ประจวบฯ – ล้วงตับเซียนพระ ย่องเบาเข้าห้องยกเค้าพระเครื่อง.. หมดหีบ
31พ.ค.66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กล้องวงจรปิดบริเวณหน้าสถานีรถไฟอำเภอเมืองประจวบฯจับภาพหัวขโมยเป็นชายวัยกลางคนสวมเสื้อเหลืองกางเกงแดงขี่จยย.สีฟ้าไม่ทราบเลขทะเบียน วนเข้ามาจอดบริเวณชานชาลาด้านหน้าสถานีรถไฟเมืองประจวบฯ โดยทำทีเป็นชาวบ้านมารอรับญาติกลับจากขบวนรถไฟกำลังเดินไปมาอยู่ด้านหน้าชานชาลานั่งพักผู้โดยสาร จากนั้นจึงเดินไปที่ร้านขายอาหารตามสั่งที่อยู่บริเวณด้านข้างสถานีรถไฟ โดยหัวขโมยคนดังกล่าวมีพฤติกรรมเดินตรวจดูว่ามีไครอยู่ภายในร้านหรือไม่ ก่อนสบโอกาสแอบย่องเบาเข้าไปภายในร้านยกเค้าทรัพย์สินของเจ้าของร้านขายอาหารตามสั่ง แล้วเดินออกไปจากร้านอย่างไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ต่อมาผู้สื่อข่าวลงพื้นที่จุดเกิดเหตุ ทราบว่าเป็นร้านขายข้าวแกงและอาหารตามสั่ง ตั้งอยู่บริเวณด้านข้างสถานีรถไฟเมืองประจวบฯ พบนายปรีชา ประจวบดี หรือลุงเปี๊ยก อายุ 69 ปี อดีตพนักงานขับรถไฟของสถานี เป็นเจ้าของร้านที่ถูกหัวขโมยแอบย่องเบาเข้าไปลักเอาทรัพย์สินภายในร้านที่ตนอาศัยหลับนอนหลังจากให้บริการขายอาหารตามสั่งให้กลับผู้โดยสารที่เดินทางไปมากับขบวนรถไฟมานานหลายปี โดยลุงเปี๊ยกเล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า ช่วงเกิดเหตุประมาน 4-5 โมงเย็นตนกับพวกนั่งดูกลุ่มเล่นหมากรุกอยู่บริเวณด้านหลังร้าน ไม่ทันสังเกตว่ามีความผิดปกติอยู่บริเวณข้างห้องนอนของตนเองเพราะห่างจากจุดที่ตนนั่งชมหมากรุกเพียงสองเมตรจึงไม่คิดว่าเจ้าหัวขโมยจะกล้าเข้ามาฉกเอาทรัพย์สินไป
ลุงเปี๊ยกเล่าต่อไปว่า หลังจากเสร็จจากกิจกรรมชมหมากรุกจึงแยกย้ายกันกลับ ตนจึงเดินเข้าไปในห้องสังเกตเห็นไม้ค้ำบานหน้าต่างมันกลับหัวเปลี่ยนที่ค้ำ นึกเอะใจตรวจสอบทรัพย์สินจึงรู้ว่าพระเครื่องที่ตนเองเก็บสะสมมาเป็นเวลาหลายสิบปีถูกเจ้าหัวขโมยยกเค้าไปเกือบหมดเกลี้ยง จากนั้นตนจึงไปขอดูกล้องวงจรปิดบนสถานีรถไฟก่อนเข้าแจ้งความไว้ที่สภ.เมือง จึงทราบพฤติการณ์ของเจ้าหัวขโมย ตามคลิปเห็นว่าหัวขโมยกำลังเดินไปมาอยู่บริเวณด้านหน้าสถานีรถไฟจากนั้นมีการนำผ้าเช็ดหน้าสีแดงออกมามัดเพื่อปกปิดใบหน้าจากกล้องวงจรปิด เป็นช่วงระหว่างที่ตนกำลังนั่งชมหมากรุกอยู่หลังร้าน จากในคลิปจะเห็นว่าเขาเดินมาทางด้านหลังร้านเพื่อมาดูว่าตนอยู่ในร้านหรือไม่ก่อนจะย่องเข้าไปภายในห้อง ส่วนทรัพย์สินอย่างอื่นตรวจสอบแล้วไม่มีอะไรหายนอกจากพระเครื่องเท่านั้น จึงสงสัยว่าหัวขโมยคนนี้หน้าจะมีใบสั่งจากกลุ่มเซียนพระบางลาย เพราะตนเคยนำพระเครื่องที่เก็บสะสมมาหลายสิบปีออกมาให้บันดาเซียนพระหลายลายได้ชม โชคดีที่พระเครื่องชุดเบ็ญจภาคีที่ตนหวงมากเพราะมีราคาแพงเก็บไว้อีกที่จึงไม่ได้หายไปด้วย
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับตนครั้งนี้จึงเป็นบทเรียนให้ตนต้องระวังให้มากกว่าเก่า และอยากฝากหากไครทราบเบาะแสเจ้าหัวขโมยให้บอกตนมีสินน้ำใจเล็กน้อยตอบแทง ถือเป็นการช่วยเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกทางในการติดตามหาหัวขโมยต่อไป
นัคริน/รายงานข่าว