น่าน – ประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนโครงการสร้างความปรองดองสมานฉันท์ โดยใช้หลักทางศาสนาขยายผลสู่ หมู่บ้านศีลธรรม จังหวัดน่าน
เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2566 ที่ห้องประชุมเจ้ามหาพรหมสุรธาดา ชั้น 6 ศาลากลางจังหวัดน่าน นายนิวัฒน์ งามธุระ รองผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน เป็นประธานประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนโครงการสร้างความปรองดองสมานฉันท์ โดยใช้หลักทางศาสนาขยายผลสู่ หมู่บ้านศีลธรรม จังหวัดน่าน ครั้งที่ 1/2566 โดยมีพระราชศาสนาภิบาล เจ้าคณะจังหวัดน่าน คณะกรรมการดำเนินงาน เจ้าหน้าที่ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม ในครั้งนี้ โดยจังหวัดน่านกำหนดลงนามบันทึกข้อตกลงการขับเคลื่อนโครงการสร้างความปรองดองสมานฉันท์ โดยใช้หลักทางศาสนาขยายผลสู่ หมู่บ้านศีลธรรม จังหวัดน่านในวันที่ 4 ตุลาคม 2566 ณ ห้องประชุมเจ้าฟ้าอัตถวรปัญโญ ชั้น 2 ศาลากลางจังหวัดน่าน และจัดกิจกรรม Kick off โครง การสร้างความปรองดองสมานฉันท์ฯ ในวันที่ 7 ตุลาคม 2566 ณ วัดดอนมูล ตำบลดู่ใต้ อำเภอเมืองน่าน จังหวัดน่าน
ทั้งนี้ ด้วยกระทรวงมหาดไทย ได้กำหนดนโยบายการดำเนินโครงการสร้างความปรองดองสมานฉันท์โดยใช้หลักธรรมทางพระพุทธศาสนา “หมู่บ้านรักษาศีล 5 ขยายผลสู่หมู่บ้านศีลธรรม” ในการยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนโดยยึดหลักทางศาสนา และนำมาปฏิบัติจนเป็นวิถีชีวิต เพื่อสร้างวัฒนธรรมการอยู่ร่วมกันด้วยความปรองดองสมานฉันท์ ซึ่งจะก่อให้เกิดสันติ สุขในหมู่บ้านและชุมชน พัฒนาไปสู่หมู่บ้านศีลธรรม ภายใต้ภารกิจของกระทรวงมหาดไทย ซึ่งมีพันธกิจที่เกี่ยวข้องกับประชาชน สมดังพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐ ที่หวังให้ประเทศชาติมั่นคง ประชาชนมีความสุข แก้ไขในสิ่งผิดสืบสานในพระราชปณิธาน ภายใต้ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และให้ประชาชนทุกศาสนามีความปรองดองสมานฉันท์ ลดปัญหาความขัดแย้ง สร้างความมั่นคง ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน โดยใช้หลักศาสนาที่เคารพนับถือ มาประยุกต์ใช้ในชีวิตให้มีความสุข และมีคุณภาพชีวิตที่ดี ก่อเกิดหมู่บ้านศีลธรรมในพื้นที่ต่อไป
สำหรับจังหวัดน่านมีแนวทางการดำเนินโครงการสร้างความปรองดองสมานฉันท์ โดยใช้หลักธรรมทางพระพุทธศาสนา “หมู่บ้านรักษาศีล 5 ขยายผลสู่ หมู่บ้านศีลธรรม” แนวทางการขับเคลื่อนโครงการฯ ดำเนินโครงการโดยใช้หลักพหุสังคม เคารพความแตกต่างทางความเชื่อ สามารถปรับรูปแบบการดำเนินกิจกรรมให้สอดคล้องกับหลักทางศาสนาทุกศาสนา โตยสร้างการมีส่วนร่วมจากผู้นำทุกศาสนาร่วมขับเคลื่อนโครงการฯ ตามหลักปฏิบัติของแต่ละศาสนา และให้ใช้กลไก “3 5 7” บูรณาการแผนงาน โครงการ กิจกรรมต่างๆ กลไก “3 5 7” (“3 ระดับ 5 กลไก 7 ภาคี” นับเป็นกุญแจสำคัญของการขับเคลื่อนสืบสานศาสตร์พระราชา เป็นการขับเคลื่อนในพื้นที่ 3 ระดับ ได้แก่ ระดับชุมชนหรือลุ่มน้ำ ระดับจังหวัดหรือภูมิภาค และระดับชาติ ภายใต้การมีส่วนร่วมของ 5 กลไก ช่วยหนุนเสริมการขับเคลื่อนงาน ได้แก่ กลไกการประสานงานภาคีเครือข่าย กลไกแผนงานและยุทธศาสตร์เชิงบูรณาการ กลไกการติดตามและประเมินผล กลไกการจัดการความรู้ และกลไกการสื่อสารสังคมให้รับรู้ ร่วมด้วย การบูรณาการของ 7 ภาคี คือ ภาครัฐที่ให้การสนับสนุนด้านงบประมาณ กฎหมาย รวมถึงเครื่องมือต่าง ๆ ภาควิชาการและสถาบันการศึกษา ภาคศาสนา ภาคประชาชน ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม สื่อมวลชน)
ประสิทธิ์ สองเมืองแก่น
โทร. 0848084888