สว.ลงพื้นที่จังหวัดลำพูน ติดตามความก้าวหน้า การพัฒนาและส่งเสริมผลิตภัณฑ์ผ้าทอย้อมสีธรรมชาติ จังหวัดลำพูน ตลอดจนขับเคลื่อนการดำเนินงานศูนย์ขจัดความยากจนและพัฒนาคนทุกช่วงวัยอย่างยั่งยืน
วันนี้ (12 มิถุนายน 2566) เวลา 10.00 น. ที่หอประชุมที่ว่าการอำเภอทุ่งหัวช้าง สมาชิกวุฒิสภาโดยคณะกรรมการโครงการสมาชิกวุฒิสภาพบประชาชนในพื้นที่จังหวัดภาคเหนือ (ตอนบน) นำโดยพลเอก สกนธ์ สัจจานิตย์ ในฐานะรองประธานคณะกรรมการโครงการสมาชิกวุฒิสภาพบประชาชนในพื้นที่จังหวัดภาคเหนือ (ตอนบน) คนที่หนึ่ง พร้อมด้วย นายณรงค์ อ่อนสะอาด นายจิระชัย มูลทองโร่ย สมาชิกวุฒิสภาจังหวัดลำพูน และคณะฯ ลงพื้นที่ติดตามความก้าวหน้าการพัฒนาและส่งเสริมผลิตภัณฑ์ผ้าทอย้อมสีธรรมชาติ จังหวัดลำพูน ตลอดจนขับเคลื่อนการดำเนินงานศูนย์ขจัดความยากจนและพัฒนาคนทุกช่วงวัยอย่างยั่งยืน โดยมีนายบุญส่ง ไชยมณี หัวหน้าสำนักงานจังหวัดลำพูน พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการจังหวัด นายอำเภอทุ่งหัวช้าง ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ต้อนรับ
ทั้งนี้จังหวัดลำพูนได้ส่งเสริมและขับเคลื่อนการพัฒนาผลิตภัณฑ์ผ้าทอด้วยการย้อมสีธรรมชาติ อย่างจริงจัง สอดรับนโยบายสำคัญของกระทรวงมหาดไทย โดยมุ่งหวังให้กลุ่มผู้ผลิตผ้าทอ ผู้ประกอบการผ้า พัฒนาผ้าบนพื้นฐานที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและสอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภค อีกทั้งเป็นการสืบสานภูมิปัญญาและองค์ความรู้การย้อมผ้าด้วยสีธรรมชาติในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ผ้าไทย เพื่อน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณและสืบสานพระราชปณิธานของสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอเจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา อีกด้วย
สำหรับ การขับเคลื่อนการดำเนินงานของศูนย์ขจัดความยากจนและพัฒนาคนทุกช่วงวัยอย่างยั่งยืน ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง (ศจพ.) ในพื้นที่จังหวัดลำพูน ได้ประกาศเป็นวาระสำคัญของจังหวัด เพื่อผนึกกำลังทุกภาคส่วนร่วมกันบูรณาการช่วยเหลือครัวเรือนยากจนของจังหวัดลำพูนให้พ้นจากสภาพปัญหาและมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น โดยได้กำหนด Model การขับเคลื่อนขจัดความยากจนฯ “แก้จน คนหละปูน” ด้วยกระบวนการขับเคลื่อนทุกมิติเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนทุกช่วงวัย
ทั้งนี้ โครงการสมาชิกวุฒิสภาพบประชาชนในพื้นที่จังหวัดภาคเหนือ (ตอนบน) ถือเป็นเวทีที่เปิดโอกาสให้หน่วยงานทุกภาคส่วนได้เข้ามาร่วมกันแลกเปลี่ยนเรียนรู้และช่วยกันขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศตั้งแต่ระดับ ฐานราก ชุมชน สังคม และระดับประเทศ ให้สอดคล้องกันและเป็นระบบ นำไปสู่สังคมที่ประชาชนมีความสุข มีคุณภาพชีวิตที่ดี มีสังคมที่มีความสงบสุข ประเทศชาติมีความสงบเรียบร้อย มีความสามัคคีปรองดอง และมีการพัฒนาอย่างยั่งยืนในทุกด้าน บนพื้นฐานของการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขโดยมีสมาชิกวุฒิสภาเป็นข้อกลางในการขับเคลื่อนนำเสนอข้อมูลในระดับพื้นที่เพื่อกำหนดเป็นนโยบายของแต่ละหน่วยงานเพื่อการพัฒนาที่เป็นรูปธรรมต่อไป
นที มีเดช รายงาน