บช.น. ขอชี้แจงกรณี สาวร้อง บช.น. ถูก ตร.ยืมเงินแล้วไม่คืน
วันที่ 29 มิถุนายน 2565 : พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รอง ผบช.น./โฆษก บช.น. และ พล.ต.ต.นิธิธร จินตกานนท์ รอง ผบช.น./รองโฆษก บช.น. ขอประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสาร ตามที่ปรากฏข้อมูลข่าวสาร กรณีมีเหตุหญิงสาวเข้าร้องเรียนโดนตำรวจ สน.หลักสอง ยืมเงินแล้วไม่คืนนั้น
กองบัญชาการตำรวจนครบาล ขอเรียนชี้แจงว่า เรื่องดังกล่าว หญิงผู้เสียหายได้เคยร้องเรียนกับ สน.หลักสอง และได้มีการตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงแล้ว ต่อมาผลการพิจารณาของคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงกรณี ส.ต.ท.ภคพณฯ ยืมทรัพย์สินจากผู้เสียหายแล้วไม่คืนนั้น มีความผิดวินัยฐานกระทำการหรือไม่กระทำการตามที่กำหนดในกฎ ก.ตร. (กฎ ก.ตร.ว่าด้วยประมวลจริยธรรม และจรรยาบรรณของตำรวจ (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2553 ส่วนที่ 2 มาตรฐานทางจริยธรรมและจรรยาบรรณของตำรวจ (1) มาตรฐานทางจริยธรรมของตำรวจ ข้อ 11 ข้าราชการตำรวจต้องมีความซื่อสัตย์ สุจริต และยึดมั่นในศีลธรรม โดยยึดประโยชน์ส่วนรวม เหนือประโยชน์ส่วนตน ซึ่งต้องประพฤติปฏิบัติ ดำรงชีวิตส่วนตัวมิให้เกิดมลทินมัวหมองต่อตำแหน่งหน้าที่ ไม่ทำผิดกฎหมาย แม้เห็นว่าเป็นเรื่องเล็กน้อย ไม่หมกมุ่นในอบายมุขทั้งหลาย ไม่ฟุ้งเฟ้อหรูหรา และใช้จ่ายประหยัดตามฐานะแห่งตน) ซึ่งเป็นความผิดวินัยไม่ร้ายแรง ผู้บังคับบัญชาจึงได้ทำหนังสือว่ากล่าวตักเตือนตามระเบียบ และได้แจ้งผลการพิจารณาดังกล่าวให้กับหญิงผู้ร้องไว้แล้วเมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2565
ต่อมาเมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2565 หญิงผู้เสียหายได้มายื่นหนังสือร้องเรียนกับฝ่ายร้องทุกข์ กองบัญชาการตำรวจนครบาล โดยได้ยื่นร้องเรียนเพื่อขอให้พิจารณาบทลงโทษอีกครั้งเนื่องจากตนเองนั้นเห็นว่าบทลงโทษว่ากล่าวตักเตือนนั้นยังไม่เหมาะสมกับพฤติกรรมของตำรวจนายดังกล่าว และเมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 2565 หญิงผู้เสียหายได้เดินทางมากองบัญชาการตำรวจนครบาลอีกครั้งเพื่อสอบถามความคืบหน้า
จากเหตุดังกล่าว ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ได้ให้ความสำคัญในเรื่องดังกล่าว ประกอบกับเป็นนโยบายของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กรณีตำรวจไปกระทำความผิดเสียเอง จะต้องมีการดำเนินคดีอย่างเฉียบขาด และรวดเร็ว “นิ้วไหนร้ายก็ต้องตัดออก” โดยความคืบหน้า ณ ขณะนี้ ขอเรียนให้ทราบว่าทางกองบัญชาการตำรวจนครบาล ได้มีการสั่งการลงไปยัง กองบังคับการตำรวจนครบาล 9 ให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าวแล้ว และได้สั่งการให้พิจารณาให้ความคุ้มครองผู้ร้องอย่าให้ต้องรับภัยหรือความไม่ชอบธรรมอันเนื่องมาจากเรื่องร้องเรียนนี้อย่างเคร่งครัด
กองบัญชาการตำรวจนครบาล ต้องขอแสดงความเสียใจกับผู้เสียหายมา ณ โอกาสนี้ และขอยืนยันว่าจะดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงดังกล่าวตามคำร้องอย่างตรงไปตรงมา และจะให้ความเป็นธรรมแก่คู่กรณีทั้งสองฝ่าย แม้ว่าผู้ถูกร้องจะเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ตาม ทั้งนี้เพื่อผดุงความยุติธรรมให้กับสังคมและประชาชน ตามนโยบายของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และผู้บัญชาการตำรวจนครบาลโดยเคร่งครัดต่อไป
สุรเชษฐ ศิลานนท์ รายงาน