ข่าวใหม่อัพเดท » “บิ๊กต่อ” ผช.ผบ.ตร.แถลงสืบ สวน บช.น.จับยาบ้า กว่า 8.5 ล้านเม็ด และคดีหลอกขายรถหรู ของสืบสวนนครบาล 5

“บิ๊กต่อ” ผช.ผบ.ตร.แถลงสืบ สวน บช.น.จับยาบ้า กว่า 8.5 ล้านเม็ด และคดีหลอกขายรถหรู ของสืบสวนนครบาล 5

5 มิถุนายน 2022
0

“บิ๊กต่อ” ผช.ผบ.ตร.แถลงสืบ สวน บช.น.จับยาบ้า กว่า 8.5 ล้านเม็ด และคดีหลอกขายรถหรู ของ สืบสวนนครบาล 5

วันที่ 5 มิ.ย.65 เวลา 11.30 น. ณ ลานอเนกประสงค์ บช.น. : พล.ต.ท.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้ช่วย.ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผบช.น., พล.ต.ต.นิธิธร จินตกานนท์ รอง ผบช.น./รองโฆษก บช.น., พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ ผบก. สส.บช.น., พ.ต.อ.ธีระชัย ชำนาญหมอ รอง ผบก.สส.บช.น., พ.ต.อ. กฤศณัฏฐ์ ธนศุภณัฏฐ์ ผกก.สส.2.บก.สส.บช.น., พ.ต.อ.จิรกฤต จารุนภัทร์ ผกก.สส.บก.น.5 และจนท.บก.สส.บช.น. ร่วมแถลงข่าวกรณีการจับกุมยาเสพติด พร้อมของกลางยาบ้า (ยาเสพติดให้โทษประเภท1) จำนวนกว่า 8,500,000 เม็ด ของ บก.สส. บช.น. และคดีหลอกขายรถหรู ของ กก.สส.บก.น.5

คดีแรก : ผลงานของ บก.สส.บช.น. จับกุมยาเสพติด พร้อมของกลางยาบ้า (ยาเสพติดให้โทษประเภท1) จำนวนกว่า 8,500,000 เม็ด

พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ ผบก.สส.บช.น. ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.กฤศณัฏฐ์ ธนศุภณัฏฐ์ ผกก.สส.2ฯ, พ.ต.ท.ณัฐวุฒิ สีเสมอ รอง ผกก.สส.2ฯ, พ.ต.ท.สุชาติ มงคลพิพัฒน์ รอง ผกก.สส.4ฯ ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ กองกำกับการสืบสวน 2 ทำ การสืบสวนผู้ต้องหาคดียาเสพติดรายใหญ่/รายสำคัญให้ได้ผลอย่างเป็นรูปธรรมเพื่อป้องกันไม่ให้ยาเสพติดแพร่กระจายลงสู่ชุมชน

จนกระทั่งเมื่อวันที่ 3 มิถุนายน 2565 เวลาประมาณ 17.00 น. สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้บริเวณภายในลานจอดรถปั๊มพีทีสระบุรี ต.ห้วยบง อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.สระบุรี ต่อเนื่อง บริเวณริมถนนใกล้ปั้มบางจาก เคซี ออย ต.ห้วยบง อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.สระบุรี จำนวน 3 ราย คือ นายประยงค์ฯ อายุ 45 ปี, นายทวีโชคฯ อายุ 49 ปี และ นายฤทธิรงค์ฯ อายุ 38 ปี พร้อมด้วยของกลาง ยาบ้า ประมาณ 8,500,000 เม็ด, รถยนต์ บรรทุก 10 ล้อ ยี่ห้อฮีโน่ ติดแผ่นป้ายทะเบียน 70-2729 สกลนคร, รถยนต์ นิสสัน ซีลฟี่ สีขาว ติดแผ่นป้าย กค-7687 นครพนม, โทรศัพท์ 4 เครื่อง โดยกล่าวหาว่า “ร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) อันเป็นการมีไว้เพื่อจำหน่ายอันเป็นการกระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดภัยของประชาชนทั่วไป”

