กฟผ. เปิดศูนย์การเรียนรู้โครงการชีววิถีเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน กฟผ. ประจำภาคเหนือตอนบน ในพื้นที่ตำบลศรีบัวบาน อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน
วันที่ 11 สิงหาคม 2565 ที่ศูนย์การเรียนรู้โครงการชีววิถีเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน กฟผ. ประจำภาคเหนือตอนบน บ้านจำขี้มด ตำบลศรีบัวบาน อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน นายอนุพงษ์ วาวงศ์มูล รองผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน เป็นประธานพิธีเปิดศูนย์การเรียนรู้โครงการชีววิถีเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน กฟผ. ประจำภาคเหนือตอนบน โดยมี นายพัฒนพงศ์ สุวรรณธวัช ผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการภาคเหนือ พร้อมด้วยผู้บริหาร นายโยธิน ประสงค์ความดี นายอำเภอเมืองลำพูน หัวหน้าส่วนราชการ ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น คณะผู้บริหาร คณะครู บุคคลากร และนักเรียนนักศึกษา วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีลำพูน ผู้ปฏิบัติงาน กฟผ. ให้การต้อนรับ
ผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการภาคเหนือ กล่าวว่า โครงการชีววิถีเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน กฟผ. บ้านจำขี้มด เป็นโครงการที่จัดขึ้นจากความร่วมมือระหว่างการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) กับวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีลำพูน เพื่อการพัฒนาและยกระดับชุมชน โดยส่งเสริมความรู้ในหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงตามแนวพระราชดำริ ของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 การดำเนินกิจกรรมชีววิถี คือหลักความเป็นอยู่แบบพอเพียงมีแหล่งอาหารที่ปลอดภัยสำหรับบริโภคภายในครัวเรือน ซึ่งสามารถลดรายจ่ายและให้กับครัวเรือน กิจกรรมที่ส่งเสริมมี 4 ด้าน ได้แก่ ด้านการเพาะปลูก การประมง การปศุสัตว์ และการรักษาสิ่งแวดล้อมด้วยจุลินทรีย์ เน้นการลด ละ เลิกการใช้สารเคมี นอกจากการดำเนินกิจกรรมดังกล่าวแล้ว ยังมีแผนพัฒนายกระดับชุมชนอย่างต่อเนื่องโดยในปี 2565 ได้มีการจัดตั้งกลุ่มวิสาหกิจชุมชนในชื่อกลุ่ม “เกษตรอินทรีย์ชีววิถีบ้านจำขี้มด” เป็นการสร้างช่องทางรายได้ โดยนำผลผลิตที่ได้จากโครงการชีววิถีฯ เช่น ผักปลอดสารพิษ ผลิตภัณฑ์แปรรูป จากไก่ ปลา และหมู พัฒนาต่อยอดสร้างรายได้ให้กับชุมชนที่ยั่งยืนต่อไป
สำหรับศูนย์การเรียนรู้แห่งนี้จัดขึ้นเพื่อเป็นสถานที่บ่มเพาะองค์ความรู้ของกลุ่มสมาชิก เพื่อศึกษาและปฏิบัติให้เกิดความชำนาญ เพื่อนำไปสู่การขยายผลยังครัวเรือนของสมาชิกและชุมชนในวงกว้าง โดยมีเป้าหมาย ที่จะพัฒนาให้ ชุมชน บ้านจำขี้มด เป็นแหล่งเรียนรู้ และแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรปลอดภัยประจำภาคเหนือตอนบน โดยเน้นการจัดรูปแบบการดำเนินงานกึ่งสมาร์ทฟาร์ม โดยอาศัยเทคโนโลยีและภูมิปัญญาชาวบ้านเข้ามาทดแทนแก่เกษตรกรและที่ผู้สนใจ.