ข่าวใหม่อัพเดท » ตำรวจ ภ.จ.สระบุรี บช.ภ.1 แถลงข่าวจับกุมยาเสพติด พร้อมของกลางยาบ้า จำนวน 50 กระสอบ 10 ล้านเม็ด

ตำรวจ ภ.จ.สระบุรี บช.ภ.1 แถลงข่าวจับกุมยาเสพติด พร้อมของกลางยาบ้า จำนวน 50 กระสอบ 10 ล้านเม็ด

18 มีนาคม 2024
0

ตำรวจ ภ.จ.สระบุรี บช.ภ.1 แถลงข่าวจับกุมยาเสพติด พร้อมของกลางยาบ้า จำนวน 50 กระสอบ 10 ล้านเม็ด

วันจันทร์ที่ 18 มี.ค.67 เวลา 10.00 น. ณ ตำรวจภูธรภาค 1 : พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ท.นิรันดร เหลื่อมศรี ผู้ช่วย ผบ.ตร., พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี ผู้ช่วยผบ.ตร., พล.ต.ท.จิรสันต์ แก้วแสงเอก ผบช.ภ.1, พล.ต.ต.นราเดช ทิพย์รักษ์ รอง ผบช. ภ.1, พล.ต.ต.ชยานนท์ มีสติ รอง ผบช.ภ.1, พล.ต.ต.ธรรมนูญ เชาวะวนิชย์ ผบก.ภ.จ.สระบุรี, นายนิยม ช่างพินิจ ผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย, ว่าที่ร้อยตรี อากาศ ปานแย้ม นักวิเคราะห์นโยบายและแผนเชี่ยวชาญ, พล.ต.อาทิตย์ ม่วงเล็ก และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องร่วมแถลงข่าวผลการจับกุมเครือข่ายยาเสพติด ทีมลำเลียง สองเทพเมืองคร ยึดยาบ้า 10,000,000 เม็ด มูลค่ากว่า 300,000,000 บาท

การจับกุมในครั้งนี้ เป็นการยับยั้งการแพร่กระจายของยาเสพติดไปสู่ประชาชนได้เป็นจำนวนมาก ซึ่งยาเสพติดของกลางหากถูกนำออกขายสู่ท้องตลาดจะมีมูลค่าสูงถึงประมาณ 300,000,000 บาท และเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจะขยายผลถึงกลุ่มลูกค้า ผู้สั่งการ และบุคคลในเครือข่ายยาเสพติด รวมถึงทรัพย์สินที่เกี่ยวเนื่องกับการกระทำความผิด โดยจะนำมาตรการสมคบ สนับสนุนช่วยเหลือ ฟอกเงิน และยึดทรัพย์สิน มาใช้ดำเนินการกับบุคคลในเครือข่ายยาเสพติดต่อไป

ตามนโยบายรัฐบาลของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี,พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม,นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย,นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ อธิบดีกรมการปกครอง และ พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการ ป.ป.ส. เน้นการแก้ไขปัญหายาเสพติดทั้งระบบด้วยการสืบสวนขยายผลและวิเคราะห์ความเชื่อมโยงเครือข่ายของนักค้ายาเสพติดอย่างรู้เท่าทัน เพื่อให้สามารถแก้ไขปัญหาตั้งแต่ต้นทาง–กลางทาง–ปลายทาง ได้อย่างมีประสิทธิภาพ 

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร., พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร., พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร., พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร., พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี ผู้ช่วย ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.นิรันดร เหลื่อมศรี ผู้ช่วย ผบ.ตร. จึงสั่งการให้มีการสืบสวนสอบสวนขยายผลจากกรณีจับกุมยาเสพติดรายสำคัญทุกราย รวมถึงวิเคราะห์ความเชื่อมโยงไปถึงกลุ่มผู้ผลิต นำเข้า ผู้ลำเลียง ผู้จัดเก็บ ผู้จำหน่าย และสกัดกั้นการลำเลียงยาเสพติด จากแนวชายแดนเข้ามาถึงพื้นที่ตอนในของประเทศ 

