สมุทรปราการ – ตร.สอบสวนกลางบุกจับนายกบางแก้วเรียกรับสินบนผู้ประกอบการแลกสัญญาลงนาม
เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 21 ก.ย. 2566.นายศรชัย ชูวิเชียร ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. และนายพิศิษฐ์ พัฒนกิจจำรูญ ผู้อำนวยการสำนัก สืบสวนและกิจการพิเศษ ร่วมกับ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผบก.ปปป.รรท.ผบก.ทล., พ.ต.อ.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ รอง ผบก.ฯ รรท.ผบก.ปปป., พ.ต.อ.อภิชาต โพธิจันทร์ พ.ต.อ.ขวัญชาติ วงศ์ขจรไพบูลย์รอง ผบก.ปปป., พ.ต.อ.สมบัติ มาลัย ผกก.2 บก.ปปป., พ.ต.อ.ธนวัฒน์ หิ้นยกฮิ่น ผกก.1บก.ปปป., พ.ต.อ.อภิชาติ เรนชนะ ผกก.4 บก.ปปป., พ.ต.อ.ชิษณุพงศ์ ไหวดี ผกก.6 บก.ปปป. ได้ร่วมกันจับกุม นายณัฐพงศ์ แตงสุวรรณ อายุ 53 ปี นายกเทศมนตรีเมืองบางแก้ว พร้อมด้วย ของกลางเงินสด จำนวน 1,560,650 บาท
โดยสามารถจับกุมตัวได้ที่ศูนย์การค้าคอมมูนิตี้มอลล์ (Apple loft สถานที่นัดจ่ายเงิน) ห่างจากสำนักงานเทศบาลเมืองบางแก้วราว 3 กิโลเมตร ต.บางแก้ว อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ซึ่งเป็นสถานที่นัดจ่ายเงิน จากนั้นเจ้าหน้าที่นำหมายค้นเข้าตรวจค้นทั้งหมดจำนวน 4 จุด ประกอบด้วย ที่ศูนย์การค้าคอมมูนิตี้มอลล์ (Apple loft สถานที่นัดจ่ายเงิน), จุดที่ 2 บ้าน น.ส.สายพิณ (ภรรยา1), จุดที่ 3 บ้าน น.ส.พิมพ์พรรณ (ภรรยา 2), จุดที่ 4 ห้องทำงานนายกเทศบาลเมืองบางแก้ว สำนักงานเทศบาลเมืองบางแก้ว สมุทรปราการ เพื่อหาหลักฐานต่างๆที่เกี่ยวข้อง โดยจะมีการแถลงข่าวในเรื่องนี้ ช่วงเวลา 15.00 น. ที่สำนักงานปปท. ต่อมาเมื่อเวลา 14.00 น. เจ้าหน้าที่ได้เชิญตัว นายณัฐพงศ์ แตงสุวรรณ นายกเทศมนตรีเมืองบางแก้ว ออกจากห้องทำงาน เพื่อลงมาขึ้นรถตู้ไปยังปปท. โดยระหว่างเชิญตัวมาขึ้นรถนั้น ผู้สื่อข่าวมีโอกาสได้ซักถามเจ้าตัว และออกมาตอบเพียงสั้นๆ ว่าไม่รู้เรื่องเรื่องเงินก้อนดังกล่าว และขอปฎิเสธในเรื่องนี้ ตนเองไม่ทราบเลยเรื่องเงินดังกล่าว
สืบเนื่องจาก เจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย บก.ปปป. ได้รับเรื่องร้องเรียนจากผู้ประกอบการในพื้นที่ อ.บางแก้ว จ.สมุทรปราการ ว่ามีเจ้าหน้าที่ระดับผู้บริหารของเทศบาลเมืองบางแก้ว อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ มีพฤติกรรมเรียกรับเงินสินบนจากผู้ประกอบการ จำนวนร้อยละ 25 ของวงเงินตามสัญญา แลกกับหนังสือคู่สัญญาที่นายกเทศมนตรีจะต้องเป็นผู้ลงนาม อนุมัติ ในโครงการจัดซื้อ จอ LCD ซึ่งต่อมาบริษัทของผู้เสียหาย ได้เข้ายื่นเสนอราคาแข่งขันในระบบ e-bidding และมีการแจ้งผลการแข่งขันราคา เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม 2566 ที่ผ่านมา และเป็นผู้ชนะการเสนอราคาดังกล่าว แต่ปรากฏว่าถูกทางผู้บริหารของ เทศบาลเมืองบางแก้ว อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ เรียกเข้าไปคุย เจรจา พร้อมขอเงินค่าหนังสือคู่สัญญาที่นายกเทศมนตรีจะต้องเป็นผู้ลงนาม จำนวนร้อยละ 25 ของวงเงิน ตามสัญญาที่ได้มีการหักค่าภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว (หรือประมาณ 12,485,046.27 บาท) โดยให้จ่ายก่อน ครึ่งหนึ่ง คิดเป็นเงินจำนวน 1,560,630.84 บาท ถือว่าเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้องและไม่เป็นธรรมต่อ ผู้เสียหาย จึงได้นำหลักฐานเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปปป.
