ข่าวใหม่อัพเดท » จ่อแจังจับ​ “สันธนะ” ศึกแย่งประโยชน์ ์ตลาดสุรนคร​ 10​ ล.

จ่อแจังจับ​ “สันธนะ” ศึกแย่งประโยชน์ ์ตลาดสุรนคร​ 10​ ล.

11 สิงหาคม 2019
0

มหากาพย์ตลาดสุรนครโคราช ศึกแย่งชิงผลประโยชน์เดือนละ​ 10 ล้าน จ่อแจ้งความ ‘สันธนะ’ ฐานไม่มีสิทธิ์โดยชอบธรรม ข้อหาบุกรุก

          วันนี้​ วัน​อาทิ​ตย์ที่ 11 สิงหาคม 2562 เวลา 11.00 น.ที่ตลาดสุรนคร ตลาดกลางค้าส่งพืชผัก​ และผลไม้ใหญ่ที่สุดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ตั้งอยู่ริมถนนมิตรภาพ ตรงข้ามสถานีขนส่งผู้โดยสารนครราชสีมาแห่งที่ 2 อ.เมือง​ จ.นครราชสีมา​ : นางกัญญานนท์ กมลยะบุตร ในฐานะกรรมการผู้มีอำนาจของบริษัท สุรนครเมืองใหม่ จำกัด ผู้เช่าดำเนินกิจการตลาดสุรนคร จากตระกูลสุวรรณชาติ ชี้แจงปัญหาความขัดแย้งกับนายปรีชา สุวรรณชาติ อดีตผู้บริหาร ห้างหุ้นส่วนจำกัด (หจก.) อุ้มบุญธุรกิจและเป็นตัวแทนครอบครัวสุวรรณชาติ เจ้าของที่ดิน 38 ไร่ 1 งาน 38 ตารางวา ซึ่งได้ทำสัญญาให้บริษัท สุรนครเมืองใหม่ฯ เช่าดำเนินกิจการตลาดสุรนคร เมื่อวันที่ 31 มกราคม 2534 กำหนดเวลา 30 ปี ต่อมาคู่กรณีโดยผู้ให้เช่า​ และผู้เช่าได้มีปัญหาพิพาททั้งความผิดทางอาญาและทางแพ่ง ยื่นฟ้องตามกระบวนการยุติธรรมต่อศาลจังหวัดนครราชสีมา ศาลแพ่ง​ และศาลล้มละลายกลาง จำนวนร่วม 20 สำนวน นอกจากนี้ ได้นำกำลังชายฉกรรจ์เข้ามาบุกยึดครอบครองกิจการตลาด เพื่อเรียกเก็บผลประโยชน์เดือนละ 10 ล้านบาท จนกลายเป็นมหากาพย์ความขัดแย้ง ชาวโคราช​ ที่มีทั้งกองเชียร์และกองแช่งต่างทราบดีและติดตามอย่างใกล้ชิด

