ข่าวใหม่อัพเดท » “พล.ต.อ.สุรเชษฐ์” สั่งชุดปฏิบัติการ ศพดส.ตร. จับกุมขบวนการหลอกเหยื่อบังคับค้าประเวณี ประเทศเมียนมา

“พล.ต.อ.สุรเชษฐ์” สั่งชุดปฏิบัติการ ศพดส.ตร. จับกุมขบวนการหลอกเหยื่อบังคับค้าประเวณี ประเทศเมียนมา

4 ตุลาคม 2022
0

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ รอง ผบ.ตร.สั่งชุดปฏิบัติการ ศพดส.ตร. จับกุมขบวนการหลอกเหยื่อบังคับค้าประเวณี ประเทศเมียนมา

จากกรณีเมื่อวันที่ 12 ก.ย.65 ที่ผ่านมา นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาเพื่อเด็กและสตรี ได้พา น.ส.เอ (นามสมมติ) ผู้เสียหาย อายุ 16 ปี พร้อมผู้ปกครอง เข้าร้องเรียนต่อ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร./รอง ผอ.ศพดส. ตร.(ดำรงตำแหน่งในขณะนั้น) กรณี น.ส.เอ ถูกหลอกลวงให้เดินทางไปยังประเทศเมียนมา และถูกบังคับให้ค้าประเวณี ก่อนจะได้รับการช่วยเหลือและพากลับมายังประเทศไทยได้อย่างปลอดภัยในเวลาต่อมา โดยขอให้สืบสวนติดตามและดำเนินคดีกับกลุ่มคนร้ายที่หลอกลวง น.ส.เอ ตามที่สื่อมวลชนและโซเชียลมีเดียนำเสนอไปแล้ว นั้น

จากกรณีดังกล่าว พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ฯ ได้สั่งการให้ชุดปฏิบัติการ ศพดส.ตร., ศพดส.ภ.จว.บุรีรัมย์ และ สภ.กระสัง เร่งสืบสวน ติดตามคดีนี้อย่างเร่งด่วน โดยได้ประสานความร่วมมือไปยังกองกำลังทหารประเทศเมียนมา เพื่อช่วยตรวจสอบข้อมูลเกี่ยวกับกรณีดังกล่าว จนทราบว่าขบวนการดังกล่าวได้ร่วมกันกระทำความผิดโดยแบ่งหน้าที่กันทำ เริ่มต้นจากการหลอกลวงเหยื่อให้มีความต้องการเดินทางไปทำงาน นำพาลักลอบข้ามแดนไปยังประเทศเมียนมา และถูกบังคับค้าประเวณีในที่สุด เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการได้ทำการสืบสวนจนทราบตัวผู้กระทำผิดทั้งหมด จากนั้นได้รวบรวมพยานหลักฐาน ยื่นคำร้องของหมายจับต่อศาลจังหวัดบุรีรัมย์ และสามารถติดตามจับกุมผู้ต้องหาได้จำนวน 3 ราย ประกอบด้วย

1.น.ส.ณัฐฐิตา หรือออม อายุ 29 ปี ที่อยู่ 68/1 ม.2 ต.หนองจ๊อม อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ ทำหน้าที่เป็นคนหลอกลวงให้เหยื่อไปทำงานที่ประเทศเมียนมา โดยสามารถจับกุมได้ที่ท่าข้ามธรรมชาติ ต.ท่าสายลวด อ.แม่สอด จ.ตาก

2.นายอาหลู่ผะ หรือไวน์ อายุ 44 ปี ที่อยู่ 56/22 ม.2 ต.บางพลีใหญ่ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ สามีของ น.ส.ณัฐฐิตาฯ ทำหน้าที่เป็นคนนำพาเหยื่อลักลอบข้ามแดนไปยังประเทศเมียนมาสามารถจับกุมได้ที่ ภายในโรงแรมแห่งหนึ่ง ต.อิสาณ อ.เมือง จ.บุรีรัมย์

ถูกดำเนินคดีในความผิดฐาน “ร่วมกันพรากผู้เยาว์อายุกว่าสิบห้าปีแต่ยังไม่เกินสิบแปดปี ไปเสียจากบิดามารดาผู้ปกครอง หรือผู้ดูแล เพื่อหากำไร หรือเพื่อการอนาจาร โดยผู้เยาว์นั้น เต็มใจไปด้วย”, “ค้ามนุษย์ด้วยการแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบจากการค้าประเวณี โดยเป็นธุระจัดหา พามาจากหรือส่งไปยังที่ใด จัดให้อยู่อาศัย หรือรับไว้ซึ่งเด็ก หรือซึ่งได้กระทำแก่บุคคลผู้มีอายุต่ำกว่าสิบแปดปี”, “บังคับใช้แรงงานหรือบริการ โดยข่มขืนใจผู้อื่นให้ทำงานหรือให้บริการโดยวิธีการนำภาระหนี้ของบุคคลอื่นส่งเสริม หรือยินยอมให้เด็กประพฤติตนไม่สมควร หรือน่าจะทำให้เด็กมีความประพฤติเสี่ยงต่อการกระทำผิด”และ “ชักจูง ส่งเสริม ยินยอม หรือกระทำด้วยประการใดอันเป็นการแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบจากเด็ก”

