จากภาคกลาง..สู่อีสาน..มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง จัดทีมสังคมสงเคราะห์ และหน่วยแพทย์สงเคราะห์ชุมชน เดินสายฟื้นฟูผู้ประสบอุทกภัยหลังน้ำลดต่อเนื่อง

มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง จัดทีมสังคมสงเคราะห์ และหน่วยแพทย์สงเคราะห์ชุมชน เดินสายฟื้นฟูผู้ประสบอุทกภัยหลังน้ำลดต่อเนื่อง

          วันศุกร์ที่ 20 กันยายน 2562​ : มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง นำโดย นายพินัย ศรีพนาสณฑ์ รักษาการผู้จัดการฝ่ายสังคมสงเคราะห์ จัดทีมสังคมสงเคราะห์ และหน่วยแพทย์สงเคราะห์ชุมชน​ ออกแจกจ่ายเครื่องอุปโภคบริโภค ตรวจรักษาโรคทั่วไป แก่ผู้ประสบภัยน้ำท่วมในพื้นที่ อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น จำนวน 1,700 ชุด ในโครงการ “ฟื้นฟูหลังน้ำลด” พร้อมมอบเงินช่วยเหลือค่าฌาปนกิจศพแก่ญาติผู้เสียชีวิต 1 ราย จำนวน 20,000 บาท รวมงบประมาณเป็นเงินจำนวน 615,000 บาท โดยมี มูลนิธิบ้านไผ่การกุศลสงเคราะห์ (จีไผ่เกาะ) และ มูลนิธิจิตกุศลขอนแก่น เป็นผู้ประสานงานให้ความช่วยเหลือในพื้นที่ พร้อมด้วยผู้แทนจากหน่วยงานราชการ ร่วมในพิธี

          โครงการฟื้นฟูหลังน้ำลดแก่ผู้ประสบอุทกภัย มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง กำหนดมอบเครื่องอุปโภคบริโภคแก่ผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ภาคกลางและภาคอีสานรวม 9 จังหวัด คิดมูลค่าเป็นเงินกว่า 6,000,000 บาท (หกล้านบาทถ้วน)

         เมื่อเกิดอุทกภัย มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้จัดทีมกู้ชีพ กู้ภัย พร้อมเรือท้องแบน และโรงครัวเคลื่อนที่ เพื่อประกอบอาหารกล่อง พร้อมถุงยังชีพ นำแจกจ่ายแก่ผู้ประสบภัย เพื่อการบรร เทาทุกข์และช่วยเหลือเบื้องต้น หลังจากนั้น ฝ่ายสังคมสงเคราะห์ จะฟื้นฟูหลังน้ำลด โดยแจกเครื่องอุปโภคบริโภคที่จำเป็น เช่น ข้าวสาร, บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป, ปลากระป๋อง, น้ำปลา และน้ำมันพืช บรรจุลงในถุงผ้ามูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง และมอบเงินค่าฌาปนกิจศพแก่ญาติผู้เสียชีวิตจากอุทกภัย รายละ 20,000 บาท ทั้งนี้ หากมีผู้เสียชีวิตจากเหตุอุทกภัย ญาติของผู้เสียชีวิตสามารถขอรับเงินช่วยเหลือค่าฌาปนกิจศพ จากมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ที่ สายด่วนป่อเต็กตึ๊ง 1418 ต่อ ฝ่ายสังคมสงเคราะห์

ป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต
ติดต่อ-สอบถาม#ทีมงานสื่อสารองค์กร​ 086-854-1418​ #สายด่วนป่อเต็กตึ๊ง​ 1418

สุรเชษฐ​ ศิลา​นนท์​ รายงาน​

“สายเลือดราชทัณฑ์ ไม่มีวันจาง วันวานที่..พากเพียร..สู่วันเกษียณ..ที่ภาคภูมิ” แด่ ท่านอชิรวิทย์ วชิรเลอพันธุ์ ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษพัทยา จ.ชลบุรี

พัทยา – ท่านอชิรวิทย์ วชิรเลอพันธุ์ ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษพัทยา จ.ชลบุรี จัดงานพิธีวันเกษียณอายุราชการ พร้อมกับผู้ใต้บังคับบัญชาอีก 2 ท่าน คือ หัวหน้ามนฑล เพชรสังข์ และ หัวหน้าอำนาจ ธนภาวัฒน์ โดยจัดงานพิธี ณ ศาลาอเนกประสงค์ บ้านพักข้าราชการฯ
ภายใต้คำมั่น ด้วยรักและผูกพันธ์ สายเลือดราชทัณฑ์ ไม่มีวันจาง แสดงมุทิตาจิตเกษียณอายุราชการ 2562 วันวานที่..พากเพียร..สู่วันเกษียณ..ที่ภาคภูมิ เมื่อค่ำวันที่ 20 กันยายน 2562 ที่ผ่านมา

