ดร.สามารถ » ช็อกกลางกรุง! ถนนทรุด “เสี่ยงถูกสูบทุกย่างก้าว”

ช็อกกลางกรุง! ถนนทรุด “เสี่ยงถูกสูบทุกย่างก้าว”

27 กันยายน 2025
0

เช้าวานนี้ (วันพุธที่ 24 กันยายน 2568) คนกรุงเทพฯ ตื่นมาเจอกับภาพที่ไม่มีใครอยากเห็น… ถนนหน้า รพ.วชิรพยาบาลยุบหายไปต่อหน้าต่อตา กลายเป็นหลุมขนาดมหึมา กลืนทั้งเสาไฟ สายไฟ และท่อสาธารณูปโภคไปในพริบตา

โชคดีที่ไม่มีผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บ แต่คำถามใหญ่กลับดังขึ้นพร้อมกันทั้งเมือง… เกิดอะไรขึ้น? และจะเกิดซ้ำอีกหรือไม่?

1. ไม่ใช่แค่ถนนยุบ แต่คือ “ระบบใต้ดินล้มเหลว”

ข้อมูลจากหลายแหล่งยืนยันตรงกันว่า สาเหตุหลักมาจากดินไหลเข้าอุโมงค์ก่อสร้างรถไฟ ฟ้าใต้ดินบริเวณรอยต่อระหว่างอุโมงค์กับสถานี

เพดานอุโมงค์ซึ่งควรจะเป็นเกราะป้องกันกลับเกิดความเสียหาย ช่องว่างเล็กๆ กลายเป็นโพรงใหญ่ ดินชั้นบนจึงค่อยๆ ไหลลงไปเติมเต็มช่องว่างนั้น เมื่อโพรงใต้ดินขยายจนไม่เหลือแรงรองรับ ทำให้พื้นถนนด้านบนยุบตัวพังทลายลงอย่างรุนแรง

2. บทเรียนจากต่างประเทศ… สาเหตุเดียวกัน

เหตุการณ์เช่นนี้เคยเกิดขึ้นมาแล้ว เช่น ในปี 2559 เมืองฟุกุโอกะ ประเทศญี่ปุ่น ก็เคยเผชิญหลุมยักษ์กลางเมือง เนื่องจากน้ำและดินซึมเข้ารอยต่ออุโมงค์รถไฟฟ้าใต้ดิน ผลคือถนนกว้างกว่า 30 เมตรหายวับไปเช่นกัน

จุดร่วมที่น่ากลัวคือ “รอยต่ออุโมงค์-สถานี” มักเป็นจุดเสี่ยงที่สุด หาก Sealing ไม่สมบูรณ์ หรือเกิดรอยรั่วเพียงเล็กน้อย ก็เปิดทางให้ดินและน้ำไหลเข้า เกิดปฏิกิริยาลูกโซ่ (Chain Reaction) จนควบคุมไม่อยู่ กล่าวคือ เมื่อเกิดโพรงใต้ดิน แรงกดของผิวถนนด้านบนถ่ายน้ำหนักลง ทำให้การทรุดขยายวงกว้างและลึกขึ้นเรื่อยๆ

3. ความเสี่ยงที่ซ่อนอยู่

กรณีถนนทรุดครั้งนี้ ไม่ใช่แค่ “หลุมใหญ่” ที่เรามองเห็น แต่คือสัญญาณเตือนว่า พื้นที่รอบๆ อาจมีอันตรายที่ยังไม่เผยตัว เช่น

(1) อาคารโดยรอบทั้งโรงพยาบาลและสถานีตำรวจสามเสนรวมทั้งอาคารอื่นๆ โดยเฉพาะอาคารที่รองรับโดยเสาเข็มที่สั้นกว่าความลึกของหลุมยักษ์เสี่ยงต่อแรงสั่นสะเทือนและการทรุดต่อเนื่อง

(2) ท่อประปา ไฟฟ้า โทรคมนาคม อาจหักพังส่งผลกระทบลูกโซ่ สิ่งที่น่าเป็นห่วงอีกประการหนึ่งคือ การจราจรบนถนนสามเสน… จะต้องปิดยาวนานเพียงใด ส่งผลต่อคนเมืองจำนวนมาก

4. สู้กับหลุมยักษ์ ต้องทำอย่างไร?

บทเรียนจากฟุกุโอกะบอกเราว่า การฟื้นฟูต้องทำ 3 ขั้นตอนหลัก

(1) หยุดความเสียหาย… อพยพพื้นที่เสี่ยง ตัดน้ำและไฟทันที

(2) ปิดโพรง… อัดซีเมนต์ (Grouting) อุดช่องว่างไม่ให้ขยาย

(3) เสริมโครงสร้าง… ตรวจสอบตลอดแนวอุโมงค์ เสริมค้ำยันและปรับปรุงรอยต่อใหม่เหล่านี้คือวิธีที่จะหยุดหลุมไม่ให้ “สูบ” เมืองไปมากกว่านี้

5. คำถามที่ยังต้องการคำตอบ

(1) รอยต่ออุโมงค์เสียหายเพราะอะไร? การออกแบบผิดพลาด หรือการก่อสร้างบกพร่อง?

(2) ท่อน้ำแตกมีส่วน “เริ่มต้น” หรือเป็นเพียง “ผลลัพธ์” ของการทรุด?

(3) พื้นที่รอบๆ จะปลอดภัยจริงหรือไม่ หากยังไม่ตรวจละเอียด?

6. บทสรุป

สิ่งที่เกิดขึ้นกลางกรุงครั้งนี้ไม่ใช่แค่เรื่องของ “ถนนยุบ” แต่คือการเตือนให้เห็นความเปราะบางของระบบโครงสร้างใต้ดินที่อยู่ใต้เท้าเราทุกวัน… ทุกย่างก้าวที่เราเดิน และรถทุกคันที่วิ่งผ่านอาจอยู่เหนือโพรงที่ซ่อนอยู่ก็ได้นี่คือสัญญาณเตือนว่า เมืองใหญ่ไม่ควรประมาทกับสิ่งที่มองไม่เห็น หากไม่เร่งป้องกัน ทุกย่างก้าวที่เราเดิน และทุกล้อรถที่วิ่งผ่านไซต์ก่อสร้างรถไฟฟ้าใต้ดินอาจเสี่ยงต่อการถูก “สูบ” โดยไม่รู้ตัว!


ดร.สามารถ ราชพลสิทธิ์
อดีตรองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร

error: Content is protected !!