3.น.ส.สุพัฒตา หรือกิ่ง อายุ 23 ปี ที่อยู่ 198 ม.17 ต.หัวนาคำ อ.ศรีธาตุ จ.อุดร ธานี เป็นเจ้าของร้าน (KTV) ที่ประเทศเมียนมา บังคับเหยื่อค้าประเวณี โดยสามารถจับกุมได้ที่ท่าข้ามธรรมชาติ ต.ท่าสายลวด อ.แม่สอด จ.ตาก

ถูกดำเนินคดีในความผิดฐาน ซื้อ จำหน่าย หรือรับตัวผู้เยาว์ อายุกว่าสิบห้าปีแต่ยังไม่เกินสิบแปดปี ซึ่งถูกพราก ไปเสียจากบิดามารดา ผู้ปกครอง หรือผู้ดูแล เพื่อหากำไรหรือเพื่อการอนาจารโดยผู้เยาว์นั้นเต็มใจไปด้วย”,“ค้ามนุษย์ด้วยการแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบจากการค้าประเวณี โดยเป็นธุระจัดหา พามาจากหรือส่งไปยังที่ใด จัดให้อยู่อาศัย หรือรับไว้ซึ่งเด็ก หรือซึ่งได้กระทำแก่บุคคลผู้มีอายุต่ำกว่าสิบแปดปี” ,“บังคับใช้แรงงานหรือบริการ โดยข่มขืนใจผู้อื่นให้ทำงานหรือให้บริการโดยวิธีการนำภาระหนี้ของบุคคลอื่นส่งเสริม หรือยินยอมให้เด็กประพฤติตนไม่สมควร หรือน่าจะทำให้เด็กมีความประพฤติเสี่ยงต่อการกระทำผิด”และ “ชักจูง ส่งเสริม ยินยอม หรือกระทำด้วยประการใดอันเป็นการแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบจากเด็ก”

พฤติการณ์ในคดีนี้กล่าวคือ น.ส.ณัฐฐิตา หรือออม ฯ ผู้ต้องหาได้ชักชวน น.ส.เอ ผ่านแอพพลิเคชั่น Line และ Facebook ให้ไปทำงานร้านอาหารแห่งหนึ่งในประเทศเมียนมาร์ โดยอ้างว่าจะได้เงินสัปดาห์ละ 50,000 บาท ทำประมาณ 2 เดือนจะมีเงินเก็บประมาณ 200,000 – 400,000 บาท ทำให้ผู้เสียหายหลงเชื่อ จากนั้น น.ส.ณัฐฐิตาฯ ได้ให้นายอาหลู่ผะฯ ซึ่งเป็นสามี พา น.ส.เอ ลักลอบข้ามชายแดนในพื้นที่ อ.แม่สอด จ.ตาก โดยใช้ช่องทางธรรมชาติ และนำไปส่งให้กับน.ส.สุพัฒตาฯ เจ้าของร้านอาหาร (KTV) หลังบ่อนการพนัน แจ็คดรากอนไนท์ จังหวัดเมียวดี ประเทศเมียนมา โดยน.ส.สุพัฒตาฯ ได้บังคับให้ น.ส.เอ ขายบริการทางเพศ น.ส.เอ จึงได้ขอความช่วยเหลือมายังมูลนิธิปวีณา และได้รับการช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่กลับมายังประเทศไทยในที่สุด

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า หลังจากที่ได้รับการร้องเรียนจากมูลนิธิปวีณา ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการ ศพดส.ตร.ร่วมกับสหวิชาชีพในการสอบถามข้อมูลจากเหยื่อ และรวบรวมพยานหลักฐานในการสืบสวนหาตัวผู้กระทำความผิดในขบวนการดังกล่าว จนสามารถระบุตัวผู้ต้องหาได้ครบทั้งคนหลอกชักชวนเหยื่อ คนลักลอบพาข้ามแดน และเจ้าของร้านคนไทยในประเทศเมียนมาที่อยู่รับตัวเหยื่อปลายทาง โดยใช้เวลาเพียง 2 สัปดาห์ในการสืบสวน ติดตาม จับกุมผู้ต้องหาได้ทั้งหมด จึงขอประชาสัมพันธ์ไปยังพี่น้องประชาชน ให้ช่วยกันดูแลบุตรหลานของท่าน รวมทั้งให้ระมัดระวังในการหางานผ่านช่องทางอินเตอร์เน็ตและโซเชียลมีเดีย โดยหากพบเบาะแสเกี่ยวกับขบวนการหลอกลวงเหยื่อไปค้าประเวณี หรือค้ามนุษย์ สามารถแจ้งได้ทุกช่องทาง


error: Content is protected !!