         ภายในงานมี ท่านยศพนต์ สุธรรม อดีตผู้ตรวจราชการกรมราชทัณฑ์ พันตำรวจเอกอภิชัย กรอบเพชร รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนนทบุรี พร้อมด้วยเหล่าราชการระดับสูงทั้งทหาร ตำรวจ เจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์ เรือนจำพิเศษพัทยา ข้าราชการในพื้นที่พัทยาและใกล้เคียง หัวหน้าหน่วยงาน นักการเมือง ผู้นำท้องถิ่น ผู้นำชุมชน สมาคมชาวใต้ และนักธุรกิจ ที่สนิทมักคุ้นกับท่านอชิรวิทย์ วชิรเลอพันธุ์ ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษพัทยา จ.ชลบุรี ที่เกษียณอายุราชการพร้อมกับผู้ใต้บังคับบัญชาอีก 2 ท่าน ต่างมาร่วมงานร่วมแสดงมุทิตาจิตแสดงความเคารพ นำของขวัญมามอบให้พร้อมร่วมอวยพรให้กับทั้ง 3 ท่าน กันอย่างคับคั่ง

          โดยนายโยธิน พรมแตง หัวหน้าศูนย์ข่าวหนังสือพิมพ์ยุทธศาสตร์ภาคตะวันออก จ.ชลบุรี-หัวหน้าศูนย์ข่าวสำนักข่าวสมาคมตำรวจ และ นายคัมภีร์ อาบสุวรรณ์ รองหัวหน้าศูนย์ข่าวฯ /ผู้สื่อข่าวเนชั่นทีวี-คมชัดลึก พร้อมทีมงานมาร่วมอวยพรแสดงความยินดีและแสดงมุทิตาจิตแด่ท่านในครั้งนี้ด้วย

พัทยา จ.ชลบุรี/ โยธิน พรมแตง -คัมภีร์ อาบสุวรรณ์ -วิรัตน์ ขำแตร-ทนงค์ ปรีเปรม *086-1499878

ลพบุรี – คลิปนาทีระทึกน้ำป่าจากภูเขาไหลหลากพุ่งทะลุศาลาการเปรียญ

https://youtu.be/bOuMqfKQFqM

         วันที่ 21 ก.ย. 62 จากฝนที่ตกลงมาอย่างหนักต่อเนื่องตั้งแต่เวลา 15.00 น. จนถึง 17.30 น. ส่งผลให้มวลน้ำจากภูเขาบ้านซับเสือแมบ หมู่ที่ 10 ต.นิคมสร้างตนเอง ไหลหลากลงสู่พื้นที่ราบต่ำในพื้นที่ลงห้วย หนองถ้ำ ต.หนองถ้ำ หมู่ที่ 7 ต.นิคมสร้างตนเอง ล้นคันห้วย ล้นลำน้ำสาขาต่างๆ ไหลหลากเข้าบ้านเรือนราษฎร มวลน้ำยังได้เอ่อล้น ลงสู่ที่ราบลุ่ม แยกนิคมสร้างตนเอง ซึ่งเป็นย่านเศรษฐกิจ ซึ่งมีทั้งบริษัท ร้านค้า ห้างสรรพสินค้า และโรงพักสาขาย่อย รวมถึงถนนสายพหลโยธิน ซึ่งคาดว่ามวลน้ำจำนวนมากจะส่งผลกระทบในอีก 3-4 ชั่วโมงข้างหน้า ซึ่งขณะนี้ยังมีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง

         เช่นเดียวกันกับวัดเวฬุวัน หรือวัดเขาจีนแล ในพื้นที่ ม.ที่ 6 ต.นิคมสร้างตนเอง ซึ่งเป็นวัดที่ล้อมรอบด้วยภูเขาสูงจำนวนหลายลูก ปริมาณน้ำฝนที่สะสม มวลน้ำมหาศาล จากเทือกเขาได้ไหลหลากรวมกันเป็นก้อน พุ่งตรงลงมายังศาลาการเปรียญอย่างรุนแรง พัดพาสิ่งของต่างๆ ในศาลาการเปรียญกระจัดกระจาย ปลิวไปตามกระแสน้ำ ซึ่งวัดนี้มีพระและแม่ชีจำวัดอยู่จำนวนมาก อีกทั้งยังเป็นที่อยู่อาศัยของนกยูงสายพันธุ์ต่างๆ หลายร้อยตัว โดยขณะนี้ทางผู้นำท้องถิ่นได้เข้าไปตรวจสอบ เร่งช่วยเหลือในเบื้องต้นแล้ว