          เหตุการณ์ล่าสุดเกิดขึ้นเมื่อช่วงสาย​ ของวันที่ 10 สิงหาคม 2562​ นายสันธนะ ประยูรรัตน์ ตำแหน่งเดิม พ.ต.ท.สันธนะ อดีตรองผกก.สันติบาล ได้นำชายฉกรรจ์กว่า 100 คน เดินทางเข้ามาในพื้นที่ตลาด อ้างได้รับมอบอำนาจจากนายปรีชาฯ​ และตระกูลสุวรรณชาติ เพื่อมุ่งหวังพยายามบุกยึดแย่งชิงการครอบครองกิจการ​ และจัดเก็บผลประโยชน์ซึ่งมีแผงขายสินค้า 1,310 แผง ลานขนถ่ายสินค้า 226 แผง ตลาดโต้รุ่ง 58 แผง ตลาดปีนัง 58 แผง​ และอาคารพาณิชย์ 59 คูหา แต่ พ.ต.ท.สายัญ แบ่งสันเทียะ รองผกก.สส.สภ.เมือง จ.นครราชสีมา​ ในฐานะรักษาการแทน พ.ต.อ.คเชนทร์ เสตะปุตะ ผกก.สภ.เมือง จ.นครราชสีมา พร้อมเจ้าหน้าที่ทั้งในและนอกเครื่องแบบรวมทั้งเจ้าหน้าที่ปกครองจังหวัดนครราชสีมา กว่า 50 นาย ได้สนธิกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย ได้ตั้งแถวป้องปรามการเผชิญหน้า​ และใช้กำลัง โดยให้คู่กรณีเจรจา โดยยึดถือแนวทางปฏิบัติตามกระบวนการยุติธรรม ปรากฏ บริษัท สุรนคร ซึ่งเป็นจำเลยได้ยื่นคำร้องขอฟื้นฟูกิจการต่อศาลล้มละลายกลาง เนื่องจากคดียังไม่ถึงที่สุด ศาลจึงมีบทบัญญัติให้ยกคำร้องการบังคับคดี นายสันธนะฯ​ จึงได้พูดคุย​ และแสดงท่าทีไม่พอใจ จากนั้นได้ออกเดินทางพบปะพูดคุยกับผู้ประกอบการค้าในตลาด เพื่อสะท้อนปัญหา​ และระบุเดือนสิงหาคม ถือเป็นห้วงเวลาอันมหามงคล นายปรีชาฯ​ ยินดีที่จะไม่จัดเก็บค่าเช่า หากถูกเรียกเก็บเงินถือเป็นการแอบอ้างให้ไปแจ้งความดำเนินคดีตามกฎหมายได้ ก่อนจะเดินทางกลับ ส่วนกำลังชายฉกรรจ์จำนวนหลายสิบคนยังคงกบดานอยู่ภายในตลาดเพื่อรอฟังคำสั่ง ด้านเจ้าหน้าที่บ้านเมืองได้ตรึงกำลังอย่างหนาแน่นและเรียกกองกำลังทั้งสองฝ่ายมาทำประวัติคัดกรองพร้อมตรวจค้นหาสิ่งของผิดกฎหมาย​ และกำชับห้ามใช้กำลังอย่างเด็ดขาด มิเช่นนั้นจะจับกุมทันที

