นครพนม – ชมรมคนรักถิ่นนครพนม ร่วมกับ สำนักงาน ปปส.จัดโครงการเสริมสร้างความเข็มแข็งให้ชุมชนแบบยั่งยืน
วันที่ 24 เม.ย..67 เวลา 09.00 น.ณ ห้องประชุมโรงเรียนบ้านนาทม อ.นาทม จ.นครพนม
นายวรวิทย์ พิมพนิตย์ ปลัดจังหวัดนครพนม เป็นประธานเปิดโครงการอบรมเสริมสร้างความเข้มแข็งแก้ไขปัญหายาเสพติดยั่งยืนในหมู่บ้าน/ชุมชน โดยชมรมคนรักถิ่นนครพนม นายประพันธ์โด่งดัง”ประธานชมรม” ร่วมกับ สำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ภาค 4 มีผู้เข้าร่วมโครงการ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้เข้าร่วมโครงการมีความเข้าใจกฏหมายที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดเบื้องต้น และเพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งแก้ไขปัญหายาเสพติดยั่งยืนในหมู่บ้าน/ชุมชน คือผู้นำ และประชาชนในหมู่บ้าน ชุมพื้นที่อำเภอนาทม จังหวัดนครพนม จำนวน 500 คน
ดร.ภูมิพัฒน์ พชรทรัพย์ ส.ส.นครพนม เขต 1 พรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวในการจัดสัมมนาอบรมเรื่องยาเสพติดเพื่อให้พี่น้องประชาชนมีแนวร่วมในการแจ้งเบาะแสประชาชนลูกหลานของเราให้ห่างไกลยาเสพติดให้ความร่วมมือกับหน่วยงานราชการ ประชาชน มีความกล้าที่จะแจ้งข้อมูล ผู้ขาย ผู้ส่งยาบ้า โดย พล.ต.ท.ภานุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการฯคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ได้อนุมัติเงินงบประมาณ 9 ล้านบาท สำหรับบำบัดผู้ติดยาเสพติดให้กลับสาธารณสุขจังหวัดนครพนม เป็นผู้ดำเนินการที่จะไปบำบัดประชาชนทั้ง 12 ทั้งอำเภอ ซึ่งจะมีทั้งผู้ป่วยทางด้านจิตเวช ป่วยทางด้านด้านยาเสพติด คุ้มคลั่งก็ต้องมียาฉีดเข็มละ 2,000 บาทอยู่ได้ 1 เดือน ที่จะต้องเร่งรักษาและก็มีสถานบำบัดมีสถานที่ เรียกว่าศูนย์ mini ธัญรักษ์ที่จะบำบัดพี่น้องประชาชนลูกหลาน 100-200 เตียงแล้ว โดยเพิ่มสถานที่ ซึ่งเป็นพื้นที่ว่างของ ร้อย ตชด.และค่ายทหารอื่นๆอีก ซึ่งได้เสนอรัฐบาล ถึงนายกรัฐมนตรี ขอให้เร่งบำบัดพี่น้องประชาชนที่ติดยา ซึ่งปัญหาเกี่ยวกับยาเสพติดต้องเพิ่มสถานบำบัดมากขึ้น โดยภาคเอกชนมีความพร้อมที่จะร่วมกับหน่วยงานภาครัฐที่จะให้ทุกคนได้รับการบำบัดรัฐบาลบริหารมาได้ 7 เดือนแล้ว ซึ่งมีกำหนดเหลือเวลาอีก 5 เดือน ที่ให้คำมั่นสัญญากับพี่น้องประชาชนว่า นโยบายของรัฐบาลภายใต้แกนนำของ”พรรคเพื่อไทย “จะต้องทำให้ยาบ้า ยาเสพติดหมดไปภายในปี
โครงการต่อไปคือ โรงเรียนผู้นำที่จะเอาคนที่เข้มแข็งที่มีความพร้อมที่จะมาเป็นหูเป็นตาดูแลผู้ติดยาเสพติดหมู่บ้านละ 10 คน กำหนดอบรม 2 วัน มีชุด, มีเงินประกันชีวิตให้ 2 แสนบาท นั่นคือ สิ่งที่จะเป็นขวัญกำลังใจให้พี่น้องประชาชนได้ร่วมกันในการแก้ไขปัญหาเรื่องยาบ้า ยาเสพติด การแจ้งเบาะแส ผู้ค้ายาเสพติด ดูต่อสายตรงแจ้งกับตำรวจในอำเภอ หรือทาง facebook ส.ส.ภูมิพัฒน์ หรือจะส่งไปที่แม่ทัพภาคที่ 2 ได้โดยตรง และที่ พล.ต.ท.สรายุทธ สงวนโภคัย บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 4 ที่ผ่านมา ได้ทำการอายัดยึดบ้านที่ดินรถยนต์ รถมอเตอร์ไซค์ อาวุธปืน ยาบ้า และเงินสดที่ได้จากการค้ายาเสพติดได้จำนวนมาก ส่วนที่มีคนสงสัยเรื่องยาบ้า5 เม็ด ยังเข้าใจกันคลาดเคลื่อน ขอชี้แจงว่า ถึงมี 1 เม็ด 2 เม็ด หรือไม่มีเลย ถ้าตรวจแล้วเป็นฉี่สีม่วงก็จับ ถ้าไม่บำบัดโดยผู้เสพสมัครใจเข้าบำบัด ก็จะรักษาถือว่าเป็นผู้ป่วยส่วนผู้ค้าผู้ขายไม่มียาบ้าเลยก็จับ ถ้ามีพฤติการณ์ เป็นผู้ค้ามีการโอนเงินติดต่อทาง LINE หรือสั่งซื้อทางโทรศัพท์ ถ้ามีพี่น้องประชาชนแจ้งมา ก็ดำเนินการได้ทันที
ด้านนายวรวิทย์ พิมพนิตย์ ปลัดจังหวัดนครพนม ได้กล่าวถึงผู้เสพยา ในส่วนของจังหวัดนครพนม จากการสำรวจทั้ง 12 อำเภอ มีประมาณ 5,682 คน ผู้ป่วยจากการเสพติด จะแยกออกเป็น 4 ระดับ มีระดับ (สีเขียว)เป็นผู้ป่วยยาเสพติดอย่างเดียว ไม่มีอาการจิตเวชร่วม, (สีเหลือง) เป็นผู้ป่วยยาเสพติดที่มีอาการทางจิตเวชร่วม, (สีส้ม)เป็นผู้ป่วยยาเสพติดที่มีอาการทางจิตเวชร่วมอยู่ในระยะอาการกำเริบ และมี 5 สัญญาเตือนที่จะก่อเหตุรุนแรง ได้แก่ ไม่หลับไม่นอน หงุดหงิดฉุนเฉียว เดินไปเดินมา พูดจาคนเดียว เที่ยวหวาดระแวง และ(สีแดง) เป็นผู้ป่วยยาเสพติดที่มีอาการทางจิตเวชร่วมด้วยและกำลังแสดงอาการอาละวาด คลุ้มคลั่ง ถือว่าอาการรุนแรง ต้องคัดแยก และดูแลอย่างใกล้ชิดโดยเร่งด่วน
เทพข่าวร้อน & เพลิงพระกาฬ
สำนักข่าวความมั่นคง จังหวัดนครพนม รายงาน