ภาพ/ข่าว นายโยธิน พรมแตง
นายกฤษณ์ ลพบุรี 0890899090 /รายงาน

นายกรัฐมนตรี – ประชุมคณะกรรมการรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ (ครม.เศรษฐกิจ) ครั้งที่ 3/2562 ร่วมกับรัฐมนตรีและผู้ที่เกี่ยวข้อง

         เมื่อวันที่ (20 ก.ย.62) เวลา 10.30 น. ณ ห้องสีเขียว ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ (ครม.เศรษฐกิจ) ครั้งที่ 3/2562 ร่วมกับรัฐมนตรีและผู้ที่เกี่ยวข้อง

         โดยภายหลังการประชุม นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง กรรมการและเลขานุการ ครม.เศรษฐกิจ แถลงผลการประชุม ครม.เศรษฐกิจ สรุปสาระสำคัญ ว่าที่ประชุมได้หารือเรื่องสืบเนื่องจากการประชุม ครม. เศรษฐกิจ ครั้งที่ผ่านมา ที่นายกรัฐมนตรีขอดูรายละเอียดเพิ่มเติมเรื่องมาตรการส่งเสริมการลงทุน และรองรับการย้ายฐานการผลิตของนักลงทุนต่างชาติในลักษณะ Flow Shart ให้ชัดเจน และให้เห็นถึงความสืบเนื่องของหน่วยงานต่าง ๆ ที่ทำงานร่วมกันจากนั้น ในวาระเพื่อพิจารณา การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย หรือ รฟม. และสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ หรือ สคร. ได้ร่วมกันนำเสนอโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ในส่วนที่เป็นภาคตะวันตกของสายสีส้ม เริ่มตั้งแต่บางขุนนนท์ถึงศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย วงเงิน 122,000 ล้านบาท เนื่องจากเป็นโครงการที่มีวงเงินลงทุนจำนวนมาก นายกรัฐมนตรีต้องการให้มีการหารือในรายละเอียดของโครงการโดยละเอียดระหว่างหน่วยงานต่าง ๆ ก่อนที่จะนำเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรีต่อไป ซึ่งที่ประชุม ครม.เศรษฐกิจ ได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นร่วมกันอย่างที่มีความชัดเจนขึ้นมาก โดยรายละเอียดที่มีความกังวลใจในบางเรื่องก็ได้รับการดูแลอย่างเรียบร้อย รวมทั้งมีการหารือใกล้ชิดกับสำนักงบประมาณ กระทรวงการคลัง และนายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้มีการหารือเพิ่มเติมอีกครั้งประมาณสัปดาห์หน้า หลังจากนั้นจึงจะนำเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีต่อไป ซึ่งรถไฟฟ้าสายสีส้มถือว่ามีความสำคัญต่อเศรษฐกิจและความสะดวกสบายของประชาชนมาก คาดว่าในช่วงแรกที่เปิดบริการ จะมีจำนวนผู้โดยสารจากฝั่งภาคตะวันออกของสายสีส้มประมาณ 121,000 คนต่อวัน และในช่วงที่ก่อสร้างสายตะวันตกเชื่อมกับสายตะวันออกเสร็จสิ้นในปี 2569 คาดว่าจะมีจำนวนผู้โดยสารประมาณ 500,000 คนต่อวันกรรมการและเลขานุการ ครม.เศรษฐกิจ กล่าวต่อว่า ที่ประชุม ครม.เศรษฐกิจ ยังได้หารือเรื่องความคืบหน้าโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ ของกระทรวงคมนาคม ใน 4 ประเภทรวม 44 โครงการ วงเงินรวม 1,947,310 ล้านบาท แบ่งเป็นเงินงบประมาณแผ่นดิน 259,791 ล้านบาท เงินกู้ 1,201,056 ล้านบาท PPP 338,810 ล้านบาท และเป็นรายได้/กองทุน 147,654 ล้านบาท ประกอบไปด้วย 1) โครงการที่คณะรัฐมนตรีอนุมัติแล้วและอยู่ระหว่างการก่อสร้าง 17 โครงการ วงเงิน 782,329 ล้านบาท 2) โครงการที่คณะรัฐมนตรีอนุมัติแล้ว และอยู่ระหว่างเตรียมดำเนินการ 12 โครงการ วงเงิน 412,739 ล้านบาท 3) โครงการที่คณะกรรมการ PPP เห็นชอบแล้ว และ สคร. เตรียมเสนอคณะรัฐมนตรี 2 โครงการ วงเงิน 201,073 ล้านบาท และ 4) โครงการที่จะนำเสนอคณะรัฐมนตรีในระยะต่อไป 13 โครงการ วงเงิน 551,170 ล้านบาท

