ผู้ว่าฯลำพูน นำทุกภาคส่วนร่วมกิจกรรมปลูกต้นไม้ เนื่องในวันต้นไม้ประจำปีของชาติ เพื่ออนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรป่าไม้ของชาติ และเพิ่มพื้นที่สีเขียว
วันนี้ (28 มิถุนายน 2566) นายสันติธร ยิ้มละมัย ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน พร้อมด้วย นายอนุพงษ์ วาวงศ์มูล นายชาตรี กิตติธนดิตถ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน นายโยธิน ประสงค์ความดี ปลัดจังหวัดลำพูน นายบุญส่ง ไชยมณี หัวหน้าสำนักงานจังหวัดลำพูน หัวหน้าส่วนราชการจังหวัด ข้าราชการและเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยงาน ร่วมอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรป่าไม้ของชาติ และเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้กับจังหวัดลำพูน
นายบุญส่ง ไชยมณี หัวหน้าสำนักงานจังหวัดลำพูน กล่าวว่า ตามที่คณะรัฐมนตรีได้กำหนดให้ วันวิสาขบูชาของทุกปี เป็น “วันต้นไม้ประจำปีของชาติ เมื่อวันที่ 31 มกราคม 2532 โดยให้กรมป่าไม้ เชิญชวนทุกจังหวัด หน่วยงานราชการ หน่วยงานเอกชน และประชาชน ร่วมจัดกิจกรรมปลูกต้นไม้ในวันดังกล่าว โดยร่วมกันปลูกต้นไม้บริเวณหน่วยงาน หรือสถานที่อื่นที่เห็นสมควร เช่น ที่สาธารณประโยชน์ ป่าชุมชน ศาสนสถาน โรงเรียน ริมแม่น้ำลำคลอง สองข้างทางสาธารณะ เป็นต้น
สำหรับจังหวัดลำพูน ได้กำหนดจัดกิจกรรมการปลูกต้นไม้ เนื่องในวันต้นไม้ประจำปีของชาติ ประจำปี พ.ศ. 2566 จังหวัดลำพูน ในวันที่ 28 มิถุนายน 2566ณ บริเวณศูนย์ราชการจังหวัดลำพูน โดยมีส่วนราชการที่มีที่ตั้งอยู่ในศูนย์ราชการจังหวัดลำพูน และหน่วยงานภาคีเครือข่าย จำนวน 20 หน่วยงาน ร่วมปลูกต้นไม้ ชนิดไม้ที่ปลูกประกอบด้วย ต้นทองอุไร ต้นเหลืองปรีดียาธร ต้นสนมังกร ต้นคริสติน่า เป็นต้น โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการสร้างและกระตุ้นจิตสำนึกให้ของข้าราชการ เจ้าหน้าที่ในหน่วยงาน และประชาชน ได้เห็นความสำคัญของการอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรป่าไม้ของชาติ และเพิ่มพื้นที่สีเขียวของจังหวัดลำพูน
ด้าน ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน กล่าวว่า จังหวัดลำพูนได้กำหนดวิสัยทัศน์ในการพัฒนา (พ.ศ. 2566-2570) ไว้ว่า เมืองเศรษฐกิจสร้างสรรค์ บนความพอเพียง โดยมีเป้าหมายในการพัฒนาที่สำคัญคือ การสร้างความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ การพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดีของประชาชนทุกช่วงวัย รวมทั้ง การอนุรักษ์ฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมและการรักษาสภาพแวดล้อม โดยการบูรณาการทุกภาคส่วนในการร่วมสร้างและพัฒนาจังหวัดลำพูนของเมืองให้น่าอยู่อย่างสมดุลและยั่งยืน กิจกรรมในวันนี้ นอกจากจะเป็นการสร้างและกระตุ้นจิตสำนึก เป็นการปลูกต้นไม้ในใจคนให้เห็นถึงความสำคัญของการอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรป่าไม้ของชาติแล้ว ยังเป็นการบรรเทาวิกฤตโลกร้อน ช่วยป้องกันและลดผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศ และลดมลภาวะเป็นพิษจากฝุ่นและหมอกควัน อีกด้วย
นที มีเดช