เมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม 2566 นายวิสาห์ พูลศิริรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร ได้มีคำสั่งด่วนถึงนายอำเภอทุกอำเภอทั้ง 8 อำเภอ หัวหน้าส่วนราชการ และหัวหน้าหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สรุปได้ว่า ตามที่ได้เกิดสถานการณ์ฝนตกต่อเนื่อง 3 วันติดต่อกัน ตั้งแต่วันที่ 16-18 กรกฎาคม 2566 ในพื้นที่จังหวัดชุมพร ทำให้ระดับน้ำในคลองต่างๆ เพิ่มสูงขึ้น อาจส่งผลให้บ้านเรือนประชาชนบริเวณที่ลุ่มได้รับผลกระทบ ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อำเภอทุกอำเภอ แจ้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และประชาชนที่อยู่ริมลำห้วยและลำคลอง โดยเฉพาะที่ลุ่มต่ำบริเวณลำห้วยและลำคลอง ให้เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์น้ำอย่างต่อเนื่อง และขอให้แจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยเตรียมพร้อมรับสถานการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้น หากเกิดสถานการณ์รุนแรงให้ดำเนินการตามขั้นตอนของแผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ให้สามารถช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ได้อย่างทันท่วงที และรายงานสถานการณ์ให้จังหวัดทราบโดยด่วน จนกว่าสถานการณ์จะยุติ
นายคงศักดิ์ คงปาน หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) จังหวัดชุมพร เปิดเผยว่า หลังจากในพื้นที่ อ.กระบุรี จ.ระนอง ซึ่งเป็นเขตรอยต่อกับ จ.ชุมพร เกิดสถาน การณ์น้ำท่วมเมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม 2566 ทราบว่าขณะนี้น้ำได้ทยอยไหลเข้าสู่คลองชุมพร ทำให้ ต.บ้านนา ต.วังไผ่ ต.ขุนกระทิง และ ต.ตากแดด อ.เมืองชุมพร เริ่มได้รับผลกระทบบ้างแล้ว แต่สถานการณ์ยังไม่รุนแรงถึงขั้นต้องประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติจากอุทกภัย ส่วนใน อ.สวี ก็มีพื้นที่ได้รับผลกระทบจำนวน 3 ตำบล นอกจากนั้น ยังมีรายงานว่า อ.พะโต๊ะ ซึ่งมีฝนตกหนักถึง 132.2 มม.ก็มีบางพื้นที่เริ่มได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมบ้างแล้ว
วันเดียวกัน นายนวรัตน์ วงศ์ปิ่นเพ็ชร์ นายอำเภอเมืองชุมพร พร้อมด้วย นายธรรมนูญ ศรีนวล นายก อบต.บ้านนา ได้ร่วมกันลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ ต.บ้านนา อ.เมืองชุมพร ซึ่งเริ่มมีน้ำไหลเข้าท่วมผิวการจราจรและบ้านเรือนราษฎรซึ่งอยู่พื้นที่ลุ่มแล้ว
ข่าวแจ้งว่า กระแสน้ำในคลองชุมพรที่ไหลเชี่ยวกรากได้ส่งผลให้ถนนซึ่งเป็นเส้นทางลัดจาก ต.ขุนกระทิง มาวัดพระขวาง อ.เมืองชุมพร ได้รับความเสียหาย เจ้าหน้าที่จึงนำป้ายเตือนไปติดตั้งห้ามรถทุกชนิดห้ามผ่านโดยเด็ดขาดแล้ว
สำนักข่าวความมั่นคง
ศูนย์ข่าวภาคใต้
สุรัตน์ รุกเขตต์ รายงาน