“ช่วงที่ผ่านมาจะเห็นว่าเศรษฐกิจโลกชะลอตัวลงเรื่อย ๆ เศรษฐกิจไทยก็ได้รับผลกระทบ ล่าสุดตัวเลขการส่งออกก็ได้รับผลกระทบอีก 1 เดือน ครม.เศรษฐกิจมองว่า หัวใจสำคัญของการขับเคลื่อนเศรษฐกิจคือการขับเคลื่อนเศรษฐกิจในประเทศ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการใช้จ่ายและเรื่องของการลงทุน ซึ่งในเรื่องการลงทุน หากเร่งรัดได้โดยเฉพาะการลงทุนของกระ ทรวงคมนาคม ก็จะนำไปสู่การเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณ การใช้จ่ายลงทุนต่าง ๆ รวมไปถึงเรื่องการสร้างงาน การใช้วัตถุดิบต่าง ๆ ครม.เศรษฐกิจวันนี้จึงได้หารือร่วมกันถึงเรื่องที่เป็นอุปสรรคที่จะต้องมีการปลดล็อก เรื่องที่ดำเนินการได้ตามแผนที่ไม่มีอะไรต้องกังวลใจ รวมถึงเรื่องที่ล่าช้าด้วย” นายกอบศักดิ์กล่าว

         กรรมการและเลขานุการ ครม.เศรษฐกิจ กล่าวเพิ่มเติมว่า บางโครงการที่พบว่าติดขัด ติดอุปสรรค เช่น กรณีของโครงการก่อสร้างทางหลวงพิเศษ (มอเตอร์เวย์) สายบางใหญ่ – กาญจนบุรี มีปัญหาเรื่องค่ากรรมสิทธิ์ต่าง ๆ ที่ต้องของบประมาณเพิ่มเติม หรือด่านที่ทำเรื่องการขนส่งสินค้าที่เชียงของ ที่จะมีเรื่องค่าตอบแทน สปก. เป็นต้น รวมถึงบางโครงการที่เคยคุยกันมานานแล้ว เช่น โครงการ Roadside station ที่เชื่อมกับนครปฐม-ชะอำ ยังติดอยู่ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ซึ่งทั้งหมดนี้ ครม.เศรษฐกิจรับทราบ และได้มอบหมายให้กระทรวงคมนาคมและคณะกรรมการติดตามขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ของ ครม.เศษฐกิจ ไปร่วมกันประสานงานกับหน่วยงานต่าง ๆ เพื่อปลดล็อกให้อุปสรรคเหล่านั้นคลี่คลาย เพื่อให้ประ เทศไทยมีโครงการต่าง ๆ ที่จะไปช่วยขับเคลื่อนหมุนเวียนเศรษฐกิจต่อไปในอนาคต ทั้งนี้ หลายโครงการดำเนินการเสร็จแล้วพร้อมจะเดินหน้า แต่ติดอยู่ตรงนั้นตรงนี้ ทำให้เม็ดเงินจำนวนมากไม่สามารถลงไปสู่การขับเคลื่อนได้

          สำหรับการประชุม ครม.เศรษฐกิจ ครั้งต่อไป กำหนดประชุมวันที่ 4 หรือ 7 ตุลาคม 2562 หลังจากที่นายกรัฐมนตรีเดินทางกลับจากเข้าร่วมการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ สมัยสามัญ ครั้งที่ 74 ที่สหรัฐอเมริกา ซึ่ง ครม.เศรษฐกิจจะได้หารือเรื่องการส่งออก และการท่องเที่ยว จากนั้น ลำดับต่อไปจะได้หารือในเรื่อง SMEs และการใช้งบประมาณท้องถิ่นเพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่ต่าง ๆ ซึ่งปัจจุบันยังติดอุปสรรคเรื่องกฎเกณฑ์ต่าง ๆ

