ร้อยเอ็ด – จิตแพทย์บอก จะเยี่ยวยายังไง เมื่อความรักสิ้นสุด
เพราะธรรมชาติ มีรัก ย่อมมีเลิก เป็นเรื่องปกติ การอกหักหรือเลิกราย่อมไม่มีใครอยากให้เกิด แต่หากเกิดขึ้นแล้ว สิ่งสำคัญคือเราจะสามารถเยียวยาจิตใจตัวเองได้อย่างไร เพื่อที่แผลใจนั้นจะหายได้เร็วที่สุด และสามารถกลับไปเป็นคนเดิมอย่างที่ตัวเราเคยเป็นได้
- อาการแรกเมื่อเราถูกบอกเลิก หรือโดนทิ้ง ก็คือการตกใจ ช็อก และไม่ยอมรับความจริง ซึ่งอาจแสดงให้เห็นเช่น พูดว่า “ไม่จริงใช่ไหม” “ล้อเล่นใช่ไหม” หลอกตัวเองเพื่อปลอบใจ ระยะนี้อาจกินเวลาเพียงไม่กี่นาที จนถึงหลายๆ วันได้ในบางคน เช่น แฟนบอกเลิกไปแล้ว แต่ยังคิดว่าเค้ายังเป็นแฟนเราอยู่
- ระยะโกรธ เป็นระยะต่อมาเมื่อพ้นจากระยะช็อกแล้ว โดยในระยะนี้จะเกิดอารมณ์โกรธ โดยอาจจะโกรธได้ทั้งคนอื่น เช่น “เพราะแกคนเดียว” “แกมันเลว”หรือโกรธตัวเอง ทำไมชั้นถึงแย่แบบนี้นะทำไมตอนนั้นเราถึงทำอย่างนั้น”ในบางคนหากโกรธอีกฝ่ายอย่างรุนแรงมาก อาจถึงขั้นมีความคิดอยากไปทำร้ายได้
- ระยะต่อรอง หรือที่มักเรียกว่า ระยะความหวังลมๆ แล้งๆ ระยะนี้ผู้ที่เลิกราจะต่อรองกับอะไรสักอย่าง ไม่ว่าจะเป็นอีกฝ่าย หรือกระทั่งสิ่งศักสิทธิ์ โดยหวังว่าเมื่อทำแล้วชีวิตคู่จะกลับคืนมา เช่น “ฉันจะเปลี่ยนแปลงตัวเอง” “ฉันยอมทุกอย่าง” “ขอโอกาสหน่อย” บางคนใช้วิธีบนบานกับสิ่งศักสิทธิ์ หรืออธิฐาน/สวดมนต์ เพื่อให้เค้ากลับคืนมาระยะนี้มักเป็นปัญหาที่สุด ที่ทำให้คนเราติดอยู่กับความเจ็บปวด และไม่สามารถก้าวผ่านไปได้
- ระยะซึมเศร้า มักเกิดขึ้นตามมาเมื่อรู้ตัวว่าไม่สามารถต่อรองได้ และตระหนักว่าทำอย่างไรเค้าก็ไม่กลับมา ก็จะเกิดอารมณ์ซึมเศร้า เสียใจ ไม่อยากทำอะไร ไม่อยากเจอหน้าใคร บางคนอาจรู้สึกโทษตัวเอง รู้สึกตัวเองไร้ค่า หากเป็นมากๆ อาจถึงขั้นคิดว่าไม่อยากมีชีวิตอยู่
- ระยะยอมรับ เป็นระยะสุดท้าย ระยะนี้คือการที่คนๆ นั้นยอมรับความเป็นจริงที่เกิดขึ้นได้ อารมณ์จะกลับมาเป็นปกติ ไม่เศร้าอีกต่อไป
วิธืรักษาใจตัวเอง
- ยอมรับความจริง เป็นสิ่งแรกและสิ่งสำคัญที่สุด นั่นคือ “ยอมรับความจริง (เถอะ) ว่าเค้าไม่อยู่กับเราแล้ว” และนี่เป็นความจริงที่เกิดขึ้นในปัจจุบันหลายคนติดไม่สามารถไปต่อในชีวิตได้เพราะยังยึดติดอยู่กับระยะต่อรองว่า สักวันเราอาจจะได้กลับมาดีกัน ถ้าเราทำตัว (… เติมเอาเอง…) แล้วเค้าจะกลับมารักเรา เดี๋ยวสักวันเค้าก็จะกลับมา ….
