ข่าวใหม่อัพเดท » “บิ๊กอู๊ด ผบช.สตม.” ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมชายแดนไทย-มาเลเซีย ในห้วงวิกฤติการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่ด่านพรมแดนสุไหงโก-ลก

“บิ๊กอู๊ด ผบช.สตม.” ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมชายแดนไทย-มาเลเซีย ในห้วงวิกฤติการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่ด่านพรมแดนสุไหงโก-ลก

6 กรกฎาคม 2021
0

“บิ๊กอู๊ด ผบช.สตม.” ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมชายแดนไทย-มาเลเซีย ในห้วงวิกฤติการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่ด่านพรมแดนสุไหงโก-ลก

เมื่อวันที่ 4 ก.ค.64 จ.นราธิวาส : พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม. พร้อมคณะลงพื้นที่อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส เพื่อติดตามการปฏิบัติงานตามแนวชายแดนไทย-มาเลเซีย พร้อมรับฟังการบรรยายสรุปการควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ตามแนวชายแดนในพื้นที่ จาก พ.ต.อ.ศุภชาติ เวชพร ผกก.ตม.จ.นราธิวาส และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ณ ด่านพรมแดนสุไหงโก-ลก

โอกาสนี้ได้มอบสิ่งของบำรุงขวัญแก่หัวหน้าส่วนราชการที่ปฏิบัติงานในพื้นที่ และสนับสนุน อุปกรณ์ป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 แก่สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดนราธิวาส

พล.ต.ท.สมพงษ์ฯ กล่าวว่า การลงพื้นที่ในครั้งนี้ สิ่งสำคัญ คือ มาให้กำลังใจผู้ปฏิบัติงานป้องกันชายแดนด่านหน้าในพื้นที่จังหวัดนราธิวาสที่ได้ปฏิบัติงานอย่างเต็มที่ในการป้องกันบุคคลที่ลักลอบเข้ามาในราชอาณาจักรอย่างผิดกฎหมาย อีกทั้ง ได้กำชับให้ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดนราธิวาส ปฏิบัติหน้าที่ร่วมกับหน่วยกำลังในพื้นที่พร้อมดึงภาคประชาชนร่วมเป็นเครือข่ายในการป้องกันเฝ้าระวังและแจ้งเบาะแสบุคคลที่ลักลอบเข้ามาอย่างผิดกฎหมาย เนื่องจากในประเทศมาเลเซียยังมีอัตราการพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 สูงมาก

อย่างไรก็ตาม จากการติดตามแนวทางการปฏิบัติงานของจังหวัดนราธิวาส ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดนราธิวาส และหน่วยงานด่านหน้าที่บูรณาการความร่วมมือในการรับมือการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 เห็นผลในเชิงประจักษ์ที่สามารถควบคุมป้อง ส่วนแนวทางการเปิดประเทศตามต้นแบบภูเก็ต เเซนด์บ็อกซ์ จะต้องพิจารณาตามหลักเกณฑ์และความพร้อมในหลายด้าน โดยเฉพาะสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในพื้นที่ การฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ที่เน้นย้ำว่าต้องฉีดครบและเฝ้าสังเกตอาการอยู่ในพื้นที่จังหวัดนั้นๆก่อนเดินทางออกนอกพื้นที่

สำหรับการปฏิบัติงานของตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดนราธิวาสในห้วงการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ตั้งแต่ตุลาคม 2563-ปัจจุบัน สามารถจับกุมบุคคลต่างด้าว สัญชาติเมียนมา กัมพูชา ลาว มาเลเซีย ปากีสถาน เวียดนาม และอื่นๆรวม 264 คน โดย 3 อันดับแรก ที่ลักลอบเข้ามาในราชอาณาจักร คือ เมียนมา, ลาว, และกัมพูชา ซึ่งบุคคลกลุ่มนี้เมื่อถูกจับกุมจะส่งเข้าเรือนจำชั่วคราวโคกยามู และสถานีตำรวจในพื้นที่เพื่อกักตัวสังเกตอาการ 14 วัน จากนั้นจะถูกส่งดำเนินคดีตามกฎหมายและผลักดันกลับประเทศภูมิลำเนา

ส่วนสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ของจังหวัดนราธิวาส ล่าสุดมีผู้ติดเชื้อโควิด-19 สะสม จำนวน 2,401 ราย รักษาหายสะสมจำนวน 1,557 ราย เสียชีวิตสะสม จำนวน 9 ราย โดยส่วนหนึ่งเป็นผู้ที่เดินทางเข้ามาจากประเทศมาเลเซียอย่างถูกกฎหมายและผิดกฎหมาย


สุรเชษฐ ศิลานนท์ รายงาน

error: Content is protected !!