         นอกจากนี้ กรรมการและเลขานุการ ครม.เศรษฐกิจ กล่าวให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า เรื่องที่เข้าสู่ที่ประชุม ครม. เศรษฐกิจ แบ่งออกเป็น 3 ประเภท คือ 1. เรื่องที่เป็นนโยบายเชิงรุก ที่จะทำในเชิงการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไปข้างหน้า เช่น ที่ได้มีการนำเรื่องนโยบาย 7 ด้านที่จะมีการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไปพร้อม ๆ กัน ของกระทรวงต่างๆ เข้าสู่การพิจารณาของครม. เศรษฐกิจ ในการประชุมครั้งแรก รวมถึงการกำหนดเป้าหมายที่ฝ่ายเลขานุการ ครม.เศรษฐกิจเป็นผู้ริเริ่ม  2. การมอบหมายงานหลังจากนั้น โดยจากที่มีการประชุม 7 ด้านเสร็จ ก็มีการหา รือว่า นักลงทุนต่างประเทศที่จะเข้าสู่ประเทศไทยถือเป็นหัวใจสำคัญ เป็นโอกาสที่ดีที่สุดในรอบ 20 ปี ซึ่งที่ประชุมได้มอบหมายให้เลขาธิการบีโอไอ นำข้อเสนอในครั้งที่ผ่านมาไปดำเนินการสั่งงานไปที่หน่วยงานต่าง ๆ ซึ่งคณะกรรมการบีโอไอได้ดำเนินการเรียบร้อย และอนุมัติตามแนวทางที่ ครม.เศรษฐกิจ ได้หารือไว้  3. เรื่อง ที่ส่งจากกระทรวงต่าง ๆ เข้าสู่คณะรัฐมนตรีตามปกติ แต่นายกรัฐมนตรีเห็นว่าเป็นโครงการที่ใช้งบประมาณจำนวนมาก หรือเป็นโครงการที่เกี่ยวข้องกับหลาย ๆ กระทรวง อยากให้มีโอกาสหารือโดยละเอียดก่อน  จึงให้นำเข้าหารือช่วยกันระดมความคิดเห็นในที่ประชุม ครม.เศรษฐกิจ ซึ่งโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มที่หารือวันนี้ ก็จัดอยู่ในประเภทที่ 3

ขอบคุณข้อมูล : กลุ่มประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ สำนักโฆษก

เพชรบุรี – สิบล้อเสียหลัก ชนเกาะกลางถนน ไอซ์ 470 กิโลกรัม ตกเกลื่อนถนน

กรณีสิบล้อเสียหลักชนเกาะกลางถนนไอซ์ตกเกลื่อน นำมาตรวจสอบที่สถานีตำรวจทั้งหมดประมาณ 470 กิโลกรัม

         วันที่ 20 ก.ย. 2562 รับแจ้ง เกิดอุบัติเหตุรถสิบล้อเสียหลัก พุ่งชนเกาะกลางถนน
บริเวณทางลอดใต้สะพานยกระดับ เข้าเมืองมีผู้บาดเจ็บ 2 ราย ตรวจสอบรถเบื้องต้นพบยาไอซ์ซุกซ่อนอยู่ในกระบะหลังรถจำนวนมาก ได้นำมาตรวจสอบที่ สภ.เมืองเพชร พบยาไอซ์ ทั้งหมดประมาณ 470 กิโลกรัม

C

มุกดาหาร # ตม.จว.สืบค้นข้อมูล ในระบบรถยนต์ไฟฟ้าตรวจการณ์อัจฉริยะ จับกุมคนลาว Overstay จำนวน 781 วัน

ตามนโยบายของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ให้ระดมกวาดล้างจับกุมคนต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด (Overstay) และผู้กระทำผิดตามกฎหมายคนเข้าเมืองและกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง

         เมื่อวันที่ 21 ก.ย.62 เวลา 09.00 น ตม.มุกดาหาร ภายใต้การสั่งการของ พ.ต.อ.ชนะพณ สุวรรณศรีนนท์ ผกก.ตม.จว.มุกดาหาร บก.ตม.4, พ.ต.ท.ธีรวัฒน์ ทิพย์ธนาวิวัฒ รอง ผกก.ตม.จว.มุกดาหาร บก.ตม.4 และ พ.ต.ท.ยศพร มาศรีนวล สว.ตม.จว.มุกดาหาร บก.ตม.4 เจ้าพนักงานตำรวจที่จับ ว่าที่ ร.ต.ต.จิรภัทร อินทะเนน รอง สว.ตม.จว.มุกดาหาร, ด.ต.สมบัติ แก้วพวง, ด.ต.กานตพงศ์ บุดดีวัน และ ด.ต.ยุทธพล เศษสุวรรณ ผบ.หมู่ ตม.จว.มุกดาหาร ได้ทำการจับกุม MR.BOUNPASONG SOUPHANSA อายุ 19 ปี สัญชาติลาว ถือหนังสือ เดินทางเลขที่ PA 0120313 ข้อหา “เป็นคนต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด” สถานที่จับกุม บริเวณสถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดมุกดาหาร ต.มุกดาหาร อ.เมืองจ.มุกดาหาร

