ข่าวใหม่อัพเดท » ครอบครัว “พิมที” เผยถึงความภาคภูมิใจและฝันเห็นเลข 422 ซึ่งเป็นเลขเรือหลวงสุโขทัย ก่อนอับปาง

ครอบครัว “พิมที” เผยถึงความภาคภูมิใจและฝันเห็นเลข 422 ซึ่งเป็นเลขเรือหลวงสุโขทัย ก่อนอับปาง

27 ธันวาคม 2022
0

ครอบครัว “พิมที” เผยถึงความภาคภูมิใจและฝันเห็นเลข 422 ซึ่งเป็นเลขเรือหลวงสุโขทัย ก่อนอับปาง

ว่าที่เรือตรี ภาสกร พิมที อายุ 24 สังกัด กรม ศสร.สอ.รฝ. พร้อมด้วยคุณแม่ แก้วมะนี พิมทีอายุ 46 ปี และนายศุกลภัทร พิมที อายุ 15 ปี น้องชายคนเล็ก ซึ่งเป็นภรรยาและบุตรชายของ พ.จ.อ.อำนาจ พิมที และได้รับพระมหากรุณาธิคุณเลื่อยศเป็น นาวาตรี อำนาจ พิมที กล่าวในโอกาส พิธีพระราชทานเพลิงศพคุณพ่อว่า ผมเป็นหนึ่งในครอบครัว ที่สูญเสีย มีความรู้สึกว่าเสียใจเป็นอย่างมาก แต่อีกใจหนึ่งก็มีความรู้สึกภูมิใจเป็นอย่างมาก ที่พ่อได้รับเกียรติอย่างสูงสุดของชายชาติทหาร ขอบคุณหลายๆ หน่วยงาน ขอบคุณทางสำนักพระราชวัง ที่ให้เกียรติและจัดงานให้พ่ออย่างสมเกียรติ ในฐานะทหารคนหนึ่ง ซึ่งคิดว่าคุณพ่อผมต้องภูมิใจเป็นอย่างมาก และครอบครัวของผมก็มีความภาคภูมิใจ สำหรับกองทัพเรือขอขอบคุณครับที่ให้คำมั่นว่าจะไม่ทิ้งครอบครัวของผู้สูญเสียทุกท่าน ต้องขอขอบคุณจากใจจริงๆ ครับ

ด้าน คุณแม่ นางแก้วมะนี อายุ 46 ปั ภรรยาของนาวาตรี อำนาจ พิมที กล่าวถึงความรู้สึกและสิ่งบอกเหตุที่เกิดขึ้นว่า เขาอยากจะไปปฏิบัติหน้าที่ตรงนี้เป็นพิเศษ ให้พาไปซื้อของใหม่เช่น หัวเข็มขัดใหม่ แถบแพรใหม่ และเสื้อจิตอาสา เตรียมใหม่หมดเลย แบบเนี๊ยบมาก และบอกว่าจะกลับมาในวันที่ 20 ธันวาคม และเขาก็กลับมาในวันที่ 20 ธันวาคม นี้จริงๆ ในเรื่องของสิ่งบอกเหตุว่าจะเกิดขึ้นอะไรนั้น ถ้าเป็นชาวพุทธก็อาจจะคิดว่าเป็นความฝัน เพราะได้ฝันว่าตัวเองไปงานขาวดำ ในวันที่ 15 ธันวาคม และเจอเพื่อนร่วมรุ่นของเขา ซึ่งเป็นนักเรียนจ่าทหารเรือรุ่นเดียวกับเขาเยอะมาก และมีบรรดาแม่บ้าน รุ่น 36 ที่ไปขึ้นเขาด้วยกันเมื่อมองลงมาเห็นน้ำทะเลสวย จึงได้ลงมาเพื่อที่จะขึ้นเรือเล็กๆ มองลงไปในน้ำเห็นตัวเลขอยู่ในน้ำ 422 211 แต่ก็ไม่ได้คิดอะไร คุณแม่ก็ไปตีเป็นหวย แต่เพิ่งมารู้ว่าเรือสุโขทัยนั้น หมายเลข 442 อันนั้นก็เป็นหมายเหตุหนึ่ง คุณแม่ฝันเห็นก่อนที่คุณพ่อมาขอไปราชการในวันที่ 16 ธันวาคม และให้ไปส่งคุณพ่อขึ้นเรือ แล้วในวันที่ 17 ก็ได้ไปส่งคุณพ่อขึ้นรถเพื่อที่จะไปลงเรือ
ขณะเกิดเหตุ คุณพ่อได้ฝากข้อความไว้ในไลน์และพยายามติดต่อกัน จนถึงเวลา 22.00 น. ได้คุยกันประมาณ 4 นาที เพื่อรอเรือมาช่วย และไม่คิดว่าจะเกิดเหตุพ่อเพียงส่งไลน์มาเฉยๆ และคิดว่าคุณพ่อน่าจะต้องกลับมาได้เพราะเราเชื่อมั่นว่า กองทัพเรือ มีเรือที่จะขนย้ายออกมาได้ เรามีความเชื่อมั่นถึงแม้ว่าสภาวะอากาศที่มีคลื่นลมรุนแรงก็ตาม


ภาพ/ข่าว นิราช/นันฐพล/พิชญ์ฐญา ทิพย์ศรี
พรเทพ เขม้นเขตวิทย์ รายงานจากศูนย์รวมข่าวภาคตะวันออก

error: Content is protected !!