ตำรวจภูธรภาค 1 โดย พล.ต.ท.จิรสันต์ แก้วแสงเอก ผบช.ภ.1, พล.ต.ต.นราเดช ทิพย์รักษ์ รอง ผบช.ภ.1, พล.ต.ต.ชยานนท์ มีสติ รอง ผบช.ภ.1/ศอ.ปส.ภ.1 /บช.ปส. โดย พล.ต.ท.คีรีศักดิ์ ตันตินวะชัย ผบช.ปส., พล.ต.ต.สมเกียรติ วัฒนพรมงคล รอง ผบช.ปส., พล.ต.ต. สมบูรณ์ เทียนขาว รอง ผบช.ปส., พล.ต.ต.ออมสิน ตรารุ่งเรือง รอง ผบช.ปส. และ พล.ต.ต. พลัฏฐ์ วิเศษสิงห์ รอง ผบช.ปส., /ขกท. โดย พล.ต.อาทิตย์ ม่วงเล็ก ผบ.ขกท., ขกท. ศปก. นสศ. โดย พ.อ.สุพจน์ สวาคฆพรรณ ผบ.ขกท.ศปก.นสศ./ผู้ทรงคุณวุฒิอนุกรรมการขับเคลื่อนการดำเนินการป้องกันและปราบปรามผู้มีอิทธิพล กระทรวงมหาดไทย​ /ภ.จ.สระบุรี โดย พล.ต.ต.ธรรมนูญ เชาวะวนิชย์ ผบก.ภ.จ.สระบุรี, พ.ต.อ.เกษดา วัชรานนท์ รอง ผบก.ภ. จ.สระบุรี และ พ.ต.อ.ไกรสร ศรีอำพร ผกก.สส.ภ.จ.สระบุรี/หัวหน้า ชปส.ศอ.ปส.ภ.1 ชุดที่ 2 /ภ.จ.ลพบุรี  โดย พล.ต.ต.อภิรักษ์ เวชกาญจนา ผบก.ภ.จ.ลพบุรี, พ.ต.อ.อาสาฬห์ ถมยา รอง ผบก.ภ.จ.ลพบุรี และ สำนักงาน ป.ป.ส. ภาค1 โดย นางจีระพรรณ กาญจประดิษฐ์  ผอ. ปปส. ภาค 1 และ ว่าที่ ร.ต.อากาศ ปานแย้ม นักวิเคราะห์นโยบายและแผนเชี่ยวชาญ /กระทรวงมหาดไทย โดยนายนิยม ช่างพินิจ ผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย (ผู้แทน นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย), ร.ต.อ.เขตรัฐ ชาญศิลป์ ผู้อำนวยการสำนักอำนวยการกองอาสารักษาดินแดน และ ร.ต.ทองปอนด์ ถาวรสถิตย์ เลขานุการคณะทำงานขับเคลื่อนการดำเนินการป้องกันและปราบปรามผู้มีอิทธิพล กระทรวงมหาดไทย ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทุกนายในสังกัดบูรณาการร่วมกันสืบสวนจับกุมบุคคลในเครือข่ายยาเสพติด

สืบเนื่องมาจากเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดตำรวจภูธรภาค 1 ชุดที่ 2  และเจ้าหน้าที่ทหาร จากหน่วยข่าวกรองทางทหาร ศูนย์ปฏิบัติการหน่วยบัญชาการสงคราพิเศษ ได้สืบสวนขยายผล จากการจับกุมคดียาเสพติดรายสำคัญในพื้นที่ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี จนนำไปสู่การจับกุมนักค้ายาเสพติด และทีมลำเลียงยาเสพติดได้จำนวนมากหลายคดี และทำให้ทราบว่า นายวสันต์หรือจ้อ อายุ 33 ปี และ นายยศพลหรือเท่ห์ อายุ 30 ปี ทำหน้าที่ในการลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่ภาคเหนือ เพื่อลงมาส่งมอบให้กับกลุ่มผู้ค้ายาเสพติดในพื้นที่ตอนในของประเทศไทย จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบและได้รับคำสั่งให้สืบสวนจับกุม จึงได้บูรณาการกำลังกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสืบสวนติดตามความเคลื่อนไหวของนายวสันต์หรือจ้อฯ และนายยศพลหรือเท่ห์ฯ