สืบเนื่องมาจากเมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม 2565 เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.สส.บช.น.ได้ทำการจับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติดรายใหญ่ ผู้ต้องหา 3 ราย ที่ภายในปั้ม พีที ต.โคกเดื่อ อ.ไพศาลี จ.นครสวรรค์ พร้อมของกลาง ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) จำนวนประมาณ 1,000,000 เม็ด (หนึ่งล้านเม็ด) ซึ่งจะนำยาเสพติดมาส่งให้กับลูกค้าในพื้นที่กรุงเทพมหานคร จึงได้สืบสวนขยายผลเรื่อยมา จนทราบว่ามีกลุ่มผู้ลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากชายแดนภาคเหนือ ด้านจังหวัดพะเยา เพื่อนำมาส่งให้กับลูกค้าพื้นที่ภาคกลาง

ก่อนที่จะกระจายยาเสพติดลงสู่กรุงเทพมหานครและใกล้เคียง โดยใช้รถยนต์หลายคัน โดยมีรถยนต์บรรทุก 10 ล้อ ยี่ห้อฮีโน่ หมายเลขทะเบียน 70-2729 สกลนคร ซึ่งเชื่อว่าเป็นรถบรรทุกยาเสพติด ซึ่งในแต่ละครั้งจะมีการเปลี่ยนรถนำตลอดเวลาและมีนายฤทธิรงค์ฯ คุมทีมลำเลียง ซึ่งเป็นคนพื้นที่ จ.นครพนม โดยใช้เส้นทางพะเยา-แพร่-อุตรดิตถ์-พิษณุโลก-ลงสู่หลายจังหวัดในภาคกลาง

จากการเฝ้าติดตาม กระทั่งเมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2565 เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบทราบว่ารถยนต์ของกลุ่มดังกล่าวเดินทางออกจากจังหวัดนครพนม มุ่งหน้าจังหวัดเลย-พิษณุโลก ขึ้นสู่ภาคเหนือด้านจังหวัดพะเยา ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้เฝ้าดูความเคลื่อนไหวตลอด ซึ่งเชื่อว่าน่าจะไปรับยาเสพติดเพื่อมาส่งให้กับลูกค้าซึ่งกลุ่มดังกล่าวจะทำเช่นนี้เป็นประจำ ต่อมาวันที่ 3 มิถุนายน 2565 เวลาประมาณ 03.59 น. พบความเคลื่อนไหวของกลุ่มดังกล่าวเคลื่อนตัวลงมา ผู้บังคับบัญชาจึงได้สั่งการให้นำกำลังออกติดตาม ซึ่งได้ติดตามเรื่อยมา จนกระทั่งใกล้ถึงตัวเมืองสระบุรี บริเวณปั้มน้ำมัน พีที สระบุรี ต.ห้วยบง อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.สระบุรี รถยนต์บรรทุกสิบล้อได้เข้าไปจอดภายในปั้ม และพบว่ารถยนต์ นิสสัน ซีลฟี่ หมายเลข กค-7687 นครพนม ซึ่งเชื่อว่าเป็นรถนำจอดอยู่บริเวณหน้าปั้มบางจากเคซี ออย ต.ห้วยบง อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.สระบุรี จอดอยู่บริเวณหน้าปั้มกับรถยนต์กระบะอีกหลายคันซึ่งเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมเชื่อว่าจะมีการส่งยาเสพติด อย่างแน่นอน ผู้บังคับบัญชาได้สั่งการให้เข้าแสดงตัวเพื่อทำการตรวจค้น ผลจากการตรวจค้นพบยาบ้า จำนวน 8,500,000 เม็ด
บริเวณท้ายรถบรรทุกคันดังกล่าวและมีรถยนต์กระบะอีกหลายคันพยายามหลบหนีเจ้าหน้าที่ตำรวจพยายามยิงสกัดแต่สามารถหลบหนีไปได้ ผู้ต้องหาทั้งหมดให้การรับสารภาพ จึงได้จับกุมผู้ต้องหาพร้อมของกลางนำส่งพนักงานสอบสวน บช.ปส. เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

