องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน หรือ อพท. โดย สำนักงานพื้นที่พิเศษ ๔ (อพท.๔) คว้าใบประกาศเกียรติคุณโครงการสนับสนุนกิจกรรมลดก๊าซเรือนกระจก หรือ LESS จากการส่งเสริมสนับสนุนธนาคารป่าต้นไม้บ้านท่าต้นธง พื้นที่ชมรมส่งเสริมการท่องเที่ยวโดยชุมชนไทยชนะศึก ตำบลไทยชนะศึก อำเภอทุ่งเสลี่ยม จังหวัดสุโขทัย
พันเอก นาวิน ปรีชาพณิชยกุล ผู้จัดการสำนักงานพื้นที่พิเศษ ๔ หรือ อพท.๔ กล่าวว่า อพท. ๔ ตั้งใจผลักดันเส้นทางการท่องเที่ยวโดยชุมชนเชิงอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม การท่องเที่ยวเชิงจิตอาสา และสร้างเส้นทางการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพรองรับตลาดคุณภาพสูง โดยการร่วมผลักดันกับชมรมส่งเสริมการท่องเที่ยวโดยชุมชนไทยชนะศึก ส่งกิจกรรมธนาคารต้นไม้บ้านท่าต้นธงเข้ารับรางวัลมาตรฐาน LESS โดยบูรณาการเครือข่ายจังหวัดสุโขทัย ได้แก่ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรจังหวัดสุโขทัย ศูนย์ป่าไม้สุโขทัย สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดสุโขทัย ชุมชนไทยชนะศึก สร้างฐานข้อมูลต้นไม้ในการเข้ารับรองมาตราฐานคาร์บอนเครดิตเพื่อเป็นชุมชนต้นแบบในสุโขทัยในการขายคาร์บอนเครดิตในอนาคต
ทั้งนี้ อพท.๔ เริ่มดำเนินการสนับสนุนพื้นที่ตำบลไทยชนะศึก มาตั้งแต่ปี ๒๕๖๑ จนถึงปัจจุบัน ได้พัฒนากิจกรรมเพื่อสร้างเส้นทาง BCG ณ ป่าชุมชนบ้านท่าต้นธง ตำบลไทยชนะศึก อำเภอทุ่งเสลี่ยม จังหวัดสุโขทัย โดยเมื่อวันที่ ๒๘ พฤศจิกายน – ๒ ธันวาคม ๒๕๖๕ ในปีที่ผ่านมาได้ดำเนินการจัดกิจกรรมเก็บข้อมูลต้นไม้ เพื่อเสนอเข้ารับรางวัลมาตรฐาน LESS ไม่น้อยกว่า ๕ ไร่ ในปริมาณขนาด ๓,๘๐๐ ไร่ เพิ่มพื้นที่สีเขียวและปกป้องฟื้นฟูระบบนิเวศ ด้วยการปลูกต้นไม้ช่วยดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ลดภาวะโลกร้อน ลดปริมาณ PM 2.5 ในพื้นที่ และลดภาวะการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ (Climate Change) ตลอดจนทำให้ชุมชนได้เข้ามามีส่วนร่วมในการสร้างสมดุลระหว่างมนุษย์ ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รวมถึงการสร้างอาชีพที่ยั่งยืนได้
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ ๒๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๖ สำนักงานพื้นที่พิเศษ ๔ (อพท.๔) ผ่านการรับรองตามมาตรฐานและได้รับใบประกาศเกียรติคุณจากโครงการสนับสนุนกิจกรรมลดก๊าซเรือนกระจก หรือ LESS (Low Emission Support Scheme) จากการจัดกิจกรรมพัฒนาเส้นทาง BCG คาร์บอนเครดิต พื้นที่ชมรมส่งเสริมการท่องเที่ยวโดยชุมชนไทยชนะศึก ณ ป่าชุมชนท่าต้นธง ตำบลไทยชนะศึก อำเภอทุ่งเสลี่ยม จังหวัดสุโขทัย ส่งเสริมธนาคารต้นไม้ชุมชนบ้านท่าต้นธง รวบรวมข้อมูลกักเก็บคาร์บอนไดออกไซด์ จากพื้นที่ ๓,๘๐๐ ไร่ และความสามารถในการกักเก็บคาร์บอนไดออกไซด์ได้กว่า ๑๒๘,๘๒๘.