ตราด – ผวา! พบบ้าน 2 ชั้นริมคลองทรุด หวั่นถล่มทับชาวบ้าน
(8 ก.พ. 66) ที่บ้านเลขที่ 102/1 หมู่ 7 ต.คลองใหญ่ อ.คลองใหญ่ จ.ตราด เป็นบ้าน 2 ชั้น ริมคลอง อ.คลองใหญ่ จ.ตราด หลังชาวบ้านพบทรุดตัวและมีรอยร้าวหลายจุด ชาวบ้านใกล้เคียงหวั่นพังถล่ม วอนภาครัฐเข้าดูแลป้องกันและแก้ปัญหาโดยด่วน ชาวบ้านเผยบ้านหลังดังกล่าวไม่มีคนอยู่มานานแล้ว ประชาชนที่เดินผ่านไปมาเกิดอาการกลัวและเกรงจะได้รับอันตรายหากบ้านหลังดังกล่าวถล่มลงมา
เบื้องต้นทางเทศบาลตำบลคลองใหญ่ได้รับทราบเรื่องแล้ว และได้นำเชือกมากั้นบริเวณที่เกิดเหตุไว้ เพื่อไม่ให้ชาวบ้านเข้ามาบริเวณใกล้เคียง และให้เจ้าหน้าที่ได้ทำการตัดไฟฟ้าแล้ว หลังได้รับแจ้ง นายวิระชาญ ประทีปาระยะกุล นายกเทศมนตรีตําบลคลองใหญ่ รีบรุดไปตรวจสอบ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่เทศบาลและผู้ที่เกี่ยวข้องออกตรวจสอบ และได้ประสานงานไปยังเจ้าของบ้านให้มารับทราบ ทราบชื่อเจ้าของบ้านคือนายชาลี โดยบอกว่าตนเองได้ปิดทิ้งไว้นานแล้วหลายปี ซึ่งตนเองได้พาลูกๆไปอยู่ที่สวนกันหมด เมื่อก่อนตนเองได้เปิดบ้านรับซื้อกู้งปลามาตลอด แต่เนื่องด้วยเศรษฐกิจไม่ค่อยดีตนเองเลยหยุดพักเข้าไปทําสวนทุเทียน จึงได้ปิดบ้านทิ้งไว้เพราะว่าอยู่แถวนี้ไม่มีอะไรทํา ซึ่งบ้านหลังนี้ตนได้สร้างมานานหลายปีแล้วก็จําความได้ก็ประมาณ เกือบ 50 ปี ซึ่งอยู่ติดกับริมคลองในคลองใหญ่
ผู้สื่อข่าวได้สอบถามนางติ๊ด ซึ่งญาติพี่น้องที่อยู่ติดกันเล่าให้ฟังว่า ตนเองก็อยู่ติดกันมานานกว่า 40 ปีมาแล้ว เมื่อตอนช่วงเย็นของวันที่ 7 กพ.ที่ผ่านมา ได้ยินเสียงดังมากรีบวิ่งออกจากบ้านทันที ด้านนายชาลีเจ้าของบ้านบอกว่าตนเองได้ไปทําเรื่องรื้อถอนกับทางเทศบาลตําบลคลองใหญ่แล้วพร้อมที่จะรื้อถอนทันที ก็กลัวเหมือนกันกลัวจะมีคนอยู่ข้าวบ้านได้รับอันตราย
ด้านนายธนกร สงวนพงษ์ นักวิศวกรโยธาชํานาญการพิเศษ จ.ตราด ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบความมั่นคงของบ้าน ทราบว่าบ้านหลังนี้ทรุดตัวลงแตกร้าวข้างบ้านไปทั่วและแยกแตกร้าวฝ่าข้างบ้านลงมาเป็นรอยยาวลงมาไปทั่วอย่างเห็นได้ชัด นายธนกรได้บอกว่ากลัวจะล้มทับผู้ที่เดินสัญจรไปมาตามสะพาน ยังดีมีตัวบ้านด้านหลังยึดไว้ทางเทศบาลจึงได้นําเชือกไปกั้นไว้ เพื่อความปลอดภัยพร้อมให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องของเทศบาลตรวจสอบตลอด 24 ชั่วโมง เพราะว่าหน้าบ้านทรุดตัวลงมามากแล้วและมีเสียงลั่นเป็นบางครั้งในตัวบ้าน ดั้งนั้นทางเทศบาลต้องรีบดำเนินการรื้อเร่งด่วนต่อไป
ภาพ/ข่าว วิเชียร ม่วงสี จ.ตราด
พรเทพ เขม้นเขตวิทย์ รายงานจากศูนย์รวมข่าวภาคตะวันออก