ข่าวใหม่อัพเดท » บช.น. แถลงข่าวการชุมนุมของ กลุ่มม๊อบรีเด็ม (redem) ที่บริเวณหน้าศาลอาญา เมื่อวันอาทิตย์ ที่ 2 พ.ค.64

บช.น. แถลงข่าวการชุมนุมของ กลุ่มม๊อบรีเด็ม (redem) ที่บริเวณหน้าศาลอาญา เมื่อวันอาทิตย์ ที่ 2 พ.ค.64

3 พฤษภาคม 2021
0

บช.น.แถลงข่าวการชุมนุมของกลุ่มม๊อบรีเด็ม (redem) ที่บริเวณหน้าศาลอาญา เมื่อวันอาทิตย์ ที่ 2 พ.ค.64

วันที่ 3 พ.ค.64 เวลา 10.30 น. ณ ลานอเนกประสงค์ บช.น. : พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น. พร้อมด้วย พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รอง ผบช.น./โฆษก บช.น. และ พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ร่วมแถลงข่าวการชุมนุมของกลุ่มม๊อบรีเด็มม (redem) ที่บริเวณหน้าศาลอาญา เมื่อวันอาทิตย์ ที่ 2 พ.ค.64

จากการนัดหมายชุมนุมเมื่อวานนี้ของ กลุ่ม REDEM โดยนัดหมายรวมตัว เวลา 15.00 น. ที่บริเวณเกาะพญาไท อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ต่อมาได้เคลื่อนขบวนไปที่บริเวณแยกราชประสงค์ และได้รวมตัวกันเรื่อยมา จนกระทั่งเวลาประมาณ 17.00 น. กลุ่มผู้ชุมนุมถึงบริเวณหน้าศาลอาญารัชดา มีการรวมกลุ่มกันกีดขวางการจราจรปิดช่องทางการจราจร 2 ช่องทางและมีการขว้างปาสิ่งของเข้าไปภายในศาลอาญา จากนั้นเวลาประมาณ 17.40 น. ผกก.สน.พหลโยธินได้ประกาศให้เลิกการปาสิ่งของเข้ามาภายในศาลอาญา และให้ยุติการชุมนุม แต่ก็ยังมีการขว้างปาสิ่งของเข้ามา ต่อมาเวลาประมาณ 18.05 น. ทางกลุ่มได้ประกาศยุติกิจกรรม แต่ยังคงเหลือกลุ่มก่อความไม่สงบ ประมาณ 20 คน เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าปฏิบัติการบังคับใช้กฎหมาย โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการประกาศแจ้งเตือนกลุ่มผู้ชุมนุมให้ยุติการชุมนุม ซึ่งการชุมนุมดังกล่าวเป็นการชุมนุมที่ผิดกฎหมาย จนกระทั่ง 19.20 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจเริ่มปฏิบัติการในการรักษาความสงบเรียบร้อย

  1. ชุมนุมโดยผิดกฎหมาย เป็นความผิดตามมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 และประกาศหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ในส่วนที่เกี่ยวกับความมั่นคง (ฉบับที่ 5) ลงวันที่ 5 มีนาคม 2564
  2. กระทำใดๆ ซึ่งอาจก่อสภาวะที่ไม่ถูกสุขลักษณะ ที่เป็นเหตุให้เกิดโรคติดต่ออันตรายหรือโรคแพร่ระบาดออกไป ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ เป็นการกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.โรคติดต่อ
  3. ป.อาญา มาตรา 215 ผู้ใดมั่วสุมกันตั้งแต่สิบคนขึ้นไป ใช้กำลังประทุษร้าย ขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้าย หรือกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดให้เกิดการวุ่นวายขึ้นในบ้านเมือง ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหกเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ วรรคสอง ถ้าผู้กระทำความผิดคนหนึ่งคนใดมีอาวุธ บรรดาผู้ที่กระทำความผิด ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
  4. ร่วมกันต่อสู้หรือขัดขวางเจ้าพนักงานฯโดยใช้กำลังประทุษร้ายโดยมีหรือใช้อาวุธ โดยร่วมกันกระทำผิดตั้งแต่สามคนขึ้นไป

ผลจากการปฎิบัติการในวันนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับบาดเจ็บ 3 ราย และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้เข้าปฎิบัติการบังคับใช้กฎหมายเข้าควบคุมตัวกลุ่มผู้ชุมนุม 4 ราย เป็นผู้ที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มผู้ที่ก่อความไม่สงบในบ้านเมือง ไว้เพื่อทำการสอบสวนและดำเนินการตามกฎหมายเพิ่มเติมต่อไป และในส่วนของทรัพย์สินทางราชการได้ที่ได้รับความเสียหายมีรถตู้ รถกระบะ รถขยายเสียง รวมทั้งหมด 6 คัน ในส่วนของทรัพย์สินทางศาลอาญาที่ได้รับความเสียหาย จะต้องรอประเมินอีกครั้งต่อไป

เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2564 กลุ่มเยาวชนปลดแอก (REDEM) ทำกิจกรรม “คาราวานประกาศคุณงามความดีตระกูลเหนือพะวงศ์ จากอนุสาวรีย์ชัยฯ ไปศาลอาญารัชดา” โดยมีพฤติการณ์ ก่อนเกิดเหตุ กลุ่มเยาวชนปลดแอก (REDEM) ได้ประกาศเชิญชวนมวลชนให้ไปร่วมทำกิจกรรม “คาราวานประกาศคุณงามความดี ตระกูลเหนือพะวงศ์ จากอนุสาวรีย์ชัยฯ ไปศาลอาญารัชดา” โดยนัดหมายเคลื่อนขบวนออกจากอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เวลา 15.00 น.

ต่อมาในวันเดียวกัน กลุ่มประชาชนได้รวมตัวกันที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เวลา 15.00 น. โดยได้เริ่มเคลื่อนขบวนโดยรถยนต์และรถจักรยานยนต์ไปทำกิจกรรมที่แยกราชประสงค์ก่อน จากนั้นได้เคลื่อนขบวนมาที่บริเวณหน้าศาลอาญา โดยมวลชนได้เดินทางมาถึงบริเวณหน้าศาลอาญา

เวลาประมาณ 16.55 น. ยอดมวลชนประมาณ 300-350 คน บริเวณด้านหน้าศาลอาญา มีการใช้เครื่องขยายเสียงและด่าทออยู่ตลอดเวลา จากนั้นได้เริ่มประกาศทำกิจกรรม โดยมีการนำสิ่งของ (มะเขือเทศ ไข่ไก่ และ น้ำของเหลวสีแดง) มาแจกให้กับมวลชน จากนั้นมวลชนได้นำสิ่งของดังกล่าว ขว้างปาใส่บริเวณหน้าป้ายศาลอาญา และปาเข้าไปในศาลอาญา

เวลาประมาณ 17.35 น. พ.ต.ท.ศักดิ์ชัย ไกรวีระเดชาชัย รอง ผกก.ป.สน.พหลโยธิน ได้ประกาศเรื่องคำสั่งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เรื่องการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 แต่ไม่ได้รับความร่วมมือแต่อย่าง มวลชนยังคงขว้างปาสิ่งของอย่างต่อเนื่อง

ในเวลาต่อมา 17.40 น. พ.ต.อ.ประสพโชค เอี่ยมพินิจ ผกก.สน.พหลโยธิน จึงได้ประกาศให้มวลชนหยุดการกระทำที่ผิดกฎหมาย โดยหากฝ่าฝืน เจ้าหน้าที่มีความจำเป็นต้องปฏิบัติตามขั้นตอนต่อไป เพื่อให้มวลชนอยู่ในความสงบ แต่มวลชนยังคงไม่หยุดการกระทำ

จนกระทั่งเวลา 18.36 น. แกนนำได้ประกาศให้มวลชนแยกย้ายกลับและยุติกิจกรรม ผู้ชุมนุมจึงได้ทยอยออกจากพื้นที่บริเวณหน้าศาลอาญา โดยเหตุการณ์การชุมนุมในครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พหลโยธิน จะทำการสืบสวนสอบสวนหากพบการกระทำผิดกฎหมาย จะดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป

ส่วนกำลังพลได้รับบาดเจ็บจำนวน 3 นายคือ ส.ต.ต.สุขสันต์ สบเหมาะ สังกัด คฝ.กองร้อย 2
ได้รับบาดเจ็บบริเวณต้นขาข้างซ้าย โดนสะเก็ดพลุ รักษาตัว รพ.ตำรวจ, ส.ต.ต.วุฒิชัย จันทร์หอม สังกัด คฝ.กองร้อย 2 ได้รับบาดเจ็บบริเวณน่องขาข้างซ้าย โดนสะเก็ดพลุ รักษาตัว รพ.ตำรวจ และ ส.ต.ต.รัฐกิตติ์ จันต๊ะวงค์ สังกัด คฝ.กองร้อย 2 ได้รับบาดเจ็บบริเวณข้อมือทั้งสองข้าง โดนสะเก็ดพลุ รักษาตัว รพ.ตำรวจ

รถยนต์ทางรางชการได้รับความเสียหาย จำนวน 6 คัน

  1. รถขยายเสียง อีซูซุ ทะเบียน 32-5396 กทม. กระจกหน้าแตก,ลำโพงเสียหาย,โดนคราบน้ำมัน,กระจกซ้ายแตก และมีรูที่หลังคารถ
  2. รถตู้ โตโยต้า ทะเบียน ฮฐ-1216 กทม. กระจกหน้าแตก (สน.โชคชัย)
  3. รถตู้โตโยต้า ทะเบียน ฮฐ-1232 กทม. กระจกหน้าต่างซ้ายแตก,ไฟตัดหมอกแตก (สน.หัวหมาก)
  4. รถตู้ โตโยต้า ทะเบียน ฮฐ-1235 กทม.(สน.อุดมสุข) ไฟขวาหลุด,ไฟตัดหมอกแตก,กันชนหลุด
  5. รถตู้ โตโยต้า ทะเบียน ฮฐ-1230 กทม.(สน.วังทองหลาง) กระจกบังลมหน้าแตก,กระจกไฟหน้าซ้าย,ขวาแตก
  6. รถกระบะ อีซูซุ โตโยต้า ทะเบียน 6กจ-6282 (สน.วังทองหลาง) ไฟท้ายซ้ายแตก,กระบะด้านซ้ายขูด

ผลการปฏิบัติ จับกุมผู้ต้องหาดำเนินคดี 4 คน

  1. นายคุณภัทร คะชะนา “ข้อหา ร่วมกันมั่วสุมหรือทำกิจกรรมที่มีการรวมคนที่มีความแออัดเกินยี่สิบคนในลักษณะที่เสี่ยงต่อการแพร่ระบาดและอาจเป็นสาเหตุที่ก่อให้เกิดโรคติดต่อ อันเป็นความผิดตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ และ พ.ร.บ.โรคติดต่อ”
  2. นายร่อซีกีน นิยมเดชา
  3. นางสาวหทัยรัตน์ แก้วสีคร้าม
  4. นายธีรศักดิ์ ก๋งมี

ผู้ต้องหาที่ 2-4 ข้อหา “ร่วมกันต่อสู้หรือขัดขวางเจ้าพนักงานฯโดยใช้กำลังประทุษร้ายโดยมีหรือใช้อาวุธ โดยร่วมกันกระทำผิดตั้งแต่สามคนขึ้นไป, ร่วมกันทำร้ายเจ้าพนักงานซึ่งกระทำการตามหน้าที่ฯ, มั่วสุมกันตั้งแต่สิบคนขึ้นไป ใช้กำลังประทุษร้ายฯ, เมื่อเจ้าพนักงานสั่งให้ผู้มั่วสุมเพื่อกระทำผิดให้เลิกไปแต่ผู้กระทำไม่เลิก, ทำให้เสียทรัพย์, ร่วมกันมั่วสุมหรือทำกิจกรรมที่มีการรวมคนที่มีความแออัดเกินยี่สิบคนในลักษณะที่เสี่ยงต่อการแพร่ระบาดและอาจ เป็นสาเหตุที่ก่อให้เกิดโรคติดต่อ อันเป็นความผิดตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ และ พ.ร.บ.โรคติดต่อ”


Cr.ทีมงานประชาสัมพันธ์ บช.น.
สุรเชษฐ ศิลานนท์ รายงาน

error: Content is protected !!