๒๕ ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า ซึ่งธนาคารต้นไม้ชุมชนบ้านท่าต้นธง ได้รางวัลในครั้งนี้ ถือเป็นครั้งแรกในจังหวัดสุโขทัยและได้เป็นอันดับ ๒ ของประเทศในปี ๒๕๖๖ จากการวัดค่าเฉพาะไม้ป่าหรือไม้ยืนต้น อาทิ ต้นอ้อยช้าง ต้นเต็ง ต้นมะค่า เพื่อสร้างป่า ที่สามารถกักเก็บค่าบอนไดออกไซด์ได้จริงและมีประสิทธิภาพ สะท้อนให้เห็นว่าบ้านท่าต้นธงสามารถฟื้นคืนป่ากลับมาได้สำเร็จอย่างยั่งยืน จากอดีตที่เคยแห้งแล้ง ชาวบ้านส่วนใหญ่ซึ่งมีอาชีพทำไร่ ทำนา กลับกลายเป็นผืนป่าต้นน้ำที่ชุ่มชื้น ได้สร้างอาชีพ สร้างรายได้ และสร้างการรักความสามัคคีและอนุรักษ์ป่าให้กลับคืนมา ส่งต่อให้ลูกหลานต่อไป
นอกจากนี้ อพท.๔ วางแผนสร้างเป็นต้นแบบ ด้านการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ การท่องเที่ยวเชิงจิตอาสา การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพโดยการจัดทำ Root เส้นทางการท่องเที่ยว BCG เสนอขายเส้นทางการท่องเที่ยวชุมชนรูปแบบใหม่ ณ ชมรมส่งเสริมการท่องเที่ยวโดยชุมชนไทยชนะศึก ถือเป็นกิจกรรม PRODUCT TESTING สู่ตลาดมูลค่าสูงระดับประเทศ ผลลัพธ์สำคัญที่เกิดขึ้นจากการพัฒนาการท่องเที่ยวโดยชุมชนคือ การพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนในแหล่งท่องเที่ยวโดยชุมชนในการพึ่งพาตนเองด้านเศรษฐกิจควบคู่กับการรักษาสิ่งแวดล้อม และการใช้ประโยชน์จากภูมิปัญญาท้องถิ่นอย่างมีคุณค่า เช่น การลดรายจ่ายในครัวเรือนและลดต้นทุนในการให้บริการนักท่องเที่ยว การเพิ่มรายได้ของครัวเรือนและสร้างมูลค่าเพิ่มของผลลิตในชุมชน การเล็งเห็นคุณค่าของวัฒนธรรมท้องถิ่น ก่อให้เกิดการอนุรักษ์ ฟื้นฟูและจัดการมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมในชุมชน นำมาเผยแพร่และสร้างคุณค่าผ่านกระบวน การเรียนรู้ของการท่องเที่ยวโดยชุมชนสอดคล้องกับการท่องเที่ยวตามแนวคิด BCG คือ การท่องเที่ยวและเศรษฐกิจสร้างสรรค์มีการพัฒนาและเพิ่มมูลค่าสินค้าและบริการโดยคนในชุมชน ส่งเสริมให้คนในชุมชนเห็นคุณค่าและอัตลักษณ์ของสินค้าทางการท่องเที่ยวในแต่ละพื้นที่ เกิดการกระจายตัวของนักท่องเที่ยวและการกระจายรายได้จากการท่องเที่ยวอย่างทั่วถึงและเป็นธรรม บ้านท่าต้นธงยังสามารถเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยโลกด้วยการกักเก็บคาร์บอนได ออกไซด์ ลดโลกร้อนลดปัญหาเรื่อง PM 2.5 ร่วมทั้งช่วยลดการเปลี่ยนของสภาพภูมิอากาศ (Climate Changes) ส่งเสริมสุขภาพที่ดีให้คนในชุมชนได้อีกด้วย
พงศ์เทพ สาคร สุโขทัย