         พฤติการณ์ในการจับกุม ตามวันและเวลาที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้ออกตรวจพื้นที่รับผิดชอบ บริเวณสถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดมุกดาหาร ได้ตรวจพบ MR. BOUNPASONG SOUPHANSA อายุ 19 ปี สัญชาติลาว (ทราบชื่อ-สกุล อายุ และสัญชาติภายหลัง) ยืนอยู่บริเวณที่ดังกล่าว มีรูปร่างลักษณะท่าทางมีพิรุธคล้ายคนต่างด้าว จึงได้แสดงตัวเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองและขอตรวจสอบเอกสารประจำตัว ผู้ถูกจับไม่มีเอกสารหลักฐานมาแสดงแต่อย่างใด จากการสอบถามรับว่าตนเป็นบุคคลสัญชาติลาว เจ้าหน้าที่จึงสอบถามว่ามีหนังสือเดินทางหรือไม่ ผู้ถูกจับแจ้งว่าได้สูญหายมานานแล้ว เบื้องต้นสืบค้นข้อมูลในระบบรถยนต์ไฟฟ้าตรวจการณ์อัจฉริยะ (ระบบ PIBICS) ปรากฏว่าพบข้อ มูลการเดินทาง เจ้าหน้าที่จึงได้นำตัวผู้ถูกจับมาที่ทำการงานสืบสวนปราบปราม ตม.จว. มุกดาหาร เพื่อตรวจสอบข้อมูลการเดินทางเข้า-ออกราชอาณาจักร โดยละเอียด

         จากการตรวจสอบข้อมูล ในระบบเทคโนโลยีสารสนเทศของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ด้วยระบบไบโอเมทริกซ์(Biometrics) พบข้อมูลว่า ผู้ถูกจับถือหนังสือเดินทางเลขที่ PA 0120313 ได้เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรครั้งล่าสุด เมื่อวันที่ 3 กรกฏาคม 2560 (3 JUL 2017) ได้รับการตรวจลงตราประเภท ผผ.30 อนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักร ถึงวันที่ 1 สิงหาคม 2560 (1 AUG 2017) แต่ผู้ถูกจับได้อยู่ในราชอาณาจักรมาโดยตลอดจนถึงปัจจุบัน เจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งให้ทราบว่า การกระทำดังกล่าวเป็นความผิดข้อหา “อยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด” ตามพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ.2522 จึงทำการจับกุมและนำตัวผู้ต้องหาส่ง พนักงานสอบสวน สภ.เมืองมุกดาหาร ดำเนินคดีตามกฎมายต่อไป.


ธานินทร์, ฐานิตา, สมเกียรติ /ผู้สื่อข่าวมุกดาหาร

พวงเพชร จันทร์ดี / หัวหน้าศูนย์ข่าวมุกดาหาร

เดวิด มุกดาหาร ศูนย์ข่าว สำนักข่าวความมั่นคง มุกดาหาร รายงาน

ทัพเรือภาคที่1 จัดพิธี ย่ำพระสุริย์ศรี อำลาชีวิตราชการอย่างสมเกียรติ

         ที่หน้ากองบัญชาการทัพเรือภาคที่1 อ. สัตหีบ จ.ชลบุรี ได้จัดพิธีอำลาการรับราชการของผู้ครบเกษียณอายุราชการ กระทำพิธีย่ำพระสุริย์ศรี อำลาชีวิตราชการของ พลเรือโท บรรจบ โพธิ์แดง ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 1 และข้าราชการ ซึ่งมีผู้ครบกำหนดเกษียณอายุราชการ จำนวน 6 นาย ผู้ขอลาอออกตามโครงการ เกษียณอายุราชการ 1 นาย โดยมีนายทหารชั้นผู้ใหญ่ ข้าราชการทหาร ลูกจ้าง ตลอดจนครอบครัวกำลังพลเข้าร่วมในพิธี

         โดยในลำดับพิธีในวันนี้ ผู้เกษียณอายุราชการนำพวงมาลัยถวายบูชาพระบรมสารีริก ธาตุและถวายพวงมาลัย รูปหล่อพลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ บริเวณชั้น 3 หลังจากนั้นได้ลงมารับชมการแสดงของวงโยธวาธิตของหน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง และพิธีย่ำพระสุริย์ศรี ดวงอาทิตย์เคลื่อนลับขอบฟ้า ในช่วงเวลายามเย็น พร้อมมอบของที่ระลึกให้กับผู้อำลาชีวิตราชการ ปิดท้ายด้วยการเดินลอดซุ้มกระบี่ นับว่าเป็นการอำลาชีวิตราชการอย่างสมเกียรติ

