นครพนม – ชาวบ้านโวยลั่น!! ร้องสื่อ ศาลปู่ตาประจำหมู่บ้านถูกนายทุนรื้อฮุบ
22 ก.ค. 2566 12.00 น. ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ บ้านปากทวย หมู่ที่5 ต.เวินพระบาท อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม หลังรับการร้องเรียนถึงบริเวณศาลปู่ตา ประจำหมู่บ้านปากทวย พื้นที่กว่า 1งาน ที่เคยประดิษฐฐานตั้งอยู่ปากน้ำคลองทวยริมฝั่งแม่น้ำโขง ซึ่งเป็นที่ของชาวบ้านร่วมกันสร้างศาลปู่ตาบูชาเพื่อใช้สักการะบูชาและเชื่อว่าจะคอยปกปักษ์รักษาให้ชาวบ้านปากทวยแห่งนี้ให้คล้าวคลาดจากภยันอันตรายต่างๆตลอดมา จึงได้จัดมีพิธีบวงสรวงและรำถวายปู่ตากันมาเป็นประจำแทบทุกปี ตั้งแต่รุ่นสมัยปู่ย่าตายายกันมาหลายชั่วอายุ
ต่อมาชาวบ้านร้องเรียนว่า นายทุนซึ่งมาซื้อที่ดินแปลงที่ติดกันกับศาลปู่ตาที่อยู่ติดกับแม่น้ำโขง ซึ่งแต่เดิมพื้นที่บริเวณดังกล่าวแห่งนี้ที่ช้าวบ้านใช้ประโยชน์ร่วมกันและเป็นที่ตั้งของศาลปู่ตาของหมู่บ้าน เนื้อที่กว่า 1ไร่ และต่อมาถูกน้ำกัดเซาะตลิ่งเรื่อยมากระทั่งเหลือพื้นที่อยู่เพียงประมาณ 1งาน ขณะที่บริเวณที่ดินของนายทุนที่เข้ามาซื้อ ที่ไม่ได้อยู่ติดกันกับแม่น้ำโขงและ มีเพียงที่ดินติดกันกับคลองน้ำทวยเพียงด้านเดียวกลับอ้างสิทธิ์รื้อฮุบที่ดินสถานที่ตั้งของศาลปู่ตา เข้ามาเป็นพื้นที่ของตนโดยมิชอบ
นายสมชาย พงภักดี อายุ 58 ปี ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 3 ต.เวินพระบาท ให้รายละเอียดต่อผู้สื่อข่าวว่า เดิมพื้นที่ของศาลปู่ตาแห่งนี้อยู่เขตของชาวบ้านหมู่ที่ 3 แห่งนี้ แต่ต่อมาได้จัดพื้นที่ปกครองของตำบลใหม่ ทำให้ ศาลปู่ตา ขึ้นกับเขตการดูแลของบ้านปากทวย หมู่ที่ 5 ต.เวินพระบาท แต่อย่างไรก็ตามชาวบ้านก็ยังมีความเลื่อมใสศรัทธาต่อศาลปู่ตา จึงร่วมกันจัดงานประเพณีรำบวงสรวงถวายประจำแทบทุกปี
สำหรับปัญหาอุปสรรคเริ่มเกิดขึ้นภายหลังจากพื้นที่สาธารณะที่ชาวบ้านต่างเคยใช้ประโยชน์ร่วมกัน ซึ่งอยู่ริมตลิ่งแม่น้ำโขงถูกน้ำกัดเซาะเข้ามาถึงหน้าศาลปู่ตาแห่งนี้ ขณะที่บริเวณรอบด้านของศาลปู่ตาเป็นพื้นที่ดินทำกินของชาวบ้านที่มีเอกสิทธิ์ถูกต้อง ทำให้ศาลปู่ตาเหลือเพียงพื้นที่ด้านหน้าติดกับแม่น้ำโขงเพื่อการสัญจรเพียงด้านเดียว ชาวบ้านจึงอาศัยความสนิทชิดเชื้อของชุมชนเจ้าของที่ดินเดิม อนุญาตให้เดินทางเข้าออกผ่านที่ดินแปลงที่เกิดกรณีพิพาทได้ตามปกติ กระทั่งที่ดินแปลงนี้ได้ถูกขายต่อให้กับนายทุนที่มาจากต่างพื้นที่และไม่อนุญาตให้ชาวบ้านสัญจรเดินทางผ่านเข้าออกผ่านในที่ดินของตน จนทำให้เกิดการกระทบกระทั่งกับชาวบ้านที่ต้องการเดินทางเข้ามาสักการะและจัดกิจกรรมบวงสรวงศาลปู่ตา จนต่อมานายทุนเจ้าของที่ดิน ได้ทำการรื้อถอนศาลปู่ตาออกจนหมดสิ้นสร้างความไม่พอใจของชาวบ้าน
นางศุภลักษณ์ ศรีพิมพ์ อายุ 65 ปี แม่บ้านผู้นำชุมชนกลุ่มสตรีรำบวงสรวงถวายศาลปู่ตา กล่าวว่า หลังจากที่กลุ่มชาวบ้านไม่สามารถเข้าไปกราบสักการะได้อย่างแต่ก่อน อีกทั้งมีการรื้อทำลายศาลแห่งนี้ออกไป จึงได้ปรึกษาทนายอาสาและรวมกลุ่มเดินทางเข้ายื่นหนังสือร้องเรียนต่อ ศูนย์ดำรงธรรม อ.ท่าเทน จ.นครพนม พร้อมทั้งร้องขอความยุติธรรมจากศาล ขณะนี้กำลังอยู่ในขั้นตอนนำสืบพยานหลักฐานต่างๆ
ขณะเดียวกัน นางศุภลักษณ์ แม่บ้านของกลุ่มสตรีฯ ได้กล่าวถึงข้อสังเกตกับผู้สื่อข่าวว่า นับตั้งแต่วันที่ศาลปู่ตาถูกรื้อถอนเป็นต้นมานั้น บ้านปากทวยได้เกิดเหตุภัยพิบัติจากลมฟ้าพัดพาบ้านเรือนเสียหายหลายหลัง ทั้งที่แต่เดิมพื้นที่ของชาวบ้านปากทวยต่างคล้าวคลาดจากพายุภัยพิบัติกันมาตลอด จึงเชื่อว่าเกิดจากปู่ตาที่เคยปกปักรักษาคุ้มครองไร้ศาลสำหรับให้ชาวบ้านได้สักการะบูชาก็อาจเป็นได้ ขณะนี้กลุ่มชุมชนชาวบ้านปากทวย ต่างพากันรวบรวมเงินทองเท่าที่พอจะหาได้ปลูกสร้าง ศาลปู่ตาแห่งใหม่ ในพื้นที่หมู่ที่ 3 ริมคลองน้ำทวย ไม่ห่างจากที่ตั้งของศาลปู่ตาเดิมมากนัก
ส่วนกรณีพิพาทพื้นที่ศาลปู่ตาที่ถูกนายทุนรื้อถอนออกไป ชาวบ้านชุมชนเวินพระบาทก็ยังคงเดินหน้าขอความยุติธรรม เพื่อทวงพื้นที่ดังกล่าวคืนกลับให้ชุมชนอย่างถึงที่สุด
เทพข่าวร้อน
เพลิงพระกาฬ รายงาน