          ด้านที่ปรึกษาฝ่ายกฎหมายสุรนครฯ เปิดเผยว่า สถานะของ หจก.อุ้มบุญธุรกิจ ที่นายปรีชาฯ​ มักนำมาใช้อ้างในการบุกเข้ามาครอบครองกิจการตลาด ศาลฎีกาได้มีคำพิพากษา เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2559 ให้ หจก.อุ้มบุญ เลิกห้าง โดยให้เจ้าพนักงานบังคับคดี เป็นผู้ชำระบัญชีแทนและเข้ามาดำเนินการตามความในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ เรื่องการชำระบัญชีและการแก้ต่างในนามของ หจก.อุ้มบุญธุรกิจ ในอรรถคดีพิพาทต่างๆ ดังนั้นนายปรีชาฯ​ จึงไม่มีสิทธิ์ ไม่มีอำนาจและหน้าที่ใดๆ ปัญหาสำคัญที่มักใช้กล่าวอ้าง ขอชี้แจง บริษัท สุรนคร ยังคงเป็นผู้ทรงสิทธิ์ค่าเช่าที่ดินอันเป็นที่ตั้งของตลาดสุรนคร ฯ ตามสัญญาเช่า สัญญาต่อท้ายและสัญญาเช่าช่วง โดยคำพิพากษาของศาลจังหวัดนครราชสีมา เมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2562 คดีหมายเลขดำ ที่ พ.2854/2537 คดีหมายเลขแดงที่ 418/2540 ระหว่าง หจก.อุ้มบุญธุรกิจ โดยเจ้าพนักงานบังคับคดี ผู้ชำระคดีในฐานะโจทก์กับบริษัท สุรนครเมืองใหม่ จำกัด จำเลย มีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2562 ให้จำเลยชำระเงินและค่าเสียหายให้โจทก์จำนวน 100 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปีของเงินต้นนับถัดจากวันฟ้อง (วันที่ 22 พฤศจิกายน 2537) จนกว่าจะชำระเสร็จและให้จำเลยชดใช้ค่าเสียหายเดือนละ 9 แสนบาท รวมยอดเงินที่ต้องชำระให้กับโจทก์ประมาณ 500 ล้านบาท ปรากฏจำเลยได้ยื่นคำร้องขอฟื้นฟูกิจการต่อศาลล้มละลายกลาง เมื่อวันที่ 25 เมษายน 2562 ได้บัญญัติห้ามมิให้เจ้าหนี้บังคับคดีเอาทรัพย์สินกับลูกหนี้ และพิพากษาให้จำเลยชำระหนี้อันเกิดจากการผิดสัญญาและให้จำเลยขนย้ายทรัพย์สินและบริวารออกไปจากที่เช่า จึงเป็นทรัพย์สินของลูกหนี้แต่คดียังไม่ถึงที่สุด จึงต้องงดการบังคับคดีไว้และไม่อาจออกหมายตั้งเจ้าพนักงานบังคับคดีตามขอได้ ประการสุดท้ายที่ดินที่เป็นที่ตั้งของตลาดสุรนคร เจ้าพนักงานบังคับคดีจังหวัดนครราชสีมา ได้ยึดที่ดินดังกล่าวรวม 4 แปลง ไว้ตามหมายบังคับคดีของศาลล้มละลายกลาง คดีแพ่งหมายเลขแดงที่ ล.5194/2551 ซึ่งมีบริษัท สุรนคร เป็นเจ้าหนี้ตามพิพากษา รวมทั้งได้ยึดหุ้นของนายปรีชาฯ

          นางกัญญานนท์ฯ​ กล่าวว่า กว่า 20 ปี บริษัท สุรนครเมืองใหม่ จำกัด ได้ถูกนายปรีชาฯ​ และพวกพยายามทุกวิถีทางที่จะเข้ามาครอบครองกิจการตลาด โดยยุยง ส่งเสริม ใส่ร้ายป้ายสีไม่ให้พ่อค้าแม่ขายจ่ายค่าเช่ากับบริษัท สุรนครฯ สร้างข่าวเท็จในโลกโซเชียล เดินสายตระเวนร้องเรียนทุกหน่วยงานทั้งในพื้นที่และส่วนกลางรวมทั้งนำกองกำลังเข้ามาบุกยึดตลาด พฤติการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นเป็นรายปี ตนและพ่อค้าแม่ขายต่างชินชากันแต่ประชาชนไม่กล้าจับจ่ายซื้อขายสินค้าในตลาดเกรงไม่ได้รับความปลอดภัยรวมทั้งเป็นภาพความขัดแย้งและบิดเบือนให้สังคมเข้าใจ บริษัท สุรนครฯ​ ไม่ยอมจ่ายค่าเช่าเป็นเวลา 24 ปี จึงขอความเป็นธรรมด้วย ขณะนี้อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานกรณีนายสันธนะฯ และพวกทั้งๆ ที่ไม่มีสิทธิ์อันชอบธรรม ฐานบุกรุก เข้ามาสร้างความวุ่นวาย ก่อกวน รังแก รวมทั้งใส่ร้ายและบิดเบือนข้อเท็จจริง เร็วๆนี้ จะแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษกับพนักงานสอบสวน สภ.เมือง นครราชสีมา นางกัญญานนท์กล่าว

Cr.ตุ๋ย~อาชญากรรม~หน.ศูนย์ข่าวสยามรัฐ~ศูนย์ข่าวยุทูศาสตร์~ข่าวพิมพ์ไทย~นครราชสีมา

สุรเชษฐ​ ศิลา​นนท์​ รายงาน​

error: Content is protected !!