         พลเรือโท บรรจบ โพธิ์แดง กล่าวว่า ผู้ครบเกษียณอายุราชการ รวมทั้งผู้ที่ขอลาออกก่อนเกษียณ อายุราชการ พวกท่านนั้น พิสูจน์ให้เห็นถึงความผูกพัน ความยึดมั่นในความเสียสละ ที่มีต่อกองทัพเรืออันเป็นที่รักยิ่งของพวกเรา นอกจากความเจริญก้าวหน้าในตำแหน่งหน้าที่ราชการที่มีมาตามลำดับแล้ว ผลงานและคุณงามความดีที่มีต่อกองทัพเรือ ในด้านผลการปฏิบัติงานด้วยความเสียสละและความสามารถตลอดระยะเวลาอันยาวนาน จึงนับว่ามีส่วนสำคัญในการสร้างความเจริญรุ่งเรืองให้แก่ ทัพเรือภาคที่ 1 และกองทัพเรือตลอดมา ผู้ที่ครบเกษียณอายุราชการรวมทั้งผู้ที่ขอลาออกก่อนเกษียณอายุราชการ ประจำปี 2562 จึงสมควรแก่การได้รับการยกย่องสรรเสริญเป็นอย่างยิ่ง

         ในโอกาสที่ท่านจะต้องอำลาชีวิตราชการจากกองทัพเรือ ไปตามวาระในวันที่ 30 กันยายนนี้ ทัพเรือภาคที่1 กระทำพิธีย่ำพระสุริย์ศรี เพื่อเป็นการเชิดชูเกียรติและแสดงความขอบคุณ ที่ท่านได้ปฎิบัติหน้าที่ด้วยความเสียสละเพื่อประเทศชาติมาอย่างยาวนาน ซึ่งตลอดเวลาดังกล่าว ท่านได้สร้างคุณประโยชน์ให้กับทัพเรือภาคที่1 ในด้านต่างๆนานับประการ

ภาพ/ข่าว นิราช ทิพย์ศรี /นันทพล ทิพย์ศรี ผู้สื่อข่าว จ.ชลบุรี
นายพรเทพ เขม้นเขตวิทย์ รายงานจากศูนย์ข่าวภาคตะวันออก

มุ่งหน้าสู่อุบลราชธานี !! นายกแหลมฉบัง ปล่อยขบวนรถบรรทุกถุงยังชีพช่วยน้ำท่วม จ.อุบลฯ

         ที่บริเวณด้านหน้าเทศบาลนครแหลมฉบัง ตำบลทุ่งสุขลา อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี นางจินดา ถนอมรอด นายกเทศมนตรีนครแหลมฉบัง พร้อมด้วยสมาชิกสภาเทศบาล, หัวหน้าส่วนราชการ, คณะกรรรมการชุมชน และบริษัทเอกชนภายในเขตเทศบาลนครแหลมฉบัง ได้ร่วมกันปล่อยขบวนรถบรรทุกถุงยังชีพ ส่งน้ำใจช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยน้ำท่วม ในพื้นที่ จ.อุบลราชธานี อาทิ เครื่องอุปโภค บริโภค ที่จำเป็นประเภท ข้าวสารอาหารแห้ง, น้ำดื่ม, บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป, ปลากระป๋อง, ผักกาดกระป๋อง, เครื่องนุ่งห่ม, ยารักษาโรค ที่มีพี่น้องประ ชาชนชาวแหลมฉบัง ได้ร่วมกันบริจาค นำไปส่งมอบให้พี่น้องผู้ประสบอุทกภัยในเขตพื้นที่ จ.อุบลราชธานี

          และสำหรับการปล่อยขบวนในครั้งนี้ ได้มีรถบรรทุก 6 ล้อ จำนวน 8 คัน กลุ่มออฟโรด และเจ้าหน้าที่ ที่เกี่ยวข้อง ร่วมเดินทางไปส่งมอบในครั้งนี้อีกด้วย

ภาพ/ข่าว สมชาย แก้วนุ่ม   ผู้สื่อข่าว จ.ชลบุรี
นาย พรเทพ เขม้นเขตวิทย์ รายงานจากศูนย์ข่าวภาคตะวันออก

จันทบุรี-แขวงทางหลวงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่สำรวจและขุดขยายช่องทางระบายน้ำ ริมถนน ปากทางสไลด์เดอร์ เปิดพื้นที่ทางระบายน้ำในจุดที่น้ำท่วมซ้ำซาก

แขวงทางหลวงจันทบุรีและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่สำรวจและขุดขยายช่องทางระบายน้ำริมถนนปากทางสไลด์เดอร์ เปิดพื้นที่ทางระบายน้ำในจุดที่น้ำท่วมซ้ำซาก

