“ยุทธการฟ้าสางที่ฝั่งโขง” จังหวัดนครพนม ฝ่ายปกครองอำเภอเมือง บูรณาการกับตำรวจพร้อมหน่วยงานความมั่นคงระดมกวาดล้างอาชญากรรม ปราบปรามยาเสพติด อาวุธปืน และบุคคลตามหมายจับในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง
เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2565 เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอเมืองนครพนม ร่วมกับ ร้อยตชด.ที่ 236 และตำรวจหน่วยข้างเคียง ร่วมกันจับกุมนายที (นามสมมติ) อายุ 30 ปี เพศชาย สัญชาติไทย ราษฎร อ.ปลาปาก จ.นครพนม พร้อมด้วยของกลาง อาวุธปืนพกสั้น ยี่ห้อ COLT M1991 A1 SERIES 80 ขนาด 11 มม. หมายเลขประจำปืน 201630 พร้อมซองปืนแบบหนังสีน้ำตาล จำนวน 1 ซอง, ลูกกระสุนปืน ขนาด 11 มม. จำนวน 15 นัด, ลูกกระสุนปืน ขนาด 9 มม. จำนวน 6 นัด, ลูกกระสุนปืน ขนาด .22 มม. จำนวน 42 นัด, ลูกกระสุนปืน ขนาด .22 มม. จำนวน 40 นัด, แม๊กกาซีนปืน ขนาด 11 มม. จำนวน 2 แม๊ก, หนังสือยินยอมตรวจปัสสาวะและหนังสือรับรองผลการตรวจหาสารเสพติดจาก รพ.นครพนม
ตำแหน่งที่พบของกลาง
- อาวุธปืนพกสั้นยี่ห้อ colt m1991 a1 series 80 ขนาด 11 มม. ซุกซ่อนอยู่ในเครื่องซักผ้าซึ่งตั้งอยู่หลังบ้านภายในห้องที่เกิดเหตุ จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบลูกกระสุนปืน ขนาด 11 มม. บรรจุอยู่ในรังเพลิงจำนวน 1 นัด และกระสุนปืน ขนาด 11 มม.บรรจุอยู่ในแม๊กกาซีน จำนวน 6 นัด
- ลูกกระสุนปืนขนาด 11 มม. จำนวน 8 นัด และเครื่องกระสุนปืนขนาด 9 มม. จำนวน 6 นัด ซุกซ่อนอยู่ในกระเป๋าแบบสะพายข้าง สีน้ำตาล จำนวน 1 ใบ ที่นายที (นามสมมติ)
ถืออยู่ในมือข้างขวา ขณะ จนท.ได้แสดงตัวขอเข้าทำการตรวจค้นจับกุม
3.ลูกกระสุนปืน ขนาด .22 มม. จำนวน 1 กล่อง จำนวน 42 นัด ซุกซ่อนอยู่ช่องเก็บของข้างประตูด้านข้างคนขับ และลูกกระสุนปืน ขนาด .22 มม. 1 กล่อง จำนวน 40 นัด อยู่ช่องเก็บของอยู่หลังเบาะข้างคนขับ รวมลูกกระสุนปืน ขนาด .22 มม. 2 กล่อง จำนวน 82 นัด
พฤติการณ์ในการจับกุม : เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2565 เวลาประมาณ 10.00 น. ร.ต.อ.ยุทธพงศ์ ใสส่อง หัวหน้าชุดปราบปรามยาเสพติดร้อย ตชด. 236 ได้รับแจ้งจากแหล่งข่าว (ขอปิดนาม) ว่ากลุ่มผู้เสพและผู้จำหน่ายยาบ้ามาจำหน่ายยาบ้าอยู่ที่ห้องเช่าไม่มีเลขที่ ในพื้นที่ ต.หนองญาติ อ.เมือง จ.นครพนม จึงได้ประสานนายจักรพล เที่ยงภักดิ์ ปลัดอำเภอเมืองนครพนม/เจ้าพนักงาน ป.ป.ส. และรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ พร้อมกับประสานหน่วยงานในพื้นที่วางแผนเข้าทำการจับกุม ต่อมาในเวลาประมาณ 10.45 น. จนท.เดินทางมาถึงห้องเช่าไม่มีเลขที่ ในพื้นที่ ต.หนองญาติ อ.เมือง จ.นครพนม(จุดเกิดเหตุ) จนท.จึงได้แสดงตัวเป็นเจ้าพนักงานตำรวจ,เจ้าพนักงานปกครอง (ป.ป.ส) และได้แจ้ง ยศ นาม ตำแหน่ง ให้ทราบ
