอุ่นแก่ร่างกาย กรณีที่จำเป็นต้องอยู่กลางแจ้งควรสวมเสื้อผ้าคลุมถึงหน้าและศีรษะ 3. ให้ผู้ป่วยนอนนิ่งๆ หลีกเลี่ยงการเคลื่อนไหวร่างกายโดยไม่จำเป็น ห้ามนวดหรือแตะต้องตัวผู้ป่วยแรงๆ เนื่องจากอาจกระเทือนส่งผลให้หัวใจหยุดเต้นได้ 4. หากผู้ป่วยยังรู้สึกตัว ให้ดื่มน้ำหรือเครื่องดื่มอุ่นๆ ห้ามให้ดื่มแอลกอฮอล์เด็ดขาด 5. หากผู้ป่วยหยุดหายใจหรือหายใจแผ่วเบา ให้ทำการกู้ชีพ ทั้งนี้ หากพบว่าตนเองหรือคนรอบข้างมีอาการบ่งชี้ หรือสงสัยว่ามีภาวะหรืออาการดังกล่าว ควรรีบไปพบแพทย์โดยเร็ว โดยสามารถเข้ารับบริการได้ที่โรงพยาบาลทหารทั้ง 10 แห่งในพื้นที่ภาคเหนือ
จึงขอเรียนให้พี่น้องประชาชน ในพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือทราบ เพื่อให้เกิดความมั่นใจได้ว่า กองทัพภาคที่ 3 โดย โรงพยาบาลทหารทั้ง 10 แห่งในพื้นที่ภาคเหนือ พร้อมที่จะให้การช่วยเหลือประชาชนในยามวิกฤตทุกโอกาส

