ด่านกักกันสัตว์ประจวบฯ จับกุมขบวนการค้าวัวเถื่อน มูลค่ากว่า 10 ล้านบาท
เมื่อเวลา 23.00 น. เจ้าหน้าที่สารวัตรกรมปศุสัตว์ชุดเฉพาะกิจกลุ่มด่านกักกันสัตว์ที่ 7ร่วมกันเจ้าหน้าที่ทหารชุดเฉพาะกิจจงอางศึก ร.29 สภ.ห้วยยางร่วมกันตั้งจุดตรวจยานพาหนะบนถนนเพชรเกษมบริเวณหน้าด่านกักกันสัตว์ติดกับส ภ.ห้วยยางพบรถยนต์บรรทุกประเภทลากพ่วง 24 ล้อ พร้อมผู้ขับขี่จำนวน 3 คัน บรรทุกโคมีชีวิตส่งกลิ่นเหม็นจากของเสียภายในรถบรรทุกตลอดทางมาเต็มคัน จึงส่งสัญญาณให้ทำการหยุดรถ
พบนาย มงคล สันหน่าย อายุ 32 ปี นาย อิสมาแอ ดอเลาะ อายุ 31 ปี และอีก 1 รายไม่ทราบชื่อ สกุล บรรทุกโคมีชีวิตมาจำนวน 317 ตัว เจ้าหน้าที่จึงข้ออนุญาตตรวจสอบใบอนุญาตเคลื่อนย้ายสัตว์(โค)จากสัตว์แพทย์มาแสดงกับเจ้าหน้าที่ปรากฏว่าไม่สามารถนำมาแสดงได้เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อกล่าวหากับคนขับรถทั้ง 3 คนในข้อหา เคลื่อนย้าย สัตว์ เข้า ออก ผ่านหรือภายในเขตเฝ้าระวังโรคระบาดสัตว์ โดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นหนังสือจากสัตว์แพทย์ผู้มีหน้าที่รับผิดชอบประจำเขตนั้น ซึ่งมีความผิดตามมาตรา 22 แห่งพระราชบัญญัติโรคระบาดสัตว์ พ ศ 2558 และฝาฝืนประกาศจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ลงวันที่ 3 ธันวาคม 2558 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2ปีหรือปรับ ไม่เกินสี่หมื่น บาท
ด้านกลุ่มชมรมผู้เลี้ยงโค-กระบือ ตำบลคลองวาฬ กล่าวว่า ปัญหาที่ทำให้โคราคาตกต่ำมาจากการลักลอบนำเข้าโคจากต่างประเทศเพราะด้วยขนาดตัวโคที่มีขนาดเล็กและราคาที่ต่ำกว่าในประเทศทำให้กลุ่มผู้ค้าโค-กระบือเหล่านี้หันไปหาซื้อโคลักลอบนำเข้าประเทศเพื่อนบ้านเช่น ประเทศ พม่า เพราะโค 1 ตัวมีราคาแค่หลักหมื่นต้นๆหากเป็นโคที่อยู่ในประเทศ ไทย มีการควบคุมฉีดวัคซีนและดูแลที่ดีราคาก็จะอยู่ที่สามหมื่นถึงห้าหมื่นต่อตัว
แหล่งข่าวระดับสูง เปิดเผยว่าขบวบการค้าโค-กระบือนั้น ได้มีมายาวนานหลายรุ่นเพราะพื้นที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์เป็นพื้นที่ติดชายแดนมีคอกกักสัตว์ขนาดใหญ่อยู่ในหลายพื้นที่ต่างอำเภอตลอดทั้งจังหวัดประจวบฯทำให้การสวมตัวรูปพรรณโค-กระบือนั้นทำได้ง่ายควบคุมยากหากมีการควบคุมที่จริงจังก็อาจส่งผลกระทบส่วยเจ้าหน้าที่นอกแถวที่เกี่ยวข้องบางรายสำหรับกลุ่มผู้ค้าโค-กระบือรายนี้ถือว่ามีเส้นสายไม่ธรรมดาสามารถนำโคเข้าจากประเทศพม่า และส่งออกไปประเทศมาเลเซียได้อย่างต่อเนื่องไม่ต้องผ่านการควบคุมโรคระบาดและไม่เคยถูกจับกุมมาก่อน
นัครินทร์/ข่าวประจวบฯ