ซึ่งจากการสืบสวน มีพยานหลักฐานชัดเจนเพียงพอเชื่อได้ว่า นายณัฐพงศ์ แตงสุวรรณ นายกเทศมนตรีเมือง บางแก้ว มีพฤติการณ์ร่วมกันเรียกรับทรัพย์สินตามที่ผู้เสียหายมาร้องทุกข์จริง และเห็นว่าผู้กระทำผิดเป็นถึงเจ้าหน้าที่รัฐระดับผู้บริหาร ของเทศบาลเมืองบางแก้ว ซึ่งได้ใช้ตำแหน่งอำนาจหน้าที่ในทางมิชอบและโดยทุจริตเรียกรับสินบนจากผู้เสียหายดังกล่าว ประกอบกับมีข้อมูลว่าเคยมีพฤติกรรมเรียกรับเงินในลักษณะเดียวกันกับผู้ประกอบการอื่นมาแล้วหลายราย เป็นที่มาให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปปป. ประสานความร่วมมือกับทางเจ้าหน้าที่ของ ปปช. ปปท.เพื่อ ใช้วิธีวางแผนเข้าจับกุมในขณะที่ทำการส่งมอบเงินกัน โดยได้นัดหมายให้ผู้เสียหายนำเงินสดจำนวน 1,560,630.84 บาท มาลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน เพื่อใช้ในการส่งมอบให้ นายณัฐพงศ์แตงสุวรรณ ตามที่มีการเจรจากันก่อนหน้านี้
กระทั่งถึงเวลานัดหมาย เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปปป. ได้นัดให้ผู้เสียหาย นำเงินสด 1,560,650 บาท(หนึ่งล้านห้าแสนหกหมื่นหกร้อยห้าสิบบาท) ที่ลงประจำวันไว้เป็นหลักฐานแล้ว ไปส่งมอบให้กับ นายณัฐพงศ์ แตงสุวรรณ โดยมีเจ้าหน้าที่ ปปป. และปปช. ปปท.ได้วางกำลังซุ่มเฝ้าสังเกตการณ์อยู่บริเวณโดยรอบ ก่อนที่จะมีการส่งมอบเงินตามที่มีการเจรจากันไว้ จากนั้นขณะที่นายณัฐพงศ์ แตงสุวรรณ กำลังเดินออกมาจากศูนย์การค้าดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเข้าจับกุม แต่นายณัฐพงศ์ แตงสุวรรณ ได้รีบวิ่งไปบริเวณรถของตนเอง ก่อนจะรีบโยนถุงสีดำ ซึ่งภายในบรรจุเงินของกลาง เข้าไปบริเวณข้างรถสีดำ เจ้าหน้าที่จึงรีบควบคุมตัว นายณัฐพงศ์ แตงสุวรรณ ไว้ทันที
จากการตรวจสอบภายในถุงสีดำ ดังกล่าว พบเงินสด 1,560,650 บาท มีหมายเลขบนธนบัตรตรงกับหมายเลขธนบัตรที่ ลง ประจำวันไว้ทุกฉบับ จึงได้แจ้งพฤติการณ์และข้อกล่าวหาให้นายณัฐพงศ์ แตงสุวรรณ พร้อมแจ้งสิทธิตามกฎหมายให้ทราบ จากนั้นนำตัวผู้ต้องไปตรวจค้นที่ห้องทำงาน และสถานที่เกี่ยวข้อง เพื่อขยายผล และรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติม ก่อนนำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสวนสวน บก.ปปป. เพื่อดำเนินคดีต่อไป
ภาพ/ข่าว
นายโยธิน พรมแตง
บรรณาธิการข่าวอาวุโส
สำนักข่าวความมั่นคง รายงาน