ต่อมา ในวันที่ 16 มีนาคม 2567 จากการสืบสวนทราบว่า นายวสันต์หรือจ้อฯ และ นายยศพลหรือเท่ห์ฯ ผู้ต้องหาใช้รถบรรทุก HINO สีขาว เป็นยานพาหนะในการลำเลียงยาเสพติด และใช้รถยนต์ยี่ห้อฮอนด้า แจ๊ส สีขาว เป็นยานพาหนะในการสำรวจเส้นทางด่านตรวจยาเสพติดของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงสะกดรอยติดตามจนถึงบริเวณริมถนนเลี่ยงเมืองลพบุรี (ขาเข้า สระบุรี) ม.6 ต.ป่าตาล อ.เมืองลพบุรี จ.ลพบุรี เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม จึงเข้าแสดงตนเข้าตรวจสอบ และสามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาได้พร้อมของกลาง ดังนี้ ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) จำนวน 50 กระสอบ รวมจำนวน 5,000 มัด ประมาณ 10,000,000 เม็ด,รถบรรทุก HINO สีขาว จำนวน 1 คัน (ใช้ลำเลียงยาเสพติด),รถยนต์ยี่ห้อฮอนด้า แจ๊ส สีขาว จำนวน 1 คัน (ใช้สำรวจเส้นทาง) และ อาวุธปืนสั้นกึ่งอัตโนมัติ SIG SAUER P320SP ขนาด 9 มม. บรรจุกระสุนจำนวน 14 นัด

โดยกล่าวหานายวสันต์หรือจ้อฯ และ นายยศพลหรือเท่ห์ฯ กระทำผิดฐาน ร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้าหรือเมทแอมเฟตามีน) โดยการมีไว้เพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยเป็นการกระทำเพื่อการค้าและก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน และกล่าวหานายวสันต์หรือจ้อฯ เพิ่มเติมว่า มีอาวุธปืนไว้ในความครอบครอง โดยไม่ได้รับอนุญาต และพกพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะ โดยไม่ได้รับอนุญาต โดยสามารถจับกุมได้ที่ บริเวณริมถนนเลี่ยงเมืองลพบุรี (ขาเข้า สระบุรี) ม.6 ต.ป่าตาล อ.เมือง จ.ลพบุรี เมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2567 เวลาประมาณ 08.45 น. จากการซักถามขยายผล นายวสันต์หรือจ้อฯ รับว่าได้ขับรถบรรทุกยาเสพติดเดินทางจาก จังหวัดพะเยา มาส่งมอบให้กับผู้รับในพื้นที่จังหวัดสระบุรี โดยนายวสันต์หรือจ้อฯ จะได้รับค่าจ้างเป็นเงินจำนวน 300,000 บาท และนายยศพลหรือเท่ห์ฯ จะได้รับค่าจ้างเป็นเงินจำนวน 10,000 บาท การจับกุมในครั้งนี้ เป็นการยับยั้งการแพร่กระจายของยาเสพติดไปสู่ประชาชนได้เป็นจำนวนมาก ซึ่งยาเสพติด ของกลาง หากถูกนำออกขายสู่ท้องตลาดจะมีมูลค่าสูงถึงประมาณ 300,000,000 บาท และเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจะขยายผล ถึงกลุ่มลูกค้า ผู้สั่งการ และบุคคลในเครือข่ายยาเสพติด รวมถึงทรัพย์สินที่เกี่ยวเนื่องกับการกระทำความผิด โดยจะนำมาตรการสมคบ สนับสนุนช่วยเหลือ ฟอกเงิน และยึดทรัพย์สิน มาใช้ดำเนินการกับบุคคลในเครือข่ายยาเสพติดต่อไป

ตำรวจภูธรภาค 1 ขอประชาสัมพันธ์ประชาชน หากพบบุคคล รถต้องสงสัย หรือมีข้อมูลการกระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติด สามารถติดต่อให้ข้อมูลได้ที่สถานีตำรวจที่ท่านสะดวก หรือ สายด่วน 191 เพื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจจะนำข้อมูลดังกล่าว ไปสืบสวนขยายผลจับกุมผู้กระทำผิดต่อไป


สุรเชษฐ ศิลานนท์ รายงาน

error: Content is protected !!