ข่าวใหม่อัพเดท » พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ฯ ตรวจเยี่ยม สภ.โคกขาม – พิสูจน์หลักฐานสมุทรสาคร ย้ำ 1,484 โรงพัก ประกาศนโยบาย “ขึ้นโรงพักไม่ต้องให้ใครมาฝาก”

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ฯ ตรวจเยี่ยม สภ.โคกขาม – พิสูจน์หลักฐานสมุทรสาคร ย้ำ 1,484 โรงพัก ประกาศนโยบาย “ขึ้นโรงพักไม่ต้องให้ใครมาฝาก”

16 มกราคม 2024
0

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ฯ ตรวจเยี่ยม สภ.โคกขาม – พิสูจน์หลักฐานสมุทรสาคร ย้ำ 1,484 โรงพัก ประกาศนโยบาย “ขึ้นโรงพักไม่ต้องให้ใครมาฝาก” เล็งผลักดันพัฒนาเทคโนโลยี เครื่องมือด้านนิติวิทยาศาสตร์

เมื่อวันที่ 15 มกราคม 2567 พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ( รอง ผบ.ตร. ) เดินทางไปตรวจเยี่ยมบำรุงขวัญข้าราชการตำรวจ สภ.โคกขาม จว.สมุทรสาคร และสำนักงานพิสูจน์หลักฐาน จังหวัดสมุทรสาคร ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร.

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ฯ ได้มอบสิ่งของเพื่อเป็นขวัญและกำลังใจให้แก่เจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งปฏิบัติงานอย่างเข้มแข็ง จนได้รับรางวัลปฏิบัติงานดีเด่นอันดับ 1 ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กลุ่มสถานีตำรวจรูปแบบที่ 2 โครงการสร้างเครือข่ายการมีส่วนร่วมของประชาชนในการป้องกันอาชญากรรมระดับตำบลเพื่อสนับสนุนการป้องกันอาชญากรรมตามนโยบายขับเคลื่อนไทยไปด้วยกัน หรือ Stronger Together และยังมีผลการตรวจราชการประจำปีงบประมาณ 2566 ของกองตรวจราชการ 7 จเรตำรวจ ได้ลำดับที่ 1 นอกกลุ่มเป้าหมายระดับสถานีตำรวจขนาดใหญ่สังกัดตำรวจภูธรภาค 7 ทั้งยังได้รับรางวัลการปฏิบัติงานดีเด่นอันดับ 2 โครงการ RTP Cyber Village ของตำรวจภูธรภาค 7

รอง ผบ.ตร. กล่าวว่า ที่ผ่านมาประชาชนจำนวนมาก ที่ได้รับความเดือดร้อนในคดีลัก วิ่ง ชิง ปล้น เดินทางไปแจ้งความที่โรงพัก ซึ่งหลายคดีต้องใช้ระยะเวลาในการสืบสวน และเจ้าหน้า ที่ตำรวจมีจำนวนจำกัด ทั้งยังมีอีกหลายหน้าที่ แม้ทุกคนจะปฏิบัติงานอย่างแข็งขัน แต่ก็อาจตอบสนองไม่ได้รวดเร็วอย่างที่ ประชาชน ต้องการ และหลายคนเลือกที่จะฝากคดีกับผู้มีอำนาจ เพื่อให้มากดดันการทำงานของตำรวจ

“ดังนั้นจากนี้ไปจึงขอฝากให้หัวหน้าสถานีตำรวจทั้ง 1,484 โรงพัก ปรับแผนการทำงาน โดยประกาศนโยบาย “ขึ้นโรงพัก ไม่ต้องให้ใครมาฝาก” หากดำเนินการได้เร็วคดีค้างท่อตามโรงพักก็จะลดลง สร้างความพึงพอใจให้กับประชาชน” รอง ผบ.ตร.กล่าว.พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวด้วยว่า สิ่งสำคัญเหนืออื่นใดในการทำคดีเพื่อนำผู้กระทำผิดมาลงโทษตามกฎหมาย ต้องอาศัยวัตถุพยาน ทีพิสูจน์หลักฐานเป็นผู้ดำเนินการจัดเก็บ และส่งมอบเพื่อนำมาประกอบคดี แต่ที่ผ่านมาอุปกรณ์ส่วนใหญ่ล้าสมัย และมีค่าบำรุงรักษาสูง เนื่องจากระบบการจัดซื้อจัดจ้าง ในสำนักงานตำรวจแห่งชาติเป็นระบบซื้อขาด เมื่อได้มาก็ต้องมานั่งจ่ายค่าบำรุงรักษา ประกอบกับเทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วจึงทำให้อุปกรณ์ล้าหลัง ดังนั้นจะเร่งผลักดันนโยบาย โดยการเปลี่ยนระบบการจัดซื้อจัดจ้าง เครื่องมือให้เป็นระบบเช่าซื้อ โดยผู้ให้เช่าจะเป็นคนบำรุงรักษาและเปลี่ยนทันทีที่อุปกรณ์ตกรุ่น จะได้ไม่เป็นภาระของหน่วยงาน ในการจัดเก็บเครื่องมือเก่าเก็บ และกลายเป็นงบประมาณสะสม ที่ทำให้หน่วยงานไม่มีงบประมาณมากพอ ที่จะจัดหาเครื่องรุ่นใหม่ ๆ มาทำงานให้สอดคล้องกับหน้างานที่เพิ่มขึ้น

#สำนักงานตำรวจแห่งชาติ #Royalthaipolice


สำนักงานตำรวจแห่งชาติ

error: Content is protected !!