จังหวัดนครศรีธรรมราช จัดพิธีบวงสรวง และ ขบวนแห่ ศิวลึงค์ อายุ 1,300 ปี สร้างในสมัย อาณาจักรตามพรลิงก์ อย่างยิ่งใหญ่ อลังการจากจวนผู้ว่า ไปยังหอพระอิศวร ระยะทาง 699 เมตรทางถนนราชดำเนิน ผู้ว่าแต่งชุดเจ้าเมืองโบราณ นำขบวน มีพี่น้องประชาชนจากทุกภาคส่วนร่วมขบวนแห่แต่งกายชุดนครศรีธรรมราชย้อนยุค กว่า 2,000 คนขณะทำพิธีพระอาทิตย์ทรงกลดยาวนาน ก่อนมีสายฝนโปรยปราย และตกหนักมีลมแรงสัมผัสได้ขณะเคลื่อนย้ายเข้าหอพระอิศวร แต่ทุกท่านอดทนทำงานจนเสร็จพิธีด้วยใจมุ่งมั่นและแรงศรัทธาอันแรงกล้า
เย็นวันที่ 2 ธ.ค. 65 ที่จวนผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช นายอภินันท์ เผือกผ่อง ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช พร้อมด้วยนางพิชานันท์ เผือกผ่อง นายกเหล่ากาชาดจังหวัด ผู้บริหาร หัวหน้าส่วนราชการ นักเรียนนักศึกษา ร่วมในการประกอบพิธีบวงสรวง ก่อนจะเคลื่อนย้ายองค์ศิวลึงค์ไปยังโบราณสถานโบสถ์พราหมณ์ เพื่อประกอบพิธีบวงสรวง การอัญเชิญเทพยดามาประทานพร อ่านโองการถวายสักการะพระศิวะเพื่อเป็นการอัญเชิญพระองค์เข้าสู่จังหวัดนครศรีธรรมราช อย่างเป็นทางการ การจุดพลุไฟถวายพระศิวะและทวยเทพ
สำหรับองค์ศิวลึงค์ โบราณดังกล่าว มีอายุประมาณ 1,300 ปี มีขนาดใหญ่ ความสูง 198 ซม. กว้าง 30 ซม. มีน้ำหนักโดยประมาณถึง 385 กก. แกะสลักจากหินทราย มีสภาพสมบูรณ์ โดยถูกกลุ่มคนโจรกรรมเคลื่อนย้ายไปจากจังหวัดนครศรีธรรมราช ในปี พ.ศ. 2524 หรือเมื่อ 41 ปีที่แล้ว เพื่อนำออกไปนอกจำหน่ายประเทศ แต่ไม่สามารถเลื่อนย้ายออกไปนอกประเทศได้ ด้วยสาเหตุเกิดอาถรรพ์ทำให้นำไปนั้นได้เสียชีวิตทุกคน จนไม่มีใครกล้าครอบครอง ศิวลึงค์ องค์ดังกล่าวและได้มีการนำถวายแก่พระครูโสภณประชานุกูล (จรัล อิทฺธิมนุโต) ก่อนที่จะมีการส่งมอบคืนให้แก่ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช เมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน 2565 ท่ามกลางความดีใจของพี่น้องชาวนครศรีธรรมราชที่ได้เพียรพยายามติดตามคืนมาอย่างต่อเนื่องโดยตลอด โดยได้นำมาประดิษฐานไว้ ณ จวนผู้ว่าราชการจังหวัดให้พี่น้องประชาชนทุกภาคส่วนได้บวงสรวง สักการะ และจัดการแสดงถวายเป็นเวลา 30 วัน ก่อนเคลื่อนย้ายไปประดิษฐานยังหอพระอิศวรในวันนี้ โดยช่วงกลางคืนได้มีมหรสพ คือ หนังตะลุงและมโนราห์ให้พี่น้องประชาชนชมด้วย และเปิดโอกาสให้พี่น้องประชาชนและนักท่องเที่ยวได้เข้าบวงสรวงสักการะได้ตั้งแต่วันที่ 3 ธันวาคมนี้ เป็นต้นไป