- หยุดหมกมุ่นกับสิ่งที่จะทำให้ทุกข์ใจ สิ่งที่พบได้เป็นประจำคือการย้ำคิดซ้ำๆ กับเรื่องความรัก คำถามคลาสิคที่คนรักคุดมักถามซ้ำๆ คือ “ทำไม” เช่น “ทำไมเค้าทำแบบนี้” “ทำไมเค้าเลิกกับเรา” “ทำไมคู่อื่นไม่เห็นเป็นแบบนี้” “ชั้นดีเกินไปยังไง ดีแล้วทำไมถึงเลิก (อยากได้คนเลวหรือไง)” ฯลฯ คำถามพวกนี้ส่วนใหญ่มักหาคำตอบจริงๆ ไม่ได้ หรือรู้ไปก็ไม่ได้เปลี่ยนอะไร (ก็เลิกกันเหมือนเดิมอยู่ดี) เพราะคำถามเหล่านี้เกิดจาก อารมณ์ เป็นหลัก ไม่ได้เกิดจากเหตุและผล
- เอาสิ่งซ้ำเติมแผล(ใจ)ออกไป สิ่งใดที่เห็นแล้วช้ำใจ หรือกระตุ้นให้คิดวนเวียนแต่เรื่องเดิมๆ ก็ควรเอาออกให้หมด รูปถ่าย ของขวัญ อะไรที่จะทำให้นึกถึงก็เก็บไปให้หมด (จะทิ้งก็ได้หรือเก็บซ่อนไว้ก่อนก็ได้หากเสียดาย) และที่สำคัญสำหรับยุคสังคมออนไลน์ ก็อย่าลืมบล็อกหรือซ่อนเฟสบุ๊ค และอื่นๆ ด้วยนะครับ โดยพฤติกรรมที่ห้ามทำเลย (แต่พบได้ประจำ) คือการไปแอบส่องเฟสบุ๊คอดีตแฟนเป็นระยะ และพยายามหาทางติดต่อนิดๆ หน่อยๆ (ซึ่งหากเค้าไม่ตอบ ก็ช้ำใจ บางทีอีกฝ่ายตอบมาแบบเป็นมารยาทเฉยก็คิดไปเองอีกว่ามีความหวัง โดยเฉพาะในคนที่อยู่ในระยะต่อรอง)สิ่งซ้ำเติมแผลใจนี่รวมถึงพวกเพลงอกหักด้วยนะครับ อกหักก็เจ็บอยู่แล้วอย่าไปซ้ำเติมอีกด้วยเพลงอกหัก
- กลับไปทำสิ่งที่ต้องทำ หลายคนเมื่อเลิกกันใหม่ๆ อาจจะเสียใจจนไม่ไปเรียน/ทำงาน ไม่ทำงานบ้าน ซึ่งอาจเป็นได้ในช่วง 1 อาทิตย์แรก แต่หลังจากนั้นให้พยายามกลับไปทำให้ได้เร็วที่สุด แม้จะรู้สึกว่าไม่มีอารมณ์หรือไม่อยากไปก็ตาม เพราะการหยุดอยู่บ้านมักไม่ช่วยอะไร ซ้ำยิ่งว่างก็ยิ่งนึกถึงเข้าไปอีก
- หากิจกรรมบันเทิงให้กับชีวิต เมื่อรักสิ้นสุด แน่นอนว่าอารมณ์ที่ครอบงำเราจะเป็นความเศร้า ดังนั้นแล้วอย่าปล่อยให้มันครอบงำเรามากเกินไป ให้หากิจกรรมที่ทำแล้วมีความสุข เช่น ไปดูหนัง เที่ยวต่างจังหวัด ออกกำลังกาย หรือออกไปกินข้าวกับเพื่อนสาว เป็นต้น
- มีที่ปรึกษาที่ดี ไม่แปลกที่ในช่วงเยียวยาจิตใจนี้ บางครั้งเราจะอยากระบาย หรืออยากปรึกษาบางอย่าง ให้หาเพื่อนสักคนสองคนที่เราสามารถระบาย บ่น และสามารถให้คำปรึกษากับเราได้ หลายครั้งคนที่คิดหมกมุ่นกับความรักมักมองโลกไม่ตรงจริง หรือกระทั่งหลอกตัวเอง เช่น บางคนส่งไลน์ไปแล้วเค้าตอบกลับมา ก็อาจหลอกตัวเองว่า เห็นไหม เค้ายังมีใจ ทั้งๆ ที่เป็นเพียงการตอบธรรมดา ซึ่งเพื่อนที่เป็นคนนอกมักมองเห็นตามความเป็นจริงมากกว่า
- หยุดโทษตัวเอง เรื่องความรักเป็นเรื่องของคนสองคน จะรักจะเลิกก็เป็นเรื่องของความเข้ากันได้ของคนสองคน การเข้ากันไม่ได้ก็คือเข้ากันไม่ได้ ไม่ได้แปลว่าเราเป็นฝ่ายผิดโดยสมบูรณ์ ในช่วงรักษาแผลใจนี้จึงไม่ใช่เวลาที่จะมาโทษตัวเองว่าเราแย่ หรือมันเป็นความผิดของเรา
- ปรับตัวใหม่กับชีวิตโสด การกลับมาโสดก็เป็นการเปลี่ยนแปลงอย่างหนึ่งของชีวิต เหมือนเราเปลี่ยนที่ทำงานใหม่ แรกๆ หลายคนย่อมไม่ชิน โดยเฉพาะคนที่มีคู่มานานๆ ซึ่งก็ต้องปรับตัวกันไป เคยกินข้าวข้างนอกกับแฟนสองคนมาตลอด ก็ต้องเปลี่ยนไปกินกับเพื่อนบ้าง ชีวิตเคยเลิกงานแล้วก็อยู่กับแฟนตลอด ก็คงต้องเปลี่ยน เช่น ไปออกกำลังกายตอนเย็น หรือไปกับเพื่อนที่ทำงานแทน เป็นต้น
- การที่เราเป็นโสดก็ต้องปรับให้ใช้ชีวิตแบบคนโสด อย่าพยายามใช้ชีวิตแบบเหมือนยังมีคู่ ใจเย็นและอดทน แน่นอนว่าอกหัก หรือเลิกกันไม่ได้หายใน 2-3 วันแน่ๆ โดยปกติมักใช้เวลาหลายเดือนถึงจะทำใจได้การทำใจได้ในเวลาสั้นๆ มักเป็นการหลอกตัวเอง หรือเก็บกดความรู้สึกไว้อย่างมากซึ่งไม่เป็นผลดี แผลใจก็ไม่ต่างจากแผลทางกาย เวลาจะค่อยๆ เยียวยาให้แผลค่อยๆ หายดี แต่ครับ! สิ่งสำคัญคือเราก็ต้องช่วยดูแล และไม่ซ้ำเติมบาดแผลเช่นกัน
- พบแพทย์หากไม่ดีขึ้น บางครั้งความเศร้าโศกจากการเลิกรา อาจกลายเป็นโรคซึมเศร้าได้ ดังนั้นหากเวลาผ่านไปหลายเดือนก็แล้วยังไม่ดีขึ้น อาการเป็นมากจนไม่เป็นอันทำอะไรติดต่อกันนานหลายสัปดาห์ หรือมีความคิดฆ่าตัวตายซ้ำๆ ก็ควรไปพบแพทย์ครับ การรักษาจะช่วยให้อาการดีขึ้นขอให้ทุกท่านมีความสุข
ที่มาfb: สมาคมจิตแพทย์แห่งประเทศไทย