ข่าวใหม่อัพเดท » เพชรบูรณ์-ชาวไร่ยาสูบเพชรบูรณ์ยื่นหนังสือ รมช.คลัง ไม่เอาภาษียาสูบ 40 เปอร์เซ็นต์

เพชรบูรณ์-ชาวไร่ยาสูบเพชรบูรณ์ยื่นหนังสือ รมช.คลัง ไม่เอาภาษียาสูบ 40 เปอร์เซ็นต์

24 สิงหาคม 2019
0

          ที่สำนักงานยาสูบเพชรบูรณ์ อำเภอเมืองเพชรบูรณ์ นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง รับหนังสือร้องเรียนจากชาวไร่ยาสูบชาวเพชรบูรณ์ กว่า 500 คน ร้องเรียนปัญหาความเดือนร้อน ขอให้ยกเลิกการขึ้นภาษียาสูบ 40% และหากจำเป็นขอให้ขึ้นเป็นขั้นบันไดแทน พร้อมร่วมเข้าประชุม รับฟังผลการดำเนินงานของสำนักงานยาสูบจังหวัดเพชรบูรณ์ และรับทราบปัญหาความเดือดร้อนจากตัวแทนเกษตรกร โดยมีนายสืบศักดิ์ เอี่ยมวิจารณ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ นายกฤษณ์ คงเมือง รองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ นายสงกรานต์ ภักดีจิตร นายกสมาคมชาวไร่ยาสูบเบอร์เลย์ หัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เกษตรกรผู้ปลูกใบยาสูบ เข้าร่วม

          นายสงกรานต์ ภักดีจิตร นายกสมาคมชาวไร่ยาสูบเบอร์เลย์จังหวัดเพชรบูรณ์ กล่าวว่า ชาวไร่ยาสูบทั่วประเทศกำลังกังวลกันอยู่ว่าถ้ามีการปรับภาษีขึ้นไปอีกเป็น 40% ทันทีในวันที่ 1 ต.ค. 63 ก็จะทำให้บุหรี่ราคาแพงขึ้นมากเป็น 90 -100 บาท เพราะจากการปรับขึ้นภาษีสรรพสามิตในปี 2560 ทำให้การยาสูบแห่งประเทศไทย (ยสท.) ประสบปัญหาอย่างหนักอยู่แล้ว จึงต้องมีการตัดโควต้าใบยาจากชาวไร่ถึงร้อยละ 50 ในปีที่ผ่านมา แม้รัฐบาลจะจ่ายเงินชดเชยให้ชาวไร่ยาสูบทั่วประเทศ 159.59 ล้านบาท แต่ความเสียหายโดยรวมในท้องถิ่นของชาวไร่ยาสูบทุกสายพันธุ์ หายไปเกือบ 230 ล้านบาท ถ้าภาษีอัตรา 40% มาจริงๆ ยอดขายของ ยสท. ก็จะลดลงอีกกว่า 50% และเป็นไปได้สูงว่า ยสท. จะไม่รับซื้อโควต้าใบยาสูบไปอีกหลายปี เราอยากได้โควต้าเดิมกลับคืนมา จึงขอให้ท่านรัฐมนตรีช่วยพิจารณาทบทวนการขึ้นภาษี 40% เพื่อให้ยอดขายของ ยสท. ไม่ได้รับผลกระทบมาก และสามารถให้โควต้าปลูกยาสูบเราได้เพิ่มขึ้นหรือเท่าเดิม ชาวไร่จะได้สบายใจและเตรียมกล้า เตรียมดิน เตรียมปุ๋ย เพื่อทำการปลูกใบยาในฤดูกาลนี้ได้

          ด้านนายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ปัญหายาสูบก็มีปัญหาไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ายาเส้น แต่ยาสูบก็มีโรงยาสูบของรัฐบาลดูแลดูในระดับหนึ่ง แต่อย่างไรก็ดี เมื่อกำลังผู้บริโภคยาสูบลดลง อันเนื่องมาจากการขึ้นภาษี จนกระทั่งราคาไปเสมอกับยาสูบต่างประเทศ ทำให้หลายคนเลือกสูบของต่างประเทศ ส่งผลให้ยาสูบของโรงยาสูบที่ผลิตลดลงเกินกว่าที่คาดการณ์ จึงต้องมาลดโควต้ายาสูบของเกษตรกร ซึ่งเป็นวงจรเริ่มต้นที่ไม่มีทางเลือก ปัจจุบันก็กำลังมีแนวคิดใหม่ๆว่า จะทำอย่างไร ให้สามารถเพิ่มปริมาณยาสูบของโรงงานยาสูบได้ ถ้าเพิ่มปริมาณได้นั่นหมายความว่าพี่น้องชาว ใบยาสูบ ชาวไร่ ก็จะได้โควต้าคืนมา วิธีการเดียวก็คือ ให้โรงยาสูบเราหาทางความร่วมมือกับผู้ที่ค้ายาสูบของโลก ซึ่งก็มีติดต่อมาบ้างแล้ว ซึ่งปัจจุบันเราก็รับฟังโครงสร้างและกลไกตลาด เพื่อที่จะมีช่องทางมาช่วยเหลือโรงงานยาสูบ เพื่อให้ส่งผลไปที่ชาวไร่ แต่ก็ต้องดูข้อกฎหมายว่ามีอะไรไหมที่ต้องห้าม ที่สามารถให้โรงยาสูบจับมือกับบริษัทต่างประเทศได้ ผมเชื่อว่าเรามีทางออกที่จะจับมือกับต่างประเทศ และเอายาสูบของพี่น้องเกษตรกร ไปผสมในยาสูบของต่างประเทศ หรือมาร่วมกันกับโรงยาสูบรูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง ที่จะสามารถเพิ่มโควต้าให้พี่น้องเกษตรกรได้

มนสิชา คล้ายแก้ว

error: Content is protected !!