         วันนี้ ( 20 ก.ย.62 )ที่บริเวณปากทางเข้าสไลด์เดอร์ ถนนรักศักดิ์ชมูลฝั่งขาออก ตัวเมืองจันทบุรี ตำบลท่าช้าง อำเภอเมืองจันทบุรี นายวิทูรัช ศรีนาม ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี พร้อมด้วยนายวิวัฒน์ มหาผลศิริกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี, นายสวัสดิ์ เทียมมีเชาว์ รองผู้อำนวยการแขวงทางหลวงจังหวัดจันทบุรี, หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดจันทบุรี และคณะผู้บริหารเทศบาลเมืองท่าช้าง ได้ร่วมกันลงพื้นที่ นำเจ้าหน้าที่ทำการขุดลอกทางระบายน้ำริมถนนปากทางสไลด์เดอร์ ซึ่งเป็นจุดที่น้ำท่วมซ้ำซาก น้ำรอการระบาย เมื่อมีฝนตกลงมาแต่ละครั้ง จะเกิดน้ำท่วมขัง เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุได้ง่าย เนื่องจากเวลามีฝนตกและน้ำจะไหลข้ามทาง หากผู้ไม่คุ้นชินเส้นทาง และขับรถมาด้วยความเร็ว เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ

          เบื้องต้นทางแขวงทางหลวงจังหวัดจันทบุรี ได้นำเจ้าหน้าที่ขุดลอกท่อพักน้ำ ให้นำสามารถไหลได้สะดวกมากยิ่งขึ้น โดยได้รับความร่วมมือจากเจ้าของที่ ชาวบ้านภาคเอกชน ใกล้เคียงให้น้ำไหลผ่านที่ของตนเองเป็นการแก้ปัญหาน้ำรอการระบายเนื่องจากฝนตกหนักบนถนนเส้นดังกล่าว

ภาพ/ข่าว จรัล บรรยงคเสนา  ผู้สื่อข่าว จ.จันทบุรี
นาย  พรเทพ เขม้นเขตวิทย์ รายงานจากศูนย์ข่าวภาคตะวันออก

รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข และคณะตรวจเยี่ยมการให้บริการ ด้านสาธารณสุขในพื้นที่จังหวัดจันทบุรี พร้อมพบปะพูดคุยกับ อสม. และให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ แพทย์ พยาบาล

รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุขและคณะตรวจเยี่ยม การให้บริการด้านสาธารณสุขในพื้นที่จังหวัดจันทบุรี พร้อมพบปะพูดคุยกับ อสม.และให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ แพทย์ พยาบาล

         วันนี้ ( 21 ก.ย.62 ) นายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข และคณะ ได้เดินทางมาปฏิบัติราชการตรวจเยี่ยม หน่วยบริการเคลื่อนที่ลอกต้อกระจกฟรี ช่วยเหลือประชาชน ที่วัดศรีเมืองท่าใหม่ โดยนายวิทูรัช ศรีนาม ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี นำส่วนราชการที่เกี่ยวข้องและอสม.ให้การต้อนรับ

         หลังจากนั้น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข และคณะได้เดินทางมาที่โรงพยาบาลพระปกเกล้า จันทบุรี ชมความพร้อมอุปกรณ์การแพทย์ ให้บริการ ศูนย์มะเร็ง ศูนย์โรคหัวใจ และศูนย์ไตเทียม สร้างความมั่นใจแก่ผู้รับบริการและประชาชนทั่วไป พร้อมทั้งให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ แพทย์ พยาบาล บุคลากรทางด้านสาธารณสุข โดยมีนายแพทย์วินัย บรรจงการ รองผู้อำนวยการฝ่ายการแพทย์ ให้การต้อนรับและบรรยายสรุปนำเสนอภาพรวมของงานบริการด้านสาธารณสุข การรักษาผู้ป่วย และ การป้องกันโรค ปัญหาการจัดบริการของโรงพยาบาล การพัฒนาโรงพยาบาลตามนโยบายของกระทรวงสาธารณสุข ความต้อง การสนับสนุนจากภาครัฐ และลงเยี่ยมพื้นที่ อาคารศูนย์ความเป็นเลิศด้านมะเร็ง ศูนย์ความเป็นเลิศด้านหัวใจ และศูนย์ไตเทียม

         ส่วนภาคบ่าย นายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประ ธาน เปิดศูนย์บริการสุขภาพข้ามพรมแดนและพบปะพูดคุยให้กำลังใจ อสม.ที่ รพ.สต.หนองตาคง อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี


ภาพ/ข่าว จรัล บรรยงคเสนา  ผู้สื่อข่าว จ.จันทบุรี
นาย  พรเทพ เขม้นเขตวิทย์ รายงานจากศูนย์ข่าวภาคตะวันออก