จากนั้นจึงได้แจ้งให้บุลคลในห้องพักเปิดประตูห้องพักเพื่อขอตรวจค้น จนกระทั่งเวลาผ่านไปประมาณ 5 นาที นายที (นามสมมติ) เปิดประตูห้องพักดังกล่าวออกมา เมื่อนายที (นามสมมติ) เห็นว่าเป็น จนท. นายที (นามสมมติ) ได้มีอาการมีพิรุธ ตื่นเต้น ตกใจ ตัวสั่นอยู่ตลอดเวลา จนท.จึงได้ขอทำการตรวจค้นภายในห้องพัก โดยนายที (นามสมมติ) ได้สมัครใจยินยอม เป็นผู้นำในการตรวจค้น ก่อนทำการตรวจค้น จนท.ได้แสดงความบริสุทธิ์ใจ จนเป็นที่พึงพอใจแก่นายที (นามสมมติ) นามราช แล้ว จึงได้ลงมือทำการตรวจค้นต่อหน้านายที (นามสมมติ) ตลอดเวลาที่ลงมือทำการตรวจค้น ผลการตรวจค้นพบ “อาวุธปืนพกสั้นยี่ห้อ colt m1991 a1 series 80 ขนาด 11 มม. ซุกซ่อนอยู่ในเครื่องซักผ้าซึ่งตั้งอยู่หลังบ้านภายในห้องที่เกิดเหตุ
จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบลูกกระสุนปืน ขนาด 11 มม. บรรจุอยู่ในรังเพลิงจำนวน 1 นัด และกระสุนปืน ขนาด 11 มม.บรรจุอยู่ในแม๊กกาซีน จำนวน 6 นัด” สอบถาม นายที (นามสมมติ) ได้ให้การยอมรับกับ จนท.ว่า อาวุธปืนดังกล่าวเป็นของตนจริง และไม่มีใบอนุญาตจากนายทะเบียน “เครื่องกระสุนปืนขนาด 11 มม. จำนวน 8 นัดและเครื่องกระสุนปืนขนาด 9 มม. จำนวน 6 นัด พร้อมแม๊กกาซีน ขนาด 11 มม. จำนวน 1 แม๊ก ซุกซ่อนอยู่ในกระเป๋าแบบสะพายข้าง สีน้ำตาล จำนวน 1 ใบ ที่นายที (นามสมมติ) ถืออยู่ในมือข้างขวา ขณะ จนท.ได้แสดงตัวขอเข้าทำการตรวจค้นจับกุม” จนท.จึงได้แจ้งนายที (นามสมมติ) ว่าหากมีสิ่งผิดกฎหมายซุกซ่อนอยู่ให้นำออกมาให้ จนท. นายที (นามสมมติ) บอก จนท.ว่าตนยังมีเครื่องกระสุนปืน ขนาด .22 มม. ซุกซ่อนอยู่ในรถยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่น ซิตี้ สีเทา จอดอยู่หน้าห้องพักจุดเกิดเหตุ จนท.จึงให้นายที (นามสมมติ) พาไปจุดที่ซุกซ่อนเครื่องกระสุนปืน ผลปรากฎว่า พบลูกกระสุนปืน ขนาด .22 มม. จำนวน 1 กล่อง จำนวน 42 นัด ซุกซ่อนอยู่ช่องเก็บของข้างประตูด้านข้างคนขับและลูกกระสุนปืน ขนาด .22 มม. 1 กล่อง จำนวน 40 นัด อยู่ช่องเก็บของอยู่หลังเบาะข้างคนขับ รวมเครื่องลูกกระสุนปืน ขนาด .22 มม. 2 กล่อง จำนวน 82 นัด
สอบถามนายที (นามสมมติ) ยอมรับกับ จนท.ว่า อาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนขนาด 9 มม.และ 11 มม. ดังกล่าวเป็นของตนเองจริง ส่วนเครื่องลูกกระสุนปืน ขนาด .22 มม. เพื่อนได้ฝากให้ตนซื้อมาให้ จนท.เห็นว่าการกระทำดังกล่าวเป็นความผิด จึงแจ้งข้อกล่าวหาและทำการจับกุม นำตัวผู้ถูกจับพร้อมของกลางมาที่กองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 236 เพื่อทำการสอบสวนขยายผล/บันทึกการจับกุม/ถ่ายภาพ สอบถามผู้ถูกจับว่าได้เสพยาบ้ามาก่อนหน้านี้หรือไม่ ผู้ถูกจับบอก จนท.ว่าตนได้เสพยาบ้ามาก่อนหน้านี้ จึงขอตัวอย่างปัสสาวะเพื่อตรวจหาสารเสพติดเบื้องต้น โดยผู้ถูกจับสมัครใจยินยอมให้ตรวจ ผลการตรวจเบื้องต้นพบผลเป็นบวก จึงนำตัวอย่างปัสสาวะส่งตรวจพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ที่ รพ.นครพนม ผลการตรวจพบสารเมทแอมเฟตามีนในน้ำปัสสาวะ
โดยเจ้าหน้าที่ พนักงานสอบสวน แจ้งข้อกล่าวหา ว่ามีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียน, เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) โดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย สถานที่จับกุม บริเวณภายในห้องเช่าไม่มีเลขที่ เขตพื้นที่ ต.หนองญาติ อ.เมือง จ.นครพนม
จนท.ชุดจับกุมได้ควบคุมตัวนายที (นามสมมติ) พร้อมของกลางมาที่กองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 236 เพื่อทำการสอบสวนขยายผลและบันทึกจับกุม จากการตรวจสอบพบว่า นายที (นามสมมติ) เป็นบุคคลตามหมายจับของศาลจังหวัดนครพนมที่ จ 1/2564 ลงวันที่ 29 มิถุนายน พ.ศ.2564 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า,ยาไอซ์หรือเมทแอมเฟตามีน) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย (ซึ่งมีปริมาณคำนวณเป็นสารบริสุทธิ์เกิน 20 กรัมขึ้นไป), พยายามฆ่าเจ้าพนักงานซึ่งกระทำตามหน้าที่หรือเพราะเหตุที่จะกระทำหรือได้กระทำตามหน้าที่,มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัว โดยไม่มีเหตุจำเป็นและเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์, พาอาวุธไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยเปิดเผยหรือโดยไม่มีเหตุสมควร
จนท.ชุดจับกุมจึงได้แสดงหมายจับของศาลจังหวัดนครพนม จนท.จึงได้อ่านหมายจับให้นนายที (นามสมมติ) ฟัง และให้ตรวจสอบเปรียบเทียบหมายเลขบัตรประชาชนตามทะเบียนราษฎร์ (ทร.14) พบว่าหมายเลขบัตรประชาชนตรงกัน (หมายจับและทะเบียนราษฎร์) จริง และนายที (นามสมมติ) ให้การยอมรับสารภาพว่าตนเองเป็นบุคคลเดียวกับบุคคลผู้มีชื่อในหมายจับจริงและไม่เคยถูกจับกุมในคดีนี้มาก่อน จนท.ชุดจับกุมจึงได้แจ้งข้อกล่าวหาตามหมายจับข้างต้นและสิทธิอันพึงมีตามกฎหมายให้ผู้ถูกจับทราบแล้วพร้อมทั้งจับกุมนำตัวนายที (นามสมมติ) นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครพนม เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
"เพลิงพระกาฬ" รายงาน