คดีที่สอง : ผลงานกก.สส.บก.น.5 จับกุมอดีตพนักงานขายรถหรู ย่านวิภาฯ หลอกกลุ่มลูกค้าเก่าโอนเงินมัดจำ เสียหายกว่า 20 ราย

พล.ต.ต.โสภณ สารพัฒน์ ผบก.น.5 ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.จิรกฤต จารุนภัทร์ ผกก. สส.บก.น.5, พ.ต.ท.ทวีทรัพย์ ภักดีดินแดน, พ.ต.ท.ทองเปลว หาญไพบูลย์ รอง ผกก.สส.บก.น.5 พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.บก.น.5 ร่วมแถลงผลการปฏิบัติที่สำคัญ

ก่อนการจับกุมคดีนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.บก.น.5 พบว่ามี ผู้เสียหายจำนวนมากถูก น.ส.ชยณัฐฯ อายุ 40 ปี หลอกให้จอง รถยนต์หรู ย่านวิภาวดี รุ่นต่างๆ สูญเสียเงินจำนวนมาก จนกระทั่งเมื่อวันที่ 3 มิ.ย.65 เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส. บก.น.5 จึงได้ทำการสืบสวน จนสามารถจับกุมตัว น.ส.ชยณัฐฯ ได้ที่ ห้องพักเลขที่ 888/801 คอนโดยู ดีไลน์ รัชวิภา แขวงลาดยาว เขตจตุจัก กทม.โดยจากการสอบถามน.ส.ชยณัฐฯ ทราบว่า ก่อนหน้านี้เคยทำงานอยู่เป็นพนักงานขายรถยนต์ ที่ บริษัทรถยนต์หรู ย่านวิภาวดี และถูกให้ออกจากงาน จึงได้วางแผน หลอกลูกค้าเก่าๆ ที่เคยซื้อรถยนต์หรูกับตน ให้ช่วยจองรถยนต์หรู ให้ตน เพราะตนอยากได้ยอดจอง โดยให้เสียค่าจอง ในจำนวน 50,000-100,000 บาท

โดย น.ส.ชยณัฐฯ จะให้ ผู้เสียหายโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารของ น.ส.ชยณัฐฯ และ น.ส.ชยณัฐฯ ก็จะปลอมใบสั่งจองรถยนต์ของบริษัทรถยนต์หรู ส่งให้กับผู้เสียหาย โดย น.ส.ชยณัฐฯ แจ้งกับ ผู้เสียหายว่า ตนสามารถเอาเงินคืนจากบริษัทได้ และเมื่อถึงเวลาคืนเงินค่าจองรถ น.ส.ชยณัฐฯ แจ้งว่าจะคืนเงินให้ โดยให้เพิ่มจากค่าจอง อีก 10,000 – 20,000 บาท หลังจากเมื่อได้เงินมา น.ส. ชยณัฐฯ ก็จะนำเงินที่ได้จากการหลอก ไปเล่นการพนันออนไลน์

จากการสืบสวนขยายผล ทราบว่า มีผู้เสียหายที่ถูก น.ส.ชยณัฐฯ หลอกให้จองรถยนต์หรู ประมาณ 20 ราย มูลค่าทรัพย์สินที่เสียหายประมาณ 2,757,099 บาท นำส่ง พงส.สน.พหลโยธิน ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

บช.น. ขอเรียนพี่น้องประชาชนว่า ถึงแม้ว่าช่วงนี้จะมีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจยังคงปฏิบัติหน้าที่ในการบำบัดทุกข์และบำรุงสุขให้แก่พี่น้องประชาชน หากพบเห็นหรือมีเบาะแสเกี่ยวกับการกระทำ ความผิด โปรดแจ้งสายด่วน 191 หรือสถานีตำรวจท้องที่


Cr.ทีมงานประชาสัมพันธ์ บช.น.
สุรเชษฐ ศิลานนท์ รายงาน

error: Content is protected !!