ข่าวใหม่อัพเดท » โจรใจบาป ลอบงัดตู้บริจาควัดรวดเดียว 2 แห่ง ฉวยลงมือตอนพระติดโควิด เจ้าคณะจังหวัดโพสต์เตือนภัยทุกวัดระวัง

โจรใจบาป ลอบงัดตู้บริจาควัดรวดเดียว 2 แห่ง ฉวยลงมือตอนพระติดโควิด เจ้าคณะจังหวัดโพสต์เตือนภัยทุกวัดระวัง

10 สิงหาคม 2022
0

นครพนม – โจรใจบาป ลอบงัดตู้บริจาควัดรวดเดียว 2 แห่ง ฉวยลงมือตอนพระติดโควิด เจ้าคณะจังหวัดโพสต์เตือนภัยทุกวัดระวัง

วันที่ 10 สิงหาคม 2565 เวลาประมาณ 12.00 น. ร.ต.อ.คงฤทธิ์ พลศรี รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองนครพนม รับแจ้งจากวัดกกต้อง ชุมชนบ้านกกต้อง เขตเทศบาลเมืองนครพนม ว่า มีคนร้ายแอบเข้าไปลักทรัพย์ภายในศาลาการเปรียญ จึงเข้าตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ภ.จว.นครพนม และชุดสืบสวน สภ.เมืองนครพนม วัดดังกล่าวที่สวยงาม มีกำแพงอยู่ติดถนนบายพาสเลี่ยงเมือง(บ้านท่าควาย-บ้านน้อยหนองเค็ม) ภายในศาลาการเปรียญ ประตูด้านทิศเหนือมีร่องรอยถูกงัดกลอนประตู และหน้าต่างด้านใกล้กันก็มีรอยงัดเสียหายเช่นกัน จึงบันทึกไว้เป็นหลักฐาน

พระสมุห์พิชิตพล เตชพโล อายุ 37 ปี ผู้ช่วยเจ้าอาวาส เปิดเผยว่า ตู้บริจาคที่วางไว้ข้างพระประธาน จำนวน 2 ใบ ได้อันตรธานหายไปหนึ่งใบ และพบถุงพลาสติกสีขาวรวมถึงซองขาว 7-8 ซองถูกฉีกค้นหาเงิน ซึ่งจากการตรวจสอบรอบวัดก็พบตู้บริจาคที่หายไป ถูกทิ้งไว้หลังอุโบสถด้านทิศเหนือ จึงบันทึกหาร่องรอยนิ้วมือแฝงของคนร้าย เพื่อนำตัวมาดำเนินคดี
พระสมุห์พิชิตพล เตชะพโล เล่าว่าก่อนเกิดเหตุพระครูพิชิตพัฒนคุณ รองเจ้าคณะจังหวัดนครพนม/เจ้าอาวาสวัด พร้อมพระเณรในวัดติดโควิดรวม 7 รูป ท่านอยู่ในกลุ่มเสี่ยงจึงถูกกักตัวตั้งแต่วันที่ 6 ส.ค.ที่ผ่านมา ศาลาการเปรียญจึงไม่ได้ใช้ในกิจของสงฆ์ในห้วงนี้ ทุกเช้าจะนำบาตรไปวางไว้ที่ทางเข้าวัด เพื่อให้ญาติโยมนำสิ่งของถวาย คาดว่าคนร้ายน่าจะล่วงรู้ว่าพระติดโควิดเกือบทั้งวัด จึงอาศัยช่วงนี้ลอบเข้ามางัดศาลาเพื่อนำเงินไปใช้ แต่ทีแรกน่าจะงัดหน้าต่างก่อนบังเอิญเจอเหล็กดัดจึงหันมางัดสายยูงประตูแทน

สันนิษฐานเบื้องต้นว่า คนร้ายน่าจะแอบเข้ามาในช่วงกลางคืนของวันที่ 7 ส.ค. ช่วงเวลา 03.00-04.00 น. เพราะวันที่ 6 ส.ค.65 พระในวัดที่ไม่ติดโควิดยังทำวัตรเย็นกันอยู่ พอรุ่งเช้าเดินมาเก็บโต๊ะเก้าอี้เห็นประตูบานใหญ่เปิดอ้าซ่า ตรวจโดยรอบจึงรู้ว่าตู้บริจาคหายไปหนึ่งใบ ส่วนเงินที่อยู่ในนั้นคงมีไม่มากมายนัก “อยากจะบอกถึงคนร้ายว่าสิ่งของในตู้เอาไปก็ไม่กี่บาท ใช้ไม่กี่วันก็หมด แต่เวรกรรมมันจะติดตัวไปทุกภพทุกชาติฯ” พระสมุห์พิชิตพล กล่าว.
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า วัดกกต้องแห่งนี้เคยถูกคนร้ายลอบงัดแงะและฉกตู้บริจาคแล้ว 5 ครั้ง เจ้าหน้าที่จับคนร้ายได้แค่ครั้งเดียว ขณะเดียวกันกล้องวงจรปิดที่ติดในศาลาการเปรียญก็เสียมานานกว่า 1 ปีแล้ว

ในวันเดียวกันพระราชสิริวัฒน์ เจ้าคณะจังหวัดนครพนม/เจ้าอาวาสวัดสว่างสุวรรณาราม ชุมชนโพนสว่าง เขตเทศบาลเมืองนครพนม ได้โพสต์ข้อความ “เตือนภัยวัดทุกวัด โจรใจบาปหยาบช้าเที่ยวขโมยงัดตู้บริจาคของวัดงัดกุฏิศาลาขอให้ทุกวัดเฝ้าระวังอย่าประมาทๆวัดสว่างวัดกกต้องโดนวันเดียวกัน” ทั้งนี้ วัดที่ถูกคนร้ายงัดอยู่ไม่ไกลกันมากนัก คาดคนร้ายน่าจะเป็นคนเดียวกัน

ต่อมาผู้สื่อข่าวได้ไปพบกับพระมหาณรงค์ฤทธิ์ จิตปัญโญ เปรียญธรรม 4 ประโยค พระลูกวัดสว่างสุวรรณาราม ซึ่งเป็นผู้พบร่องรอยคนร้ายท่านแรก เล่าว่าจากกรณีมีพระเณรหลายรูปติดโควิดกัน ศาลาการเปรียญจึงไม่ได้เปิดใช้ในกิจของสงฆ์ วันที่ 9 ส.ค.ตนได้พบว่าบาตรสแตนเลสใบใหญ่รวมทั้งตู้บริจาคสแตนเลสที่ตั้งด้านหลังอยู่รูปปั้นเณรน้อยเจ้าปัญญาหายไป และตรวจสภาพโดยรอบเห็นประตูเลื่อนด้านหลังศาลามีรอยงัดแงะ จึงเดินไปดูในห้องเก็บของพบทั้งตู้และบาตร ถูกโจรยกมางัดเอาเงินไป เหลือเศษเหรียญอยู่เพียงไม่กี่บาท จึงแจ้งให้เจ้าอาวาสททราบ พร้อมให้เจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบ ส่วนเงินที่คนร้ายเอาไปไม่น่าเกิน 2 พันบาท

พระมหาณรงค์ฤทธิ์ เล่าต่อว่า ก่อนหน้านี้มีชายต้องสงสัยมานั่งคล้ายดูลาดเลาในวัด 2-3 วัน บังเอิญวันเกิดเหตุมีพายุฝนและไฟฟ้าดับ จึงเป็นโอกาสของคนร้ายลอบเข้ามาขโมยเงินในศาลาการเปรียญไป ซึ่งในศาลาไม่ได้ติดตั้งกล้องวงจรปิด ส่วนการสืบสวนสอบสวนของเจ้าหน้าที่ เชื่อว่าคนร้ายที่งัดวัดรวดถึง 2 แห่ง คาดเป็นรายเดียวกัน ซึ่งจะไล่เช็คกล้องวงจรปิดที่ติดไว้ตามจุดต่างๆมาตรวจสอบ เพื่อติดตามตัวมาดำเนินคดีต่อไป


ภาพ/ข่าว. เทพข่าวร้อน เพลิงพระกาฬ หลาวเหล็ก จ